ตระกูลกระทิงแดง รวยขึ้น 8,000 ล้านเหรียญ โกยมั่งคั่งเหนือตระกูลเศรษฐีเอเชีย รับโลกยุคหลังโควิดที่คนออกมาใช้ชีวิตแบบปกติ
บลูมเบิร์กรายงานว่า หลังการกลับมาสู่รูปแบบชีวิตปกติในโลกยุคหลังโควิด หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ฟื้นตัวดังกล่าวคือเครื่องดื่มชูกำลังที่กำลังแบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมอย่าง Red Bull หรือ กระทิงแดง เห็นได้จากเทศกาลดนตรี ZoukOut ในสิงคโปร์ที่จัดครั้งแรกในรอบ 4 ปี เป็นที่สังเกตว่าผู้คนในเทศกาลดนตรีมักนิยมดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เช่นเดียวกับพฤติกรรมผู้บริโภคในลอนดอนที่พบว่าผู้คนนิยมดื่มเอเนอร์จี้ดริงก์มากกว่ากาแฟ ส่งผลให้ช่วงปีที่ผ่านมา Red Bull GmbH มีรายรับสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 11 พันล้านกระป๋องและทำให้เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับประเภทนี้
ยอดขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว สอดคล้องกับข้อมูลในดัชนีมหาเศรษฐีโลกที่บลูมเบิร์กจัดอันดับ (Bloomberg Billionaires Index) ที่พบว่า ตระกูลอยู่วิทยา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 51% ในบริษัท Red Bull GmbH ทั้งยังเป็นเจ้าของ TCP Group มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 7.8 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นหนึ่งในตระกูลมหาเศรษฐีในเอเชียที่กอบโกยความมั่งคั่งมากสุดในช่วงปีที่ผ่านมา สวนทางตระกูลอื่นในเอเชียที่สูญเสียความมั่งคั่งในช่วงปีที่ผ่านมาจากตลาดและปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
ไซมอน แซดวิค ศาสตราจารย์ด้านกีฬาและเศรษฐศาสตร์การเมืองที่ Skema Business School ในปารีสให้ความเห็นว่า "เครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink) ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตที่แอคทีฟ ในโลกยุคหลังโควิดผู้คนกลับมาออกกำลังกายอีกครั้งและกลับเข้าไปทำงานในสำนักงานอีกครั้ง นั่นทำให้เครื่องดื่มชูกำลังมียอดขายสูงขึ้น"
"Red Bull เป็นหนึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดด้านไลฟ์สไตล์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค” Howard Telford ผู้จัดการอาวุโสด้านอุตสาหกรรมน้ำอัดลมของบริษัทที่ปรึกษา Euromonitor International กล่าวว่า นั่นทำให้ “Red Bull สามารถรักษาเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่งและพรีเมียมในหมวดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เฟื่องฟู”
บลูมเบิร์กยังระบุว่า ตระกูลอยู่วิทยา ควบคุมกิจการของ Red Bull GmbH ที่ 51% ในขณะอีก 49% อยู่ในมือของลูกชายของนาย ดีทริช เมเทสซิทซ์ อดีตมหาเศรษฐีผู้รวยที่สุดของออสเตรีย ที่เสียชีวิตไปในปีก่อนอีก 49% ขณะเดียวกันตระกูลลอยู่วิทยายังมีอาณาจักรธุรกิจ TCP Group ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ที่ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังในไทยและตลาดอื่นในเอเชีย แม้ว่าในปี 2012 ตระกูลอยู่วิทยาจะตกเป็นข้อถกเถียงวงกว้างในสังคม จากกรณีอุบัติเหตุฉาวย่านทองหล่อจนกลายเป็นข่าวดัง
อย่างไรก็ตาม บลูมเบิร์กระบุว่านอกจากตระกูลอยู่วิทยา ยังมีตระกูลมหาเศรษฐีไทยอีกสองกลุ่มที่มีความมั่งคั่งโดยรวมเพิ่มขึ้น ได้แก่ เจียรวนนท์แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ และจิราธิวัฒน์ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มเซ็นทรัล อย่างไรก็ตามบลูมเบิร์กตั้งคำถามว่า ใครจะเป็นทายาทผู้ครอบครองธุรกิจและนำทัพธุรกิจกระทิงแดงต่อไป โดยปัจจุบันกลุ่ม TCP นำโดยคุณสราวุฒิ วัย 53 ปี ลูกชายของเฉลียวกับภรรยาคนที่สอง และผู้บริหารทั้งหมดก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ในขณะที่กลุ่มเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมด แต่ยังไร้แววของทายาทรุ่นที่ 3
ในฝั่งออสเตรีย มาร์ค ลูกชายของดีทริช เมเทสซิทซ์ (Dietrich Mateschitz) ก่อนหน้านี้ก้าวลงจากฝ่ายบริหารของ Red Bull GmbH เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิต โดยจะเลือกคณะกรรมาการบริหารชุดใหม่เพื่อเป็นผู้นำทัพของบริษัท ซึ่งทีมบริหารรุ่นต่อไปจะต้องรับมือกับความท้าทายตั้งแต่การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ไปจนถึงข้อครหาเรื่องอำนาจเหนือตลาดในยุโรป และข้อพิพาทเรื่องเครื่องหมายการค้าที่ยาวนานหลายปีในจีน