อากาศลาวแย่ทั้งประเทศ ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่ง พบเผาตอซังและไฟป่าเพียบ นครหลวงเวียงจันทร์ยันจังหวัดภาคเหนือไทยค่า AQI แย่สุดติดอันดับโลก
เว็บไซต์ข่าวเวียงจันทร์ไทม์ สื่อของทางการลาวรายงานประกาศเตือนจากสำนักอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาแห่งชาติลาวว่า เมื่อ 27 มีนาคม พบว่า ค่าคุณภาพอากาศหลายพื้นที่ทั้วประเทศอยู่ในระดับพิษที่เป็นอันตรายต่อประชาชน โดยหลายพื้นที่ของลาวถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา โดยค่า PM2.5 สูงเกินระดับที่ปลอดภัยและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
สื่อลาวรายงานเมื่อวันเสาร์ ความเข้มข้นของ PM2.5 ในเวียงจันทน์เพิ่มขึ้นเป็น 71µg ต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ของอากาศ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยคุณภาพอากาศที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้
ระดับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในลาวในปัจจุบัน พบว่ามีค่าความเข้มข้นสูงในระดับอันตรายหลายพื้นที่ตั้งแต่ แขวงบอลิคำไซ หลวงพระบาง และเชียงขวาง โดยพบว่าปัจจัยหลักเกิดจากการเผ่าและการแพ้วถางสำหรับพื้นที่ทางการเกษตร ตามด้วยการเผาขยะและใบไม้ทั่วไป
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่าข้อมูลจากดาวเทียมแสดงให้เห็นจุดที่มีมลพิษจำนวนมากทั่วประเทศ ซึ่งสร้างระดับคุณภาพอากาศที่แย่เป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่ ตลอดจนทำให้ทัศนวิสัยลดลงอย่างมาก
การตรวจวัดคุณภาพอากาศตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคมบ่งชี้ว่าระดับ PM เฉลี่ยต่อเดือนในลาวมีมากกว่ามากกว่า 50μg/m3 ต่อระยะเวลา 24 ชั่วโมง ในหลวงพระบาง สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศบันทึกระดับ PM ได้ตั้งแต่ 67-159μg/m3/24 ชั่วโมง
ในแขวงอุดมไซ ระดับ PM อยู่ระหว่าง 29-71μg/m3/24 ชั่วโมง แขวงหลวงน้ำทามีระดับ 24-57μg/m3/24 ชั่วโมง ในแขวงบ่อแก้ว ระดับ PM อยู่ระหว่าง 26-91μg/m3/24 ชั่วโมง ในขณะที่ในเวียงจันทน์ วัดได้ 25-61μg/m3/24 ชั่วโมง ส่วนที่สถานีวัดระดับอากาศแขวงคำม่วนบันทึกระดับที่ 39-82μg/m3/24 ชั่วโมง และในสะหวันนะเขต 26-65μg/m3/24 ชั่วโมง
ด้วยมลพิษทางอากาศในขณะนี้ถึงระดับรุนแรงและเป็นอันตราย กระทรวงฯ เตือนประชาชนไม่ให้เผาขยะทุกชนิด ให้ลดกิจกรรมกลางแจ้งให้มากที่สุด และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้เวลาอยู่นอกบ้าน
ด้านสำนักข่าวเดอะการ์เดี้ยนรายงานว่า คุณภาพอากาศในหลายจังหวัดภาคเหนือของไทยแย่ติดอันดับโลกในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของคนในพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย ที่เกิดจากปัจจัยสภาพอากาศที่นิ่ง ประกอบกับฝุ่นละลองที่มีจากกิจกรรมเผาเพื่อทำการเกษตร และการเผาป่า
ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมจาก FIRMS หรือ Fire Information for Resource Management System ซึ่งเป็นหน่วยงานเก็บข้อมูลจุดความร้อนโดยเครือข่ายดาวเทียมนาซาพบว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจุดฮอตสปอตขึ้นเป็นจำนวนมากจากบริเวณประเทศเพื่อนบ้านทั้งในลาวและเมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับจังหวัดทางภาคเหนือไทยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษ
