นายยกจีน ย้ำเศรษฐกิจจีนแข็งแกร่ง พร้อมนำนานาชาติสร้างสันติภาพโลก

นายยกจีน ย้ำเศรษฐกิจจีนแข็งแกร่ง พร้อมนำนานาชาติสร้างสันติภาพโลก
2 ผู้นำเอเชีย “หลี่ เฉียง” นายกฯจีน ย้ำความแข็งแกร่งจีน จะเป็นหลักนำส่งเสริมสันติภาพละความก้าวหน้าของโลก ด้าน ลี เซียนลุง ระบุสิงคโปร์ หวังมีส่วนร่วมการเติบโตใหม่ๆ ในเศรษฐกิจจีน

รายงานข่าวระบุ หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia) ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า “ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด จีนจะยังคงยืนหยัดปฏิรูปและเปิดกว้าง พร้อมใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนความก้าวหน้าต่อไป”

จากความความหนักแน่นของจีน จะเป็นหลักสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพและความก้าวหน้าของโลก โดยยกให้เป็น “ข้อเท็จจริงที่เที่ยงแท้ในอดีต และเด่นชัดมากยิ่งขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

นายกฯ จีนเน้นย้ำในคำปราศรัยสำคัญว่า เพื่อให้เป็นเช่นนั้นได้ จีนจะไม่เพียงอัดฉีดแรงกระตุ้นและเพิ่มพลังใหม่ ๆ ให้กับเศรษฐกิจโลกเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างให้ทั่วโลกได้แบ่งปันโอกาสและผลประโยชน์จากความก้าวหน้าของจีนด้วย

เศรษฐกิจจีนดีดตัว

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ระบุว่า ยอดค้าปลีกของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดการเติบโตของการบริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จากที่เคยลดลงในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า

ขณะเดียวกัน ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่มของจีนก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมบริการของจีนเพิ่มขึ้น 5.5%

นายกฯ จีนสังเกตเห็นแนวโน้มที่ดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้า

โดยมองว่าเดือนมีนาคมน่าจะยิ่งดีกว่าเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจหลัก ๆ สะท้อนให้เห็นแรงกระตุ้นการเติบโตที่ดีขึ้นและแข็งแกร่ง

นายกฯ จีนกล่าว ณ เมืองโป๋อ๋าว ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งในมณฑลไห่หนานของจีนว่า เศรษฐกิจจีนมีความยืดหยุ่น มีศักยภาพ และมีพลังขับเคลื่อนอันแรงกล้า โดยจีนจะนำมาตรการใหม่ ๆ มาใช้เพื่อขยายการเข้าถึงตลาด ปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เหมาะสม และอำนวยความสะดวกในการดำเนินโครงการต่าง ๆ

“เรามีความมั่นใจและความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจจีนให้ก้าวหน้า รักษาการเติบโตให้มั่นคงและยั่งยืน และมีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก”

ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวในการประชุมเดียวกันนี้ว่า จีนได้กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกือบทุกประเทศในเอเชีย พร้อมกับน้อมรับโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่จีนได้นำเสนอทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) และข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative) เป็นต้น

เซียนลุง กล่าวว่า “เราหวังที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ในเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่งของจีน”

สภาพแวดล้อมที่สงบ-มั่นคง เหมาะพัฒนา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจีน ยังได้เรียกร้องให้ร่วมกันปกป้องสภาพแวดล้อมที่สงบสุขและมีเสถียรภาพเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าและเพิ่มความเชื่อมั่นในยามที่โลกปั่นป่วน

“เอเชียไม่ควรจะมาเสียเวลากับความวุ่นวายหรือสงคราม หากต้องการก้าวหน้าให้มากกว่านี้ในวันข้างหน้า” นายกรัฐมนตรีจีนกล่าว

เขาเน้นย้ำว่า จีนมุ่งมั่นที่จะแก้ไขความแตกต่างและข้อพิพาทระหว่างประเทศต่าง ๆ ด้วยสันติวิธี พร้อมทั้งร่วมกันปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพของโลก และเสริมว่าจีนต่อต้านการใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว การใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดน การเลือกข้าง การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มประเทศ หรือ “สงครามเย็นครั้งใหม่”

หลี่ เฉียง กล่าวอีกว่า ประเทศต่าง ๆ ควรเคารพและไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน เปิดกว้างและไม่แบ่งแยก เคารพเส้นทางการพัฒนาที่ประเทศอื่นเลือกเอง ตลอดจนต่อต้าน “การปะทะกันของอารยธรรม” และการเผชิญหน้าทางอุดมการณ์

โดย จีนได้กำหนดภารกิจหลักในการสร้างจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน พร้อมผลักดันการฟื้นฟูชาติจีนในทุกด้านผ่านเส้นทางสู่ความทันสมัยแบบจีน

สำหรับประชาคมโลกนั้น ภารกิจของจีนในการสร้างความทันสมัยให้กับประเทศที่มีประชากรมากถึง 1.4 พันล้านคน หรือเกือบหนึ่งในห้าของประชากรโลก ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หลี่ เฉียง กล่าวว่า จีนมุ่งมั่นที่จะสร้างความทันสมัยด้วยสันติวิธีและการพัฒนา ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันที่เข้มแข็งสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียและเศรษฐกิจโลกในท้ายที่สุด

“จีนไม่มีวันสร้างความทันสมัยด้วยสงคราม การล่าอาณานิคม หรือการปล้นโดยเด็ดขาด”

TAGS: #จีนเปิดประเทศ #เศรษฐกิจจีน #หลี่เฉียง #นายกรัฐมนตรีจีน