สหภาพยุโรปกำลังล่มสลายเพราะผู้อพยพ เมื่อถูกบีบฮังการีจึงต้องใช้วิธีแก้เผ็ดแบบนี้

สหภาพยุโรปกำลังล่มสลายเพราะผู้อพยพ เมื่อถูกบีบฮังการีจึงต้องใช้วิธีแก้เผ็ดแบบนี้

ข้อมูลเบื้องหลัง
แม้ว่าฮังการีจะเป็นสามาชิกของสหภาพยุโรป EU แต่ฮังการีไม่ยอมปฏิบัติตามนโยบายของ EU ที่จะให้เปิดประเทศรับผู้อพยพ เพราะรัฐบาลมีแนวทางการเมืองแบบฝ่ายขวา ที่เน้นชาตินิยมฮังการีและความเป็นยุโรปเฉพาะคนท้องถิ่น พร้อมกับต่อต้านคนต่างถิ่นที่เข้ามาในฐานะผู้อพยพ โดยล่าสุด วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการีกล่าวเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่การประชุมเซอร์นอบบิโอ ทางตอนเหนือของอิตาลีว่า การอพยพจะทำให้สหภาพยุโรปแตกสลาย และเรียกร้องให้มีกฎหมายใหม่เพื่อหยุดยั้งการอพยพดังกล่าว

ออร์บัน ซึ่งเป็นนักการเมืองชาตินิยมที่ต่อต้านผู้อพยพและกระแสเสรีนิยมแบบตาสว่าง หรือ Woke ชี้ว่า “หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงแห่งกระบวนการแตกสลายของสหภาพยุโรป” และเขายังชี้ว่า การอพยพระหว่างประเทศ รวมถึงเรื่องเพศสภาพ (หมายถึงการเผยแพร่แนวคิดเรื่องเพศที่หลากหลาย) การจ้างงาน และความมั่นคง ถือเป็น “ปัญหาเรื่องการดำรงอยู่” ที่สหภาพยุโรปต้องเผชิญ นั่นหมายความว่า สหภาพยุโรปจะดำรงอยู่ต่อไปหรือล่มสลายก็เพราะสาเหตุนี้

ผู้นำของฮังการียังแสดงจุดยืนของฮังการีที่แข็งกร้าวกับผู้อพยพโดยเปรียบเทียบกับนโยบายลี้ภัยที่เอื้อเฟื้อต่อผู้อพยพของเยอรมนี เขากล่าวว่า “เราไม่เคยปล่อยให้พวกเขา (ผู้อพยพ) เข้ามา” และหลังจากที่ ออร์บัน กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม เขาก็ได้กล่าวเพิ่มเติมโดยโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Xว่า "ให้ฮังการีและประเทศอื่นๆ มีสิทธิเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามนโยบายการย้ายถิ่นฐานร่วมกัน" 

ทั้งนี้ ฮังการีไม่แยแสต่อนโยบายรับผู้อพยพของสหภาพยุโรปเลย และเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว ฮังการีก็ยังไม่ยอมจ่ายค่าปรับ 200 ล้านยูโรเนื่องจากละเมิดกฎระเบียบผู้ลี้ภัยของสหภาพยุโรปแม้ว่าจะเลยเส้นตายในการจ่ายค่าปรับแล้วก็ตาม และจะคิดค่าปรับเพิ่มอีก 1 ล้านยูโรต่อวัน จนกว่าฮังการีจะนำนโยบายของตนไปสอดคล้องกับกฎหมายของสหภาพยุโรป

แต่แทนจะจะคิดจ่ายค่าปรับฮังการีกลับเสนอแผนการเแก้เผ็ดสหภายุโรปอย่างเจ็บแสบเสียอย่างนั้น

แกะดำที่โต้ได้เจ็บปวด
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ทางการฮังการียืนยันแผนการส่งผู้อพยพไปยังกรุงบรัสเซลส์ เพื่อเป็นการประท้วงนโยบายผู้ลี้ภัยของสหภาพยุโรป

เบนเซ เรตวารี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยของฮังการี จัดงานแถลงข่าวโดยยืนเคียงข้างรถบัสที่จะส่งผู้อพยพทั้งหมดไปยังที่ทำการของรัฐบาล EU เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของประเทศที่ว่า "จะให้บริการรับส่งผู้อพยพฟรีไปยังเมืองหลวงของสหภาพยุโรป" ซึ่งหมายถึงฮังการีจะไม่ยอมรับผู้อพยพเลย แต่ถ้า EU ต้องการจะรับผู้อพยพ ฮังการีก็จะส่งคนทั้งหมดไปให้ฟรีๆ 

เรตวารีกล่าวว่า “หากสหภาพยุโรปบังคับให้ฮังการียอมรับผู้อพยพผิดกฎหมาย ฮังการีจะเสนอบริการรับส่งพวกเขาไปยังกรุงบรัสเซลส์เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น” 

และเรตวารียังบอกว่า “หากบรัสเซลส์ (ที่ทำการของรัฐบาล EU) ต้องการผู้อพยพผิดกฎหมาย บรัสเซลส์สามารถมีพวกเขาได้” ซึ่งคำกล่าวนี้เป็นการพูดซ้ำคำพูดของ เกอร์เกอลี กูลยัส รัฐมนตรีที่รับผิดชอบสำนักงานประธานาธิบดี ซึ่งกล่าวในช่วงปลายเดือนสิงหาคมว่า “หากบรัสเซลส์ต้องการผู้อพยพ ก็จะได้พวกเขาไป”

ไม่อยากเป็นเหมือนอังกฤษ
เรตวารี เคยให้สัมภาษณืกับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า “คุณเคยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอังกฤษไหม เราไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นที่นี่!”

เขายังกล่างกล่าวว่าบรัสเซลส์หรือรัฐบาล EU สามารถกำหนดค่าปรับเท่าไรก็ได้ แต่รัฐบาลฮังการีจะไม่ยอมปฏิบัติตามนโยบายพรมแดนเปิด

นั่นก็เพราะหาฮังการียึดมั่นในการปิดประเทศไม่ต้อนรับผู้อพยพ “ชาวฮังการียังสามารถออกไปบนท้องถนนได้อย่างปลอดภัย” ซึ่งต่างจากประเทศอื่นๆ ทั่วทั้งยุโรป

ในขณะ ซอลทัน คอวาช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทูตสาธารณะและความสัมพันธ์แห่งฮังการี กล่าวใน X ว่า "ตั้งแต่ปี 2015 ตำรวจและตำรวจตระเวนชายแดนของฮังการีได้ป้องกันการพยายามข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายได้กว่าหนึ่งล้านครั้ง แม้จะเป็นเช่นนี้ ศาลยุติธรรมแห่งยุโรปก็ได้ปรับฮังการีเป็นเงิน "อย่างไม่ยุติธรรมและมหาศาล" กดดันให้ประเทศเปลี่ยนนโยบายการย้ายถิ่นฐาน"

ทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ตะโกนแสดงความคิดเห็นเหยียดเชื้อชาติระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อต้านผู้อพยพที่จัดขึ้นโดยกลุ่มขวาจัด ใกล้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหรัฐอเมริกาที่เดอะบีคอน ในเมืองนิวคาสเซิลอะพอนไทน์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2024 ตำรวจปราบจลาจลหลายพันนายเตรียมพร้อมในวันพุธ ขณะที่อังกฤษยังคงเฝ้าระวังเหตุวุ่นวายระหว่างการประท้วงของกลุ่มขวาจัดทั่วประเทศ จลาจลที่เกิดขึ้นทุกคืน ซึ่งมีมัสยิดและผู้อพยพถูกโจมตี ปะทุขึ้นหลังจากเด็ก 3 คนถูกสังหารในเมืองเซาท์พอร์ต เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม (ภาพโดย SCOTT HEPPELL / AFP)

TAGS: #ฮังการี #สหภาพยุโรป