การสังหารฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ หัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในการโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 27กันยายน ถือเป็นความสำเร็จของปฏิบัติการลับที่ใช้เวลาเพียงไม่วัน ตอกย้ำถึงความสามารถด้านข่าวกรองของอิสราเอลในการแทรกซึมอย่างลึกซึ้งเข้าไปถึงใจกลางกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

นี่คือสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับวิธีการที่อิสราเอลรวบรวมทรัพยากรข่าวกรองเพื่อโจมตี:

- การเตรียมการ -
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์เริ่มยิงเข้าไปในอิสราเอลตอนเหนือในวันถัดจากที่กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นพันธมิตรของกลุ่ม โจมตีอิสราเอลตอนใต้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดสงครามที่ยังคงดำเนินต่อไปในฉนวนกาซา

ปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในระดับต่ำของอิสราเอลทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมากในวันที่ 17 กันยายน โดยมีการก่อวินาศกรรมโจมตีเครื่องรับส่งวิทยุที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใช้ ตามมาด้วยเหตุระเบิดที่วิทยุสื่อสารสองทางของกลุ่มในวันถัดมา

เกิดการระเบิดของอุปกรณ์สื่อสาร คือ เพจเจอร์ และวอล์กี้ทอล์กี้ ซึ่งแม้ว่าอิสราเอลจะไม่ได้อ้างว่าลงมือแต่เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง เหตุการณ์นร้้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 ราย บาดเจ็บเกือบ 3,000 ราย และ โรเบิร์ต แซตลอฟฟ์ จากสถาบันวอชิงตันเพื่อนโยบายตะวันออกใกล้ ชี้ว่า "ทำให้การสื่อสารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์หวนคืนสู่ยุคหิน" 

นักวิเคราะห์กล่าวว่าปฏิบัติการดังกล่าวสะท้อนถึงความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ของกลุ่มข่าวกรองสัญญาณของหน่วย 8200 (Unit 8200) ของอิสราเอลในการเจาะอุปกรณ์สื่อสารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

ในเดือนกุมภาพันธ์ นาสรัลเลาะห์ออกปากเตือนด้วยตัวเองว่า "โทรศัพท์มือถือที่คุณถืออยู่ในมือเป็นอุปกรณ์สอดแนม" ซึ่งกระตุ้นให้มีการใช้เครื่องรับส่งวิทยุแทน แต่แล้วต่อมาได้มันกลับกลายเป็นอาวุธที่ทำลายฮิซบอลเลาะห์เสียอย่างนั้น 

กระนั้นก็ตาม พันโท นาดาฟ โชชานี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวกับนักข่าวว่า การรวบรวมข่าวกรองที่นำไปสู่การโจมตีนาสรัลเลาะห์ในกรุงเบรุต เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว

“เราใช้ข่าวกรองที่รวบรวมมาเป็นเวลาหลายปี และเรามีข้อมูลแบบเรียลไทม์ และเราได้ดำเนินการโจมตีครั้งนี้” เขากล่าว

พันเอก มิริ ไอเซน ซึ่งเกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งเป็นนักวิจัยอาวุโสที่สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการต่อต้านการก่อการร้ายของอิสราเอลที่มหาวิทยาลัยไรช์มัน กล่าวด้วยว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นผลจากการทำงานอย่างหนัก

“ศักยภาพของอิสราเอลเมื่อต้องเผชิญหน้ากับฮิซบอลเลาะห์ แสดงให้เห็นถึงการแทรกซึมของข่าวกรองอย่างลึกซึ้งในแนวรบของฮิซบอลเลาะห์” เธอกล่าว และเสริมว่า “สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา” หลังจากที่ฮิซบอลเลาะห์เริ่มโจมตีทางตอนเหนือ

- การโจมตี -
เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่า นาสรัลเลาะห์และผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์คนอื่นๆ รวมตัวกันในวันศุกร์เพื่อประชุมที่ "สำนักงานใหญ่กลาง" ของกลุ่มในฐานที่มั่นหลักซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองทางใต้ของเบรุต

เครื่องบินรบโจมตีพื้นที่ดังกล่าวอย่างหนักหน่วงในขณะที่อิสราเอลเพิ่มกำลังปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

วิดีโอทางทหารแสดงให้เห็นเครื่องบินรบ F15 ขึ้นบินจากฐานทัพอากาศฮัตเซริมในวันศุกร์เพื่อปฏิบัติการ

ก่อนเวลา 18.30 น. เล็กน้อย (15.30 น. GMT) เสียงระเบิดอันดังก้องไปทั่วเมืองหลวงของเลบานอน

The Wall Street Journal รายงานว่าอิสราเอลใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผนว่าจะใช้ "ระเบิดเวลาชุดหนึ่ง" อย่างไรเพื่อเจาะทะลวงบังเกอร์ใต้ตึกที่พักอาศัยที่นาสรัลเลาะห์จะอยู่ที่นั่น "โดยระเบิดแต่ละครั้งจะปูทางไปสู่ระเบิดครั้งต่อไป"

แต่ The Wall Street Journal  ยังอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่ากำหนดเวลาการโจมตี "เป็นโอกาสอันดี โดยเกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลได้รับรู้เกี่ยวกับการประชุมดังกล่าวเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดขึ้น"

ตรงกับช่วงที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู อยู่ต่างประเทศในขณะนั้น

ในเวลาต่อมา สำนักงานของเขาได้เผยแพร่ภาพถ่ายที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีกำลังอนุมัติการโจมตีดังกล่าว ซึ่งหนังสือพิมพ์ The Times of Israel ระบุว่าภาพถ่ายดังกล่าวถ่ายที่โรงแรมของเขาในนิวยอร์ก

อิสราเอลไม่ได้ระบุอาวุธที่ใช้ในการโจมตีครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ The New York Times ระบุว่าการวิเคราะห์วิดีโอทางการทหารบ่งชี้ว่าเครื่องบินที่ใช้โจมตีนั้น "ติดตั้งระเบิดหนัก 2,000 ปอนด์อย่างน้อย 15 ลูก"

เจ้าหน้าที่ระดับสูงบอกกับหนังสือพิมพ์ว่า "มีการทิ้งระเบิดมากกว่า 80 ลูกในช่วงเวลาหลายนาทีเพื่อสังหารนาสรัลเลาะห์" หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ระบุว่าอิสราเอลโจมตีบังเกอร์ด้วย "ระเบิด 80 ตัน"

- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น -
ช่างภาพของ AFP ระบุว่าการโจมตีทางอากาศทำให้เกิดหลุมกว้างขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 เมตร 

เจมส์ ดอร์ซีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลาง กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการก่อรัฐประหารทางข่าวกรองที่ "ซับซ้อนมาก"

"การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเทคโนโลยีที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่อิสราเอลแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อย่างลึกซึ้งอีกด้วย" เขากล่าว

ไฮโก วิมเมน จากกลุ่ม  International Crisis Group กล่าวว่า ผลกระทบในระยะยาวต่อปฏิบัติการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังไม่ชัดเจน

"แม้ว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะมีสถาบันที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะล่มสลายด้วยการทำลายหัวหน้า แต่การสูญเสียทรัพยากรมนุษย์จำนวนมหาศาลจะส่งผลเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในไม่ช้า" วิมเมน ผู้อำนวยการโครงการของกลุ่มวิจัยในอิรัก ซีเรีย และเลบานอน กล่าว

"การแทรกซึมของข่าวกรองอย่างกว้างขวางยังทำให้มีข้อสงสัยว่าพวกเขาสามารถตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์หรือโจมตีอิสราเอลทางตอนเหนือด้วยจรวดได้อีกต่อไปหรือไม่"

ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่อิสราเอลกำลังเฉลิมฉลองการเสียชีวิตของนาสรัลเลาะห์ ขณะที่กำลังชั่งน้ำหนักว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ก่อขึ้นตามแนวชายแดนทางตอนเหนือหรือไม่ (ล่าสุด ณ วันที่ 1 ตุลาคม อิสราเอลตัดสินใจส่งทหารราบบุกเข้าไปในเลบานอนแล้ว) 

กองทัพอิสราเอลเผยแพร่บันทึกการสนทนาเมื่อวันที่ 28 กันยายน โดยอ้างคำพูดของผู้บัญชาการฝูงบินที่โจมตีนัสรัลเลาะห์ว่า "เราจะเข้าถึงทุกคนทุกที่"

Report by Agence France-Presse

Photo - TOPSHOT - ผู้ไว้อาลัยเดินขบวนพร้อมโลงศพเชิงสัญลักษณ์ในพิธีรำลึกถึงฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ อดีตผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์แห่งเลบานอน ซึ่งเสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกรุงเบรุตเมื่อไม่กี่วันก่อน ณ ชานเมืองทางตะวันออกของกรุงแบกแดด เมืองซาดร์ซิตี้ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2024 หลังจากที่อิรักประกาศอย่างเป็นทางการให้มีช่วงเวลาไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วันสำหรับนาสรัลเลาะห์ (ภาพโดย AHMAD AL-RUBAYE / AFP)