สมาชิกสภาคองเกรสรุมสับซีอีโอ TikTok เป็นเวลาถึง 5 ชั่วโมง โดยกล่าวหาว่าเป็นแอปที่เสี่ยงต่อความมั่นคงและเป็นภัยต่อเยาวชนอเมริกัน
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานว่า เมื่อ 23 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. คณะกรรมาธิการสภาคองเกรสได้เรียกตัวนาย โจว โซ่วจือ ซีอีโอของติ๊กต๊อก (TikTok) เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการสภา จากกรณีที่สมาชิกสภาคองเกรสกำลังตรวจสอบแอปพลิคเชั่นติ๊กต๊อกในหลายข้อกล่าวหา ตั้งแต่ที่ถูกมองว่าเป็นแอปสำหรับช่วงรัฐบาลจีนล้วงข้อมูล จนถึงความปลอดภัยของแพลตฟอร์มว่ามีความเหมาะสมต่อผู้ใช้งานชาวอเมริกันหรือไม่
ในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการของสภาคองเกรส แคธี แมคมอร์ริส ร็อดเจอร์ส สส.พรรครีพับลิกัน เปิดฉากด้วยการกล่าวกับนายโจว โดยเธอสังเกตว่าหลังจากสร้างบัญชีบนติ๊กต๊อกเสร็จไปแล้วเพียงไม่กี่นาที อัลกอริทึมของแอปก็จะแสดงเนื้อหาที่ส่งเสริมการทำร้ายตัวเองและพฤติกรรมการกินอาหารแบบผิดปกติ ตลอดจนสนับสนุนให้ทำชาเลนจ์อันตรายที่อาจทำให้ชีวิตเด็กตกอยู่ในความเสี่ยง
เรื่องนี้นายโจว ชี้แจงว่า ผู้ใช้ติ๊กต๊อกส่วนใหญ่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ทางบริษัทฯ ก็ได้ออกมาตรการปกป้องผู้ใช้ที่เป็นเยาวชนด้วยเช่นกัน
นอกจากประเด็นเรื่องชาเลนจ์บนติ๊กต๊อกที่อาจเป็นอันตรายแล้ว อีกประเด็นสำคัญคือเมื่อ สมาชิกสภาคองเกรสจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้ตั้งคำถามกับนายโจวว่า รัฐบาลจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานชาวอเมริกันได้หรือไม่ และติ๊กต๊อกจะห้ามมิให้เยาวชนเข้าถึงเนื้อหาอันตรายได้อย่างไร
ประเด็นนี้ซีอีโอติ๊กต๊อก ชี้แจงโดยเขากล่าวถึงภูมิหลังของตนเองว่า แม้ไบต์แดนซ์จะเป็นบริษัทในจีน แต่สำหรับเขา เป็นชาวสิงคโปร์โดยกำเนิด ตลอดช่วงชี้วิตเข้าเคยอาศัยที่สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับภรรยาที่เกิดในรัฐเวอร์จิเนีย ดังนั้นส่วนตัวเขาจึงไม่ความเชื่อมโยงโดยตรงใดๆ กับจีนแผ่นดินใหญ่
ประเด็นที่สอง ซีอีโอติ๊กต๊อกชี้แจงว่า ติ๊กต๊อกไม่เคยมีการแบ่งปันข้อมูลใดๆ กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน เขากล่าวว่าแม้บริษัทไม่มีนโยบายที่บังคับให้พนักงานชี้แจงว่ามีการเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์ แต่สิ่งที่ชี้ชัดคือนาย Liang Rubo ซีอีโอของ ByteDance ไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคและไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาลปักกิ่ง
อย่างไรก็ตามหลังเสร็จสิ้นการซักฟอกในหลายประเทศ แคธี แมคมอร์ริส ร็อดเจอร์ส ประธานคณะกรรมาธิคองเกรสได้กล่าวในภายหลัง ว่าส่วนตัวเขาไม่เชื่อว่า TikTok จะสามารถรักษาค่านิยมแบบอเมริกันในขณะที่เป็นบริษัทในเครือของบริษัทจีนได้ “เราไม่เชื่อว่า TikTok จะยอมรับค่านิยมแบบอเมริกัน ค่านิยมสำหรับเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และนวัตกรรม TikTok จำเป็นต้องเป็นบริษัทอเมริกันที่มีค่านิยมแบบอเมริกันและยุติความสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาติ๊กต๊อกถูกวิพากษ์วิจารณ์มาเป็นเวลานานแล้วว่าไม่ได้ตรวจสอบเนื้อหาในแอปมากพอ โดยเอโค่ (Eko) ซึ่งเป็นกลุ่มเรียกร้องความรับผิดชอบจากบริษัทต่าง ๆ เผยผลวิจัยว่า แฮชแท็กในติ๊กต๊อกที่เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายนั้นมีจำนวนมากกว่าล้านโพสต์และมียอดวิวรวมสูงถึง 8.8 พันล้านวิว ซึ่งแม้ที่ผ่านมาติ๊กต๊อกได้เปิดตัวเครื่องมือต่าง ๆ ที่อนุญาตให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานติ๊กต๊อกของบุตรหลานได้ แต่ก็ยังมีความคลุมเครือในแง่ความปลอดภัยของข้อมูลที่รัฐบาลสหรัฐและสภาคองเกรส อาจมีการออกกฎหมายบางอย่างที่จะกระทบต่อติ๊กต๊อกจนนำไปสู่การแบนการใช้งานติ๊กต๊อกในสหรัฐ