ในขณะที่กมลา แฮร์ริสกำลังลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนกับโดนัลด์ ทรัมป์ 'ชุมนุม'ที่เธอเข้าร่วมเมื่อสี่ทศวรรษก่อนอาจเป็นตัวช่วยที่ทรงพลังที่สุดสำหรับเธอในการหาเสียงเลือกตั้ง ณ ขณะนี้ 

“ไม่ว่าเธอจะต้องการให้กลุ่มพันธมิตรของเราทำอะไร เราก็จะอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยผลักดันและทำให้มันสำเร็จ” ทันยา บาฮาม สมาชิกของกลุ่มเพื่อนสาว หรือ 'ชุมนุมพี่สาวน้องสาว' (Sorority) ของมหาวิทยาลัยที่แฮร์ริสเคยเข้าเรียน ได้กล่าวในการประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโมแครตเมื่อเร็วๆ นี้

มีกลุ่มเพื่อนสาวและกลุ่มภราดรภาพ (กลุ่มพี่ชายน้องชาย หรือ Fraternity) มากมายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา โดยมีชื่อเป็นตัวอักษรกรีก (เช่น ชุมนุม Phi Beta Kappa เป็น) มีสมาชิกภาพแบบพิเศษ (เช่น การรักษาความลับระหว่างกัน) และคำมั่นสัญญาที่จะอยู่ร่วมกันเป็นชุมชน โดยปกติแล้วจะกลุ่มมีสมาชิกเป็นเพศเดียวกัน

การที่แฮร์ริสเป็นสมาชิกของชุมนุม Alpha Kappa Alpha ซึ่งเป็นสมาคมเพื่อสาวผิวดำมาตั้งแต่แรกตั้ง ทำให้แคมเปญของเธอสามารถติดต่อเครือข่ายเพื่อสาวผิวดำมากกว่า 360,000 คนทั่วประเทศได้โดยตรง ซึ่งหลายคนตื่นเต้นที่ได้เห็นเพื่อสาวของตนเองเข้าไปอยู่ในทำเนียบขาว

และในส่วนของพรรคเดโมแครตก็กำลังให้ความสนใจในเรื่องนี้ เพราะพรรคนี้ถือว่ากลุ่มผู้หญิงและผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวดำเป็นกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สำคัญในฐานเสียงของตน 

แม้ว่ากลุ่มเพื่อสาวในมหาวิทยาลัยจะไม่ได้ฝักใฝ่การเมืองฝ่ายใด แต่หลายคน เช่น บาฮาม ก็พร้อมที่จะใช้เครือข่ายของตนเองในการระดมทุนและการลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้ง (ซึ่งหมายถึงการที่ผู้มีสิทธิออกเสียงแสดงความจำนงค์ที่จะเลือกพรรคไหน) ที่การแข่งขันอาจมีผลแพ้ชนะที่หมิ่นเหม่

“เราจะ... ทำให้แน่ใจว่าเด็กๆ คนหนุ่มสาว คนชรา ของเรามีโอกาสลงทะเบียนและไปใช้สิทธิเลือกตั้ง” บาฮาม นักสังคมสงเคราะห์ในลุยเซียนา กล่าว

มันคือเครือข่ายภายใน
แฮร์ริสเข้าร่วมชุมนุม Alpha Kappa Alpha หรือ AKA ที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด (Howard University) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาเก่าแก่สำหรับคนผิวดำในวอชิงตัน ดีซี. โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1908 ซึ่งเป็นสถาบันแรกที่ในสหรัฐอเมริการับผู้หญิงผิวดำเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี

ในอีกไม่กี่ทศวรรษต่อมา กลุ่มภราดรภาพชายผิวดีและสมาคมภราดรภาพหญิงผิวดำก็ก่อเกิดขึ้นมากขึ้นเ โดยให้ที่พักพิงแก่เด็กนักเรียนชาวแอฟริกันอเมริกันท่ามกลางการเหยียดเชื้อชาติในอเมริกา และยังทำหน้าที่เป็นฐานในการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิพลเมืองอีกด้วย

AKA มีสาขาสำหรับทั้งนักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตวิทยาลัย ทำให้เป็นมากกว่าองค์กรระดับวิทยาลัย

ในฐานะรองประธาน แฮร์ริสได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำกลุ่มภราดรภาพชายผิวดำและภราดรภาพหญิงผิวดำที่ทำเนียบขาว และก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในบัตรลงคะแนนของพรรคเดโมแครต เธอเป็นหัวหน้าในการประชุมของ AKA ที่เท็กซัสในเดือนกรกฎาคม

ในช่วงปลายเดือนนั้น ไม่กี่วันหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนยุติการเสนอตัวเพื่อเลือกตั้งใหม่ เธอได้ไปร่วมการประชุมของภราดรภาพหญิงผิวดำอีกแห่งคือ Zeta Phi Beta ในรัฐอินเดียนา

สมาชิกของ AKA เป็นหนึ่วในบรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมทาง Zoom เรื่อง "Win With Black Women" ซึ่งระดมทุนได้ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และเกล็นดา โกลเวอร์ อดีตประธานกลุ่มภราดรภาพนี้ เป็นผู้นำในการติดต่อสื่อสารกับแฮร์ริสในวิทยาลัยที่คนผิวดำเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศ

AKA ยังจัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางการเมืองขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งใช้สำหรับระดมทุนสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง

“พวกเราพร้อมที่จะทำงานและทำเรื่องนี้แล้ว” ดอนน่า มิลเลอร์ เจ้าหน้าที่ระดับเทศมณฑลในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมทาง Zoom กล่าวกับสื่อท้องถิ่น Chicago Sun-Times “มันทำให้คนจำนวนมากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในทุกช่วงวัย ในทุกเชื้อชาติมีชีวิตชีวาขึ้น”

แต่เพื่อนสาวยังปิดปากเงียบ
แต่ในขณะที่ AKA และกลุ่มภราดรภาพหญิงผิวดำอื่นๆ มอบเครือข่ายกลุ่มเพื่อนสาวให้แฮร์ริสใช้ประโยชน์ ก็ยากที่จะประเมินได้ว่าเครือข่ายดังกล่าวจะแปลงเป็นคะแนนเสียงจริงในเดือนพฤศจิกายนได้มากเพียงใด

กลุ่มเพื่อนสาวและสมาชิกมักจะปิดปากเงียบ สมาชิกหลายคนปฏิเสธที่จะพูดคุยกับ AFP เกี่ยวกับการเลือกตั้ง

บางคนแนะนำให้ AFP ติดต่อกับสำนักงานใหญ่ของกลุ่มภราดรภาพหญิง ซึ่งไม่ได้ตอบรับคำขอแสดงความคิดเห็นหลายครั้ง นอกจากนี้ ยังมีสาขาย่อยอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ตอบรับคำขอแสดงความคิดเห็นเช่นกัน

“การระดมพลผ่านกลุ่มภราดรภาพหญิงก็ไม่เสียหายอะไร” แดเนียล ฮอปกินส์ นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียกล่าว

แต่ฮอปกินส์เตือนว่า "โดยทั่วไปแล้ว ในสหรัฐอเมริกา มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพียงไม่กี่คนที่เข้าเรียนในวิทยาลัยสี่ปี ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กรเหล่านี้"

และแม้ว่าชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันจะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ค่อยๆ ห่างหายจากพรรค ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการลดลงนี้มาจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุน้อยและไม่ค่อยได้ไปลงคะแนนเสียงตามการวิจัยของฮอปกินส์

ในเวลาเดียวกัน อแมนดา วิลเกอร์สัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการศึกษาระดับสูงที่มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลฟลอริดา ซึ่งศึกษาผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนผิวดำ กล่าวว่าองค์กรต่างๆ เช่น สมาคมภราภรภาพหญิงและสมาคมภราดรภาพชายผิวดำเป็น "กลไกที่ซ่อนอยู่" ซึ่งมักถูกละเลยโดยการสำรวจความคิดเห็นหรือสื่อ แม้ว่าพวกเขาจะเคยระดมพลังในเลือกตั้งครั้งก่อนๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นก็ตาม

วิลเกอร์สันกล่าวว่าสมาชิกและศิษย์เก่าของกลุ่มนี้มีความเชี่ยวชาญในการหาเสียง และการเลือกตั้งในปี 2024 ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเขา

แฮร์ริส "เป็นผู้สมัครคนแรกในประเภทของเธอที่สามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสนับสนุนเหล่านี้ได้" วิลเกอร์สันกล่าว "แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว"

Story by Agence France-Presse

Photo by SAUL LOEB / AFP