"ถ้าเจ้านายติดต่อมานอกเวลาไม่ต้องรับ" ออสเตรเลียให้สิทธิ 'right to disconnect' กับคนทำงาน

ออสเตรเลียประกาศให้สิทธิตามกฎหมายแก่คนทำงานหลายล้านคนในการ "ตัดขาดจากการทำงาน" หรือ 'right to disconnect' โดยเริ่มให้สิทธินี้ในวันที่ 26 สิงหาคม 2024 โดยอนุญาตให้คนทำงานสามารถเพิกเฉยต่อสายโทรศัพท์ อีเมล และข้อความจากเจ้านายของพวกเขาได้ หากส่งมาถึงนอกเวลางาน

นับจากนี้เป็นต้นไป คนทำงานสามารถปฏิเสธที่จะติดตาม อ่าน หรือตอบสนองต่อความพยายามของนายจ้างที่จะติดต่อพวกเขาในช่วงนอกเวลาทำงานได้แล้ว เว้นแต่การปฏิเสธนั้นจะถือว่า "ไม่สมเหตุสมผล"

สหภาพแรงงานแสดงความยินดีกับกฎหมายดังกล่าว โดยกล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวช่วยให้คนงานสามารถกลับมามีสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน หรือ work-life balance

"วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์สำหรับคนทำงาน" มิเชล โอนีล ประธานสภาสหภาพแรงงานออสเตรเลียกล่าว

"สหภาพแรงงานออสเตรเลียสมารถทวงคืนสิทธิในการใช้เวลาส่วนตัวหลังเลิกงาน" เธอกล่าว

ตามท้องถนนในซิดนีย์ ผู้คนดูเหมือนจะแสดงความยินดีกับการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน 

“ฉันมีปัญหาในการตัดการเชื่อมต่อมาก และแม้ว่าฉันอาจไม่จำเป็นต้องล็อกอินเข้าระบบ แต่สมองของฉันก็ยังต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา” คาโรไลนา โจเซสกี พนักงานองค์กรไม่แสวงหากำไรกล่าวกับ AFP

“ดังนั้น การได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายหลังเลิกงานจึงไม่ได้ช่วยอะไร”

แต่มัน 'น่าสับสนอย่างยิ่ง'
หน่วยงานอุตสาหกรรมชั้นนำของออสเตรเลียตอบสนองกับการปฏิรูปครั้งนี้ด้วยอาการเย็นชา

“กฎหมาย 'สิทธิในการตัดการเชื่อมต่อ' นั้นเร่งรีบ ไร้การไตร่ตรอง และน่าสับสนอย่างยิ่ง” กลุ่มอุตสาหกรรมออสเตรเลีย หรือ Australian Industry Group กล่าวในแถลงการณ์

“อย่างน้อยที่สุด ตอนนี้ นายจ้างและลูกจ้างจะไม่แน่ใจว่าพวกเขาสามารถรับหรือโทรออกนอกเวลาเพื่อเสนอกะพิเศษได้หรือไม่” กลุ่มอุตสาหกรรมระบุ

กฎหมายนี้คล้ายคลึงกับกฎหมายของประเทศในยุโรปและละตินอเมริกาบางประเทศ

การวิจัยระบุว่าสิทธิในการตัดการเชื่อมต่อเป็นประโยชน์ต่อลูกจ้าง คริส ไรท์ รองศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์กล่าว

พนักงานมากกว่า 70% ในบริษัทของสหภาพยุโรปที่มีนโยบายสิทธิในการตัดการเชื่อมต่อถือว่ามีผลกระทบในเชิงบวก ตามการศึกษาในเดือนพฤศจิกายน 2023 โดย Eurofound ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานของสหภาพยุโรป

ที่ผ่านมาพนักงานต้องประสบกับ "การถูกเรียกใช้งานที่รุกเข้ามาในชีวิตส่วนตัว" เนื่องจากสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ดิจิทัลอื่นๆ ทำให้นายจ้างเขาถึงพวกเข้าได้ง่ายขึ้น ไรท์กล่าวกับ AFP

"การมีมาตรการที่คืนขอบเขตในระดับหนึ่งระหว่างงานและชีวิตนอกงานของผู้คนถือเป็นเรื่องดี แน่นอนว่าสำหรับพนักงานแต่สำหรับนายจ้างด้วยเช่นกัน" เขากล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่พยายามดึงดูดพนักงานใหม่

เป็นเรื่องของ'สามัญสำนึก' 
กฎหมายของออสเตรเลียซึ่งประกาศใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ มีผลบังคับใช้กับบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม

บริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงานน้อยกว่า 15 คนจะได้รับการคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2025

แอนนา บูธ หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลความสัมพันธ์ในที่ทำงานของออสเตรเลีย ผู้ตรวจการยุติธรรมด้านการจ้างงาน กล่าวว่าผู้คนควรใช้ "แนวทางสามัญสำนึก" ในการใช้กฎหมายใหม่

ภายใต้กฎหมายดังกล่าว ศาลอาจสั่งให้คนงานหยุดปฏิเสธการติดต่อนอกเวลาทำการอย่างไม่สมเหตุสมผล และนายจ้างก็อาจต้องหยุดเรียกร้องให้พนักงานตอบกลับอย่างไม่สมเหตุสมผลเช่นกัน หน่วยงานกำกับดูแลกล่าว

คำถามที่ว่าอะไรสมเหตุสมผลนั้น หน่วยงานกำกับดูแลแรงงานยุติธรรมระบุในแถลงการณ์ว่า "ขึ้นอยู่กับสถานการณ์"

ปัจจัยในการตัดสินใจอาจรวมถึงเหตุผลในการติดต่อ ลักษณะบทบาทของพนักงาน และค่าตอบแทนสำหรับการทำงานนอกเวลาหรือพร้อมให้บริการ หน่วยงานดังกล่าวระบุ

นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซีชื่นชมการปฏิรูปนี้ ซึ่งผลักดันโดยรัฐบาลแรงงานฝ่ายกลางซ้ายของเขา

"เราต้องการให้แน่ใจว่าในขณะที่ผู้คนไม่ได้รับเงินตลอด 24 ชั่วโมง พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง" เขากล่าวกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ABC

"พูดตรงๆ ว่า เป็นเรื่องของสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน ที่ผู้คนจะสามารถตัดขาดจากงานและเชื่อมต่อกับครอบครัวและชีวิตของตนเองได้"

Story by Agence France-Presse

Photo by Ed JONES / AFP
 

TAGS: #ออสเตรเลีย #righttodisconnect