โทมิจิ ซูซุกิ (Tomiji Suzuki) วัย 89 ปีชาวญี่ปุ่นเริ่มเขียนโค้ดเมื่อเกษียณอายุ และตอนนี้กำลังสร้างแอปสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยใช้ ChatGPT เพื่อปรับแต่งทักษะของเขา
จนถึงขณะนี้ ซูซุกิ ได้พัฒนาแอป iPhone 11 แบบฟรีๆ โดยไม่คิดค่าบริการ ซึ่งเป็นแอปเพื่อช่วยเหลือประชากรสูงอายุของญี่ปุ่น รวมถึงแอปล่าสุดของเขา คือ สไลด์โชว์รายการที่ต้องจดจำเมื่อออกจากบ้าน ตั้งแต่กระเป๋าสตางค์ เครื่องช่วยฟัง ไปจนถึงบัตรลงทะเบียนผู้ป่วย
ความน่านสนใจก็คือแอปนี้มีเสียงของหลานสาวของเขาเป็นองค์ประกอบ ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจให้สร้างแอป หลังจากที่เขารู้ว่าเขาลืมฟันปลอมขณะกำลังจะขึ้นรถไฟหัวกระสุน
“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุได้” เขาหัวเราะ บอกกับสำนักข่าว AFP ว่าวัยของเขาได้เปรียบเมื่อต้องคิดไอเดียสำหรับโครงการต่างๆ
“ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหน ผมไม่คิดว่าคนหนุ่มสาวจะเข้าใจความต้องการและความคาดหวังของผู้สูงอายุ” เขาบอก
เกือบหนึ่งในสามของประชากรญี่ปุ่นมีอายุ 65 ปีขึ้นไป ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประชากรสูงวัยที่สุดในโลกรองจากโมนาโก แต่โมนาโกเป็นเพียงประเทศเล็กๆ นอกจากนี้ ประชากรหนึ่งใน 10 ของคนของญี่ปุ่นมีอายุสูงถึง 80 ปี
เช่นเดียวกับในประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ อัตราการเกิดที่ลดลงทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดวิกฤติด้านประชากรศาสตร์ โดยจะมีคนงานไม่เพียงพอที่จะรองรับจำนวนผู้เกษียณอายุที่เพิ่มขึ้น
ซูซุกิ เคยทำงานที่บริษัทซื้อขายหลักทรัพย์แต่มีความสนใจด้านคอมพิวเตอร์ในช่วงบั้นปลาย โดยเข้าเรียนหลักสูตรการเขียนโปรแกรมในช่วงต้นปี 2010
“ผมชอบสร้างสิ่งต่างๆ” เขากล่าว
"ตอนที่ผมค้นพบว่าผมสามารถพัฒนาแอปได้ด้วยตัวเอง และหากทำได้ Apple จะทำการตลาดแอปเหล่านั้นไปทั่วโลก ตอนนั้นแหละ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม"
- ที่ปรึกษาที่ชื่อ ChatGPT -
เพื่อช่วยเขาสร้างแอป "สไลด์เสียงบอกเตรียมตัวสำหรับการไปข้างนอก" ซึ่งเปิดตัวในเดือนเมษายน ซูซุกิ ได้ถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโค้ดประมาณ 1,000 คำถามกับ ChatGPT
เขาอธิบายว่าแชทบอท แบบ generative AI นั้นเป็นเหมือน "ครูผู้ยิ่งใหญ่" และยังได้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการใช้แชทบอทดังกล่าวเป็นที่ปรึกษาด้านการเขียนโปรแกรมด้วย
“ผมโชคดี… ถ้าผมเสียชีวิตไปหนึ่งปีหรือสองปีที่แล้ว ผมคงไม่ได้เจอหน้ากัน (ChatGPT)” เขากล่าว
ซูซุกิ กล่าวว่างานเก่าของเขาเกี่ยวข้องกับการส่งออกรถยนต์ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่นๆ ด้วย ประสบการณ์นี้ช่วยให้เขาถามคำถามที่ถูกต้องได้
"สมัยเด็กๆ ที่บ้านค้าขายใช้โทรเลขในการสื่อสาร คุณต้องส่งข้อความที่ชัดเจนด้วยประโยคสั้นๆ เพียงประโยคเดียว"
แอปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเขาคือ "บันทึกการนับชิ้งฉ่อง" ซึ่งมีการดาวน์โหลด 30 ครั้งในแต่ละสัปดาห์ แม้จะไม่ได้ใช้ความพยายามโปรโมททางการตลาดเลยก็ตาม
ตอนที่ ซูซุกิ ได้รับการผ่าตัดไส้เลื่อนเมื่อสองปีที่แล้ว พยาบาลจะถามเขาว่าเขาปัสสาวะกี่ครั้งแล้ว
แต่ด้วยจำนวนครั้งที่ไปปัสสาวะสูงถึง 12 คนต่อวันหลังการผ่าตัด “ผมจำไม่ได้เลยถ้าไม่บันทึกมันไว้” เขาเล่าให้ฟัง และตัดสินใจสร้างแอปขึ้นมาเพื่อช่วยติดตาม
คินจิ ซูซุกิ วัย 92 ปี พี่ชายของนักพัฒนาแอปรายนี้ได้ใช้แอปหลายตัวของน้องชาย รวมถึง "ผู้ช่วยเสียงนำเข้า"
“มันมีประโยชน์เพราะเมื่อคุณอายุมากขึ้น การพิมพ์จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก” เขากล่าว พร้อมสาธิตวิธีใช้เครื่องมือจดจำเสียงเพื่อส่งอีเมล
- เข้ากันได้ดีเพราะเคมีเดียวกับ AI -
เอตสึโนบุ โอนูกิ วัย 75 ปี เปิดร้านเครื่องช่วยฟังในย่านชานเมืองโตเกียว โดยมีซูซุกิที่เป็นรุ่นน้องของเขาเป็นลูกค้า
เขาใช้แอปเสริมสร้างกล้ามเนื้อปากที่สร้างโดยซูซูกิชื่อ "A-I-U-Be Workout" หลังจากเสียงที่ผู้ใช้ได้รับแจ้งให้ทำ
“ผมมักจะทำขณะนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ” โอนุกิ เล่าให้ฟัง ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของแอปสไลด์โชว์ตัวใหม่นี้ ซึ่งทำให้เขาไม่ทิ้งกุญแจบ้านไว้ในร้านเมื่อปิดร้าน
“ผมอยากจะแนะนำแอปนี้ให้กับลูกค้าของผม” หลายคนอยู่ในช่วงอายุ 70 และ 80 และมักจะลืมนำบัตรลงทะเบียนมาที่ร้าน
ซูซุกิ เป็นสมาชิกของกลุ่มระดับชาติที่เรียกว่า Senior Programming Network (SPN) และกล่าวว่าสมาชิกคนอื่นๆ ได้ช่วยเหลือเขาตลอดการเรียนรู้เพื่อเป็นโปรแกรมเมอร์
คัตสึชิโระ โคอิซึมิ ผู้ก่อตั้ง SPN วัย 51 ปี เชื่อว่า "ผู้อาวุโสและ AI มีเคมีที่เข้ากันได้ดี"
เขาเรียกร้องให้สมาชิกก้าวไปอีกขั้นหนึ่งและฝังเครื่องมือ AI ภายในแอปของตน ซึ่งผู้สูงอายุสามารถโต้ตอบด้วยได้ เพราะ AI กำลังเติบโต้อย่างต่อเนื่อง
"ผู้ใช้สามารถใช้งานแอปได้โดยเพียงแค่พูดภาษาธรรมชาติ" เพราะบางครั้งผู้สูงอายุจะกดปุ่มค้างไว้หรือลากและวางไอคอนบนหน้าจอโทรศัพท์ขนาดเล็กได้ยาก
ซูซุกิ เห็นด้วยและกล่าวว่าถึงแม้อุปสรรคในการเป็นนักพัฒนาแอปผู้สูงอายุจะมีอุปสรรคสูง "เมื่อคุณเจาะลึกเข้าไปในโลกนี้ คุณจะเห็นว่ามันสนุกมาก"
“ถ้าไม่มีอะไรทำหลังเกษียณก็ลองดูสิ คุณจะได้ค้นพบตัวตนใหม่”
Story by Agence France-Presse
Photo by Philip FONG / AFP