เมื่อคอนโด บ้าน และเมืองของคุณ ถูกทุนสีเทายึดไปแบบไม่รู้ตัว

เมื่อคอนโด บ้าน และเมืองของคุณ ถูกทุนสีเทายึดไปแบบไม่รู้ตัว

เมื่อเร็วๆ นี้ คนบาร์เซโลนาเกือบ 3,000 คนประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยว มีคลิปเหตุการณ์ตอนที่ผู้ประท้วงใช้ปืนฉีดน้ำยิงไปที่นักท่องเที่ยวด้วยซ้ำ เป็นภาพที่เหลือเชื่อสำหรับคนที่เคยไปบาร์เซโลนาและที่อื่นๆ สเปน เพราะประเทศนี้หากินกับการท่องเที่ยว และผู้คนค่อนข้างเป็นมิตร

แต่คนบาร์เซโลกนาทนไม่ไหวแล้ว เพราะการเปลี่ยนห้องพักและบ้านคนธรรมดาให้เป็นที่พักนักท่องเที่ยว (เช่นแอปดังแอปหนึ่งเป็นโต้โผในเรื่องนี้) พูดง่ายๆ คือแทนที่จะสร้างโรงแรม กลับอาศัยช่องโหว่ทำบ้านคนให้เป็นโรงแรม

กรณีนี้ไม่ถึงกับเป็ย 'ธุรกิจเทา' เพียงแค่เป็นการหาช่องโหว่เพื่อหากิน แม้จะไม่ละเมิดกฎหมายเสียทีเดียว แต่มันทำร้ายผู้คนเต็มๆ 

บาร์เซโลนาเป็นเมืองสวยและโรแมนติก ผมเคยไปเยือนเมื่อทศวรรษก่อน ประทับใจทั้งบ้านเมืองและผู้คน จึงคิดอยากจะกลับไปอีก แต่ตอนนี้ชักกลัวซะแล้ว

เพราะความน่าเที่ยวนี่เองจึงมีคนมาเยือนเมืองแห่งนี้ถึง 85 ล้านคนในปี 2023 

แต่แทนที่จะสร้างโรมแรมรองรับ พวกหัวหมอก็ฉวยโอกาสเปลี่ยนห้องชุดกับบ้านทำเป็นโรงแรมซะเลย เพราะมันสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวจะได้พักในใจกลางเมือง

ผลก็คือในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาค่าเช่าห้องชุดและบ้านในเมืองพุ่งขึ้นมาถึง 68% เฉพาะค่าซื้อบ้านเพิ่มขึ้นมา 38% และเฉพาะปีที่แล้วค่าเช่าเพิ่มขึ้นพรวดพราดถึง 18% คาดว่าเพราะปีที่แล้ว การท่องเที่ยวของโลกเพิ่มจะกลับมาปกติเต็มที่อีกครั้ง

ในบาร์เซโลนามีบ้านและห้องชุดถูกเปลี่ยนไปเป็นห้องพักทัวริสต์แล้วเท่าไร? สามารถประเมินได้จากข้อมูลของ เฮาเม กอลโบนี (Jaume Colboni) นายกเทศมนตรีเมืองบาร์เซโลนาที่ประกาศเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนว่าจะมีการสั่งห้ามให้เช่าอพาร์ตเมนต์สำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 10,000 ห้องภายในปี 2028 หรือพูดง่ายๆ คือในปีนั้นจะต้องไม่มีการปล่อยห้องให้นักท่องเที่ยวเช่ากันอีก 

หมายความว่าตอนนี้มันจะต้องมีประมาณ 10,000 แห่ง ซึ่งถือว่ามากเอาการสำหรับเมืองระดับ city ที่ไม่ใหญ่มากมายนัก ดังนั้น จึงสมแก่เหตุผลแล้วที่ชาวเมืองจะเกลียดนักท่องเที่ยว เพราะเข้ามาแย่งบ้านของคนท้องถิ่น 

นี่เป็นตัวอย่างที่ดีว่า เราจะต้องถ่วงดุลดีๆ ระหว่าง 'เงินจากการท่องเที่ยว' 'ยอดขายคอนโดและบ้าน' กับ 'คุณภาพชีวิตของเจ้าของประเทศที่จะแย่ลง'

สเปนเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดอันดับสองของโลก ไทยเราก็ติดอันดับท็อปของโลกเหมือนกัน และตอนนี้เริ่มมีปัญหาลักษณะเดียวกัน

ในขณะที่บาร์เซโลนาเผชิญกับปัญหาห้องชุดแพงเพราะถูกปล่อยให้ทัวร์เข้ามาอยู่ ที่ไทยมีปรากฏการณ์คล้ายๆ กัน คือการ "แอบปล่อยห้องเช่าให้ทัวร์เข้ามาพัก" แบบเดียวกับที่บาร์เซโลนาเป๊ะเลย เพียงแต่กรณีของไทยมันเทาจริงๆ เพราะเรื่องแบบนี้ผิดกฎหมาย แต่ก็ยังมีคนทำกันแบบไม่ละอาย

ผมได้รับทราบข้อมูลมาว่า มีคอนโดบางแห่งถูกปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักในลักษณะพักรายวัน ทั้งๆ ที่ผิดกฎหมาย เมื่อเจ้าของร่วม (หมายถึงเจ้าของห้องชุดในคอนโด) แจ้งไปยังฝ่ายนิติบุคคลของคอนโด ก็ไม่ได้รับการแก้ไข 

ตรงกันข้าม ผู้ร้องเรียนทราบมาว่าพนักงานของนิติฯ บางแห่งร่วมมือกับ 'เอเย่นต์' เพื่อพานักท่องเที่ยวเข้ามาพักในคอนโดด้วยซ้ำ 

มีข้อมูลว่า เมื่อมีการแจ้งเรื่องในที่ประชุมเจ้าของร่วมคอนโด และมีการออกเสียงเพื่อขับไล่นิติบุคคลดังกล่าว ปรากฏว่า มีการรวมหัวกับเอเย่นต์ทัวริสต์ทำการเกณฑ์คนนอกโครงการเข้ามาเป็นผู้รับมอบฉันทะในการออกเสียง แล้วคนนอกเหล่านั้นก็ช่วยกันโหวตรับรองนิติให้ทำงานต่อไป พูดง่าๆย คือช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ บนความเสียหายของลูกบ้าน

ถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้นได้? คาดว่าเพราะเอเย่นต์ดังกล่าวน่าจะกว้านซื้อห้องชุดเอาไว้ในจำนวนมาก หรือไม่ก็จ้างนอมินีคนไทยให้ช่วยด้วยอีกแรง แล้วเวลามีการออกเสียงลงคะแนนก็จะจ้างคนนอกเข้ามาใช้สิทธิ์แทนตน และออกเสียงในประเด็นที่ต้นได้ประโยชน์

เมื่อนิติฯ ชุดเดิมอยู่ต่อไปได้ ก็จะช่วยเอเย่นต์จัดห้องพักให้ทัวร์ต่างชาติต่อไป โดยไม่แยแสกับความเดือดร้อนของเจ้าของตัวจริง

กรณีนี้ทำให้เกิดความกังวลในหมู่คนอยู่คอนโด ว่าแค่ตอนนี้รัฐบาลอนุญาตให้คนต่างชาติซื้อห้องชุดได้ในสัดส่วน 49% อีก 51% ผู้ครอบครองต้องเป็นคนไทย ก็ยังมีการหาช่องโหว่จนได้

เพราะคนไทยที่มีใจขายชาติมันมีอยู่จริง คนพวกนี้พร้อมที่จะเป็นนอมินี (หรือทาส) ให้ทุนเทาต่างชาติได้เสมอ ต่อให้ต่างชาติซื้อห้องไป 49% อีก 51% เป็นของคนไทย ใน 51% ของคนไทยก็ต้องมีพวกขายวิญญาณให้ทุนเทาแฝงตัวอยู่ในนั้นเหมือนกัน 

ถ้าวันหนึ่งให้คนต่างชาติถือครองคอนโดได้ 75% จะไม่วอดวายกันไปใหญ่หรือ? สุดท้ายคนไทยที่เป็นเจ้าของร่วมคอนโดที่อาศัยอยู่จริงๆ ก็จะกลายเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่มีปากมีเสียงในบ้านของตัวเอง

แม้ว่านายกฯ จะบอกว่า การให้ต่างชาติครอบครองห้องชุดได้ 75%  แต่สิทธิการออกเสียงยังเป็น 49% แต่ท่านโปรดดูกรณีตัวอย่างนี้เถิด นี่แค่ตัวอย่างเดียวเท่านั้นยังร้ายกาจขนาดนี้ มันยังมีการใช้ช่องโหว่แบบอื่นๆ เพื่อบีบคนไทยและหากินบนความทุกข์ของคนไทยอีกหลายรูปแบบ

นี่คือภาพสะท้อนขนาดย่อมของการปล่อยให้ต่างชาติที่มีทุนเทา เข้ามามีโอกาสทำธุรกิจเทาให้ขาวสะอาด หลังจากที่รัฐบาลออกกฎหมายเอื้อไปแล้ว 

มันเริ่มรุนแรงถึงขนาดที่ไม่ใช่แค่เกิดขึ้นกับคอนโดแต่เกิดขึ้นกับบ้านเดี่ยวด้วย เพราะคนไทยบางคนขายวิญญาณให้ทุนเทาไปซื้อบ้านแทนให้นั่นแหละ บางหมู่บ้านจึงมีคนต่างชาติไปอยู่เป็นกลุ่ม จนคนไทยทนไม่ไหว

คนไทยนั้นใจเย็นครับ แต่พอล้ำเส้นคนไทยจะใจร้ายทันที กรณีของบางหมู่บ้านถึงกับมีการใช้กฎหมายของคนไทยไปจัดการคนต่างชาติพวกนั้นกันเอง เพราะนิติฯ ก็ขายตัวไปแล้ว และเจ้าหน้าที่ก็พึ่งไม่ได้ แถมรัฐบาลยังจะออกกฎหมายเอื้ออีก 

เช่นเดียวกับที่ คนบาร์เซโลนา ที่ใช้กฎหมู่ไปฉีดน้ำแล้วด่าไล่นักท่องเที่ยวนั่นแหละ กรณีนี้ออกจะเหมารวมไปหน่อย แต่มันสะท้อนถึงความเจ็บช้ำน้ำใจของคนท้องถิ่นที่ถูกพวกมีทุนและพวกเห็นแก่ได้แย่งชิงบ้านไปจากพวกเขา

ปัญหานอมินีขายตัวให้ต่างชาติมีมานานแล้ว แค่กระจุกในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ แต่ผมกลัวว่าต่อไปจะระบาดไปทั่ว โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เพราะทุนเทาต้องการที่ระบายเงินและหาเงินแหล่งใหม่ๆ เนื่องจากถูก 'รัฐบาลประเทศพี่ใหญ่' กวาดล้างอย่างหนัก

แล้วตอนนี้ไม่มีประเทศไหนที่จะเหมาะกับการหมุนเวียนทุนสีเทา เท่ากับประเทศไทยอีกแล้ว

บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการ และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - ผู้ประท้วงเข้าร่วมในการประท้วงต่อต้านการท่องเที่ยวมวลชนในตรอก Las Ramblas ของบาร์เซโลนาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2024 การประท้วงต่อต้านการท่องเที่ยวมวลชนได้ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทั่วสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้เข้ามาเยือนมากเป็นอันดับสองของโลก (ภาพโดย Josep LAGO / AFP)

TAGS: #อสังหาริมทรัพย์ #ทุนเทา