นักข่าวชาวรัสเซีย มิคาอิล ซิการ์ (Mikhail Zygar) บรรณาธิการบริหารผู้ก่อตั้งสถานีข่าวรัสเซีย TV Rain ได้เขียนในคอลัมน์ในนิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมนีว่า ตามแหล่งข่าวในรัฐบาลของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เผยว่าปูตินเดินทางไปมองโกเลียเพื่อขอคำแนะนำจากหมอผี โดยคณะผู้ติดตามของปูตินประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จริงและนักวิทยาศาสตร์การเมืองที่สนับสนุนรัฐบาล ซึ่งสนับสนุนการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใหม่ๆ และการใช้อาวุธดังกล่าวในยูเครนและยุโรปอย่างแข็งขัน

ตามรายงานใน Der Spiegel การเยือนมองโกเลียของ ปูติน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนกันยายน มีการประชุมระหว่างประธานาธิบดีรัสเซียกับหมอผีมองโกเลียด้วย โดยแหล่งข่าวของ ซิการ์ เผยว่า การพบปะกับหมอผีอาจเป็นเป้าหมายหลักของการเดินทางที่ไม่คาดคิดของปูตินที่จู่ๆ ก็เดินทางไปยังมองโกเลียโดยมีการประกาศล่วงหน้าเพียงสามวันก่อนการเดินทางเริ่มต้น และเป็นการเยือนมองโกเลียครั้งแรกของเขาในรอบห้าปีที่ผ่านมา สันนิษฐานว่าวลาดิมีร์ ปูตินไปขอพรจากหมอผีในมองโกเลียเพื่อใช้อาวุธนิวเคลียร์ 

"ขณะนี้มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วกรุงมอสโกว่าปูตินต้องการพรจากหมอผีเพื่อใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่หากไม่ได้รับความยินยอมจากหมอผี เขาก็ไม่กล้าที่จะก้าวไปสู่ขั้นร้ายแรงเช่นนี้ เพราะกลัวว่าจะทำให้วิญญาณโกรธ และว่ากันว่าเขากลับมาจากมองโกเลียด้วยความพอใจ" ซิการ์ ระบุ

ซิการ์เองก็ยอมรับว่าไม่สามารถพิสูจน์ข้อมูลนี้ได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาปูตินมีท่าทีไม่ต่อต้านลัทธิไสยศาสตร์ ลัทธิลึกลับ และคำสอนทางวิทยาศาสตร์เทียมอื่นๆ และยังให้ความสนใจกับเรื่องศาสนาพอสมควร 

ตามข้อมูลของ มิคาอิล ซิการ์ ระบุว่า ปูตินได้รับการแนะนำให้รู้จักกับแนวทางปฏิบัติแบบหมอผีโดยเซอร์เก ชอยกู อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย ก่อนที่เขาจะลาออก ชอยกูและปูตินมักจะไปเยือนสาธารณรัฐตูวา ซึ่งเป็นเขตปกครองของรัสซียที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อชาติมองโกล และลัทธิหมอผีของชาวมองโกลเป็นศาสนาประจำสาธารณรัฐ

ซิการ์ บอกว่า "ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เขาได้เดินทางไปตูวาหลายครั้งหลายหน มองโกเลียและตูวาถือเป็นบ้านเกิดของหมอผีที่มีพลังมากที่สุดในโลก วลาดิมีร์ ปูตินเป็นที่รู้จักมานานแล้วว่ามีทัศนคติพิเศษต่อลัทธิบูชาลึกลับ และดูเหมือนว่าเขาจะรวมความสนใจในลัทธิบูชาลึกลับของนิกายออร์โธดอกซ์เข้ากับศาสนาของพวกนับถือพระเจ้าแบบอื่นๆ"

ซิการ์ ยังเผยว่า ข่าวลือเกี่ยวกับพิธีกรรมแบบหมอผีที่ปูตินเข้าร่วมนั้นแพร่หลายอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ในปี 2022 วาเลรี โซโลเว นักรัฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงน่ากังขาอย่างมาก อ้างว่าการโจมตียูเครนของรัสเซียเกิดขึ้นก่อนพิธีนอกรีตที่จัดโดยหมอผีให้กับปูตินที่บ้านพักของเขาในเมืองโซชิ พวกเขาอ้างว่าพวกเขาได้สังเวยนกอินทรีและทำนายว่า ปฏิบัติการทางทหารจะประสบความสำเร็จ

"แหล่งข่าวใกล้ชิดกับเครมลินเผยว่าปูตินได้ปรึกษาหารือกับนักลึกลับหลายคนอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนการรุกราน และทุกคนก็รับรองกับเขาว่าจะได้รับชัยชนะทางการทหาร" ซิการ์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม นักสังคมวิทยาชาวรัสเซีย อิกอร์ ไอด์มัน แสดงความสงสัยเกี่ยวกับข่าวลือเกี่ยวกับการพบปะกับหมอผีของประธานาธิบดีรัสเซีย

กระนั้นก็ตาม อับบาส กัลยามอฟ นักรัฐศาสตร์ชาวรัสเซีย อดีตนักเขียนคำปราศรัยของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองในรัสเซีย กลับไม่รู้สึกว่าข่าวเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของปูตินในพิธีกรรมทางไสยศาสตร์เป็นเรื่องบ้าๆ  เขากล่าวกับ Radio Free Europe/Radio Liberty ภาคภาษารัสเซีย  ว่า

"จริงอยู่ที่ ซิการ์ลดทอน (ข้อมูล) ทุกอย่างลงเหลือเพียงหัวข้อการขอพรในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากอาวุธนิวเคลียร์เป็นอาวุธของเทพเจ้า และพลังดังกล่าวไม่ได้มอบให้กับมนุษย์ธรรมดา หากมนุษย์ธรรมดาต้องการใช้อาวุธของเทพเจ้า เขาจะต้องเข้ารับพิธีกรรมที่เหมาะสมและได้รับพรจากสวรรค์ นอกจากนี้ เขายังสนใจในคำถามเกี่ยวกับการมีอายุยืนยาว ตลอดจนคำถามเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิด ทั้งหมดนี้ดูไม่ใช่เรื่องบ้าสำหรับผม ... โดยทั่วไปแล้ว ผมทราบดีว่าพี่น้องโควัลชุก (หมายถึง มิคาอิล วาเลนติโนวิช โควัลชุก  นักฟิสิกส์และเจ้าหน้าที่ชาวรัสเซีย เขาเป็นพี่ชายของยูริ โควัลชุก ซึ่งรู้จักกันในนาม "นายธนาคารส่วนตัวของปูติน") กำลังสนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการขนาดใหญ่เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น ลัทธิมนตร์ไสยศาสตร์ พุทธศาสนานิกายทิเบต และลัทธิลามะ พวกนี้เป็นคนที่สนิทสนมกับปูตินมาก และสามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำนั้นเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของปูตินเอง"

Radio Free Europe/Radio Liberty ได้ซักถาม อับบาส กัลยามอฟ ว่า ทำไม ปูติน ถึงสนใจเรื่องนี้? เขาตอบว่า "ความสนใจในลัทธิเหนือธรรมชาติของผู้นำเผด็จการอย่างฮิตเลอร์หรือปูติน ซึ่งก่ออาชญากรรมร้ายแรงนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม สิ่งที่พวกเขาทำนั้นขัดแย้งกับศาสนาคริสต์แบบตามขนบ ซึ่งยึดหลักศีลธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือ อย่าทำกับผู้อื่นในสิ่งที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง อ่านพระธรรมเทศนาบนภูเขาแล้วทำความเข้าใจว่าศาสนาคริสต์ไม่สามารถอนุมัติสิ่งที่ปูตินทำ ผู้นำประเภทนี้มีพัฒนาการที่สร้างสำนึกมห้เตนเองเป็นพระผู้ช่วยให้รอดอย่างสูง มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นซูเปอร์แมน เมื่อส่งคนจำนวนมากไปสู่ความตาย คุณจะเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นซูเปอร์แมนในที่สุด เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเหล่านี้ต้องการสิ่งอื่นนอกเหนือจากความเชื่อแบบตามขนบธรรมเนียมโดยทั่วไป ซึ่งเหมาะสำหรับคนธรรมดา"

Photo - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 85 ปีแห่งชัยชนะในสมรภูมิคาลฮินโกลเมื่อปี 1939 ในอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2024 (ภาพถ่ายโดย Vyacheslav PROKOFYEV / POOL / AFP)