อนาคตโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นอย่างไร หลังอัยการตั้งข้อหาปมจ่ายเงินปิดปากดาราหนังโป๊เพื่อปกปิดความสัมพันธ์กับตน

โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ถูกคณะลูกขุนศาลนครนิวยอร์ก ตั้งข้อหากระทำความผิดในคดีอาญา ฐานจ่ายเงินปิดปากสตอร์มี แดเนียลส์  ดาราหนังผู้ใหญ่เกี่ยวกับสัมพันธ์อื้อฉาวของทั้งสอง 

รายงานระบุว่า คณะลูกขุนแมนฮัตตัน มีมติเมื่อวันพฤหัสบดี  สั่งฟ้องนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จากกรณีมอบหมายให้ นายไมเคิล โคเฮน ซึ่งรับหน้าที่เป็นทนายส่วนตัวในขณะนั้น มอบเงินจำนวน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.4 ล้านบาท เป็นค่าปิดปาก น.ส.สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่เพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงแฉความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างเธอกับทรัมป์ ในปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงแรกที่ทรัมป์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ 

สำหรับ ไมเคิล โคเอน อดีตทนายความของทรัมป์ ได้ยอมสารภาพต่อศาลเมื่อ 5 ปีที่แล้วว่า เขาเป็นผู้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวจริงตามคำสั่งของทรัมป์ โดยโคเอนได้ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีจากคดีดังกล่าวและคดีอื่นๆ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและเนื้อหาของสำนวนยังคงไม่ได้รับการเปิดเผย แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าจะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการภายใไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งเมื่อศาลเปิดเผยข้อหาทั้งหมด อดีตผู้นำสหรัฐต้องเดินทางไปยังศาลแขวงแมนฮัตตันตามหมายเรียก เพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายรูป และเข้าสู่กระบวนการจับกุมซึ่งเขาอาจถูกใส่กุญแจมือฝากขัง ซึ่งหลังจากนั้นอาจตามมาด้วยความชัดเจนด้านระยะเวลาการพิจารณาคดี ข้อจำกัดในการเดินทาง หรือข้อจำกัดในการประกันตัวสำหรับจำเลย 

ขณะที่บีบีซีรายงานว่า ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบางคนคาดการณ์ว่า ความผิดในทาอาญานี้อาจส่งผลให้ทรัมป์ต้องรับโทษตั้งแต่ถูกปรับ ไปจนถึงจำคุกสูงสุด 4 ปี  แต่อย่างไรก็ตามนักด้านกฎหมายบางคนคาดการณ์ว่าการปรับนั้นมีความเป็นไปได้สูง และโอกาสที่จะถูกคุมขังก็มีความเป็นไปได้ แต่ส่วนตัวพวกเขาเชื่อว่ามันอาจไม่น่าเกิดขึ้นเลย

ขณะที่ทรัมป์ออกแถลงการณ์ยืนกราน “ความบริสุทธิ์” ด้านทีมงานฝ่ายกฎหมายของอดีตผู้นำสหรัฐให้ข้อมูลเพียงทรัมป์จะ “ต่อสู้คดีอย่างถึงที่สุด” กับทุกข้อกล่าวหา ทว่ายังไม่มีความชัดเจนว่า ทรัมป์จะมอบตัวเพื่อสู้คดีเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม คดีเงินปิดปากเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ คดีที่ทรัมป์ต้องเผชิญ เพราะอดีตผู้นำสหรัฐ ยังค้องเผชิญการสอบสวนจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในหลายคดี ซึ่งรวมถึงบทบาทของเขาในการปลุกระดมมวลชนในเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐด้วย ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่า บรรดาคดีเหล่านี้อาจส่งผลต่อแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งของเจ้าตัว ในการชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกัน สู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งต่อไป โดยผลสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์/อิปซอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า 44% ของกลุ่มตัวอย่างที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ทรัมป์ควรถอนตัวจากการลงชิงแคนดิเดตหากถูกดำเนินคดี

ทรัมป์ ยังมีสิทธิ์ลงชิงประธานาธิบดีหรือไม่หลังเจอคดีอาญา

สำนำข่าวบีบีซีระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นการถูกฟ้องร้องหรือผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาแล้ว ก็ไม่เป็นข้อหาให้โดนัลด์ ทรัมป์ ขาดคุณสมบัติในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย และทรัมป์ต้องเลือกที่จะเดินหน้าต่อย่างแน่นอน เพราะในสหรัฐอเมริกาไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญาลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและหาเสียง 

อย่างไรก็ตาม คดีความที่รอคอยอยู่ ตลอดจนการจับกุมโดนัลด์ ทรัมป์ในข้อหาจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่รอบนี้ จะทำให้การหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขายุ่งยากขึ้นอย่างแน่นอน