รัสเซียเตือนว่า จะตอบโต้หลังยูเครนยิงขีปนาวุธพิสัยไกลจากสหรัฐไปยังดินแดนของตนเป็นครั้งแรก ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินประกาศขู่ใช้นิวเคลียร์ในวันที่ 1,000 ของสงคราม
เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งบอกกับ AFP ว่า การโจมตีภูมิภาคเบรียนสก์ ของรัสเซียเมื่อเช้าวันอังคาร "กระทำโดยขีปนาวุธ ATACMS" ซึ่งหมายถึงระบบขีปนาวุธยุทธวิธีของกองทัพบกที่สหรัฐจัดหาให้
ในช่วงเวลาเดียวกับที่ครบ 1,000 วันหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประเทศตะวันตกต้องการ "ยกระดับ" ความขัดแย้ง
“เราจะถือว่านี่เป็นช่วงใหม่ของสงครามตะวันตกกับรัสเซีย และเราจะตอบสนองตามนั้น” ลาฟรอฟกล่าวในการแถลงข่าวที่การประชุมสุดยอด G20 ในบราซิล
เมื่อวันอังคาร ปูตินได้ลงนามในคำสั่งขยายขอบเขตเกณฑ์การใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งทำเนียบขาว สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรปประณามว่าเป็นการกระทำที่ “ไม่รับผิดชอบ”
ปูตินใช้ถ้อยคำในทำนองว่าจะโจมตีด้วยนิวเคลียร์มาตลอดช่วงความขัดแย้ง แต่กลับแสดงท่าทีก้าวร้าวมากขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์และข้อตกลงลดอาวุธสำคัญกับสหรัฐฯ
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวหาผู้นำ G20 ในบราซิลว่าไม่ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับภัยคุกคามนิวเคลียร์ของปูติน โดยกล่าวว่าผู้นำรัสเซียไม่สนใจสันติภาพ
ต่อมาเขาเตือนว่ายูเครนจะแพ้สงครามหากสหรัฐฯ ตัดเงินสนับสนุนทางการทหารให้กับเคียฟ
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความกังขาต่อเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลของโจ ไบเดนมอบให้กับยูเครนตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานในปี 2022
“ถ้าพวกเขาตัด เราก็จะ – ผมคิดว่าเราจะแพ้” เซเลนสกีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเครือข่ายข่าวฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ
“เราจะสู้ เรามีการผลิต แต่ยังไม่เพียงพอที่จะเอาชนะ” เขากล่าวเสริม
อาวุธนิวเคลียร์ข่มขู่
สัปดาห์นี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่าได้อนุมัติให้ยูเครนใช้ระบบ ATACMS กับเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย ซึ่งเป็นคำขอของยูเครนมายาวนาน
The Washington Post รายงานเมื่อวันอังคาร โดยอ้างจากเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อ 2 คน รายงานว่าไบเดนยังอนุมัติให้ยูเครนจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะช่วยเสริมการป้องกันของเคียฟต่อกองทหารรัสเซียที่รุกคืบ แต่การตัดสินใจเช่นนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มควบคุมอาวุธ
แต่เรื่องนี้ยังไม่น่ากังวลเท่ากับการใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ โดยยูเครนทำการโจมตีรัสเซีย โดยฝ่ายรัสเซียกล่าวเมื่อวันอังคารว่ายูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS กับโรงงานแห่งหนึ่งในภูมิภาคบรียนสค์ใกล้กับชายแดน
“เมื่อเวลา 03:25 น. (0025 GMT) ศัตรูได้โจมตีพื้นที่แห่งหนึ่งในภูมิภาคเบรียนสห์ด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล 6 ลูก ตามข้อมูลที่ได้รับการยืนยัน ขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS ที่ผลิตในสหรัฐฯ ถูกใช้” แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมระบุ
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ลาฟรอฟกล่าวว่าขีปนาวุธพิสัย 300 กิโลเมตร (186 ไมล์) ไม่สามารถยิงได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือทางเทคนิคจากสหรัฐฯ
รัฐบาลรัสเซียกล่าวว่าการใช้อาวุธของชาติตะวันตกกับดินแดนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลจะทำให้สหรัฐฯ มีส่วนร่วมโดยตรงในความขัดแย้ง
การยืนยันการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ปูตินลงนามในกฤษฎีกาที่อนุญาตให้รัฐบาลรัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์กับประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ เช่น ยูเครน หากประเทศเหล่านั้นได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์
หลักการดำเนินการใหม่นี้ยังอนุญาตให้รัฐบาลรัสเซียตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในกรณีที่เกิดการโจมตีทางอากาศ "ครั้งใหญ่" แม้ว่าจะเป็นเพียงอาวุธธรรมดาก็ตาม
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวว่าเรื่องนี้ "เป็นความจำเป็นเพื่อให้หลักการของเราสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน"
นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาตะวันตกว่าพยายามใช้ยูเครนเพื่อเอาชนะรัสเซียในเชิงยุทธศาสตร์ สำนักข่าว RIA Novosti รายงาน
'รัสเซียกล้าขึ้น'
การรุกรานของรัสเซียซึ่งครอบ 1,000 วันแล้วได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 มาถึงตอนนี้นับเป็นช่วงเวลาอันตรายสำหรับกองกำลังยูเครนในแนวรบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้กับเมืองคูเปียนสค์และโปโครฟสค์ที่เคยถูกสงครามโจมตี
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รัสเซียยังเพิ่มการโจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครนด้วย โดยโจมตีใจกลางเมืองและอาคารที่อยู่อาศัยซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนไปหลายสิบราย
การโจมตีของรัสเซียในเขตซูมี ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อช่วงปลายวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำลายอาคารที่อยู่อาศัยสมัยโซเวียตและสังหารผู้คนไปอย่างน้อย 12 ราย รวมทั้งเด็กด้วย ตามรายงานของเจ้าหน้าที่
กองกำลังยูเครนสูญเสียพื้นที่อย่างต่อเนื่องในเขตคูร์สค์ของรัสเซีย ซึ่งพวกเขายึดครองดินแดนได้เมื่อเดือนสิงหาคม และเตือนว่ารัสเซียได้ระดมกำลังทหารประมาณ 50,000 นาย รวมถึงกองกำลังเกาหลีเหนือ เพื่อยึดคืนภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ ชอลซ์ กล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เมื่อวันอังคารว่า การที่กองทัพเกาหลีเหนือส่งทหารไปอาจส่งผลให้ความขัดแย้งเลวร้ายลง
ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างก็พยายามผลักดันเศรษฐกิจของตนเพื่อช่วยเหลือความพยายามในการทำสงคราม
เมื่อวันอังคาร สมาชิกรัฐสภาของยูเครนลงมติเห็นชอบงบประมาณปี 2025 โดยจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมและความมั่นคงมากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐสภาของรัสเซียได้อนุมัติงบประมาณที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเกือบร้อยละ 30 ในปีหน้า
เมื่อวันอังคาร มาร์ก รุตเต้ ประธาน NATO เตือนว่าไม่ควรปล่อยให้ปูตินได้รับชัยชนะ
“เหตุใดเรื่องนี้จึงสำคัญมากที่ปูตินจะไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ เพราะเราจะมีรัสเซียที่กล้าหาญมากขึ้นที่ชายแดนของเรา... และผมมั่นใจอย่างยิ่งว่ารัสเซียจะไม่หยุดเพียงแค่นั้น” รุตเต้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์
ที่สหประชาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบการรุกรานของรัสเซีย มีประเทศสมาชิกราว 50 ประเทศยืนยันการสนับสนุนยูเครนและเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครนเมื่อวันอังคาร
Agence France-Presse
Photo - วาซีล คีมีเนตส์ เอกอัครราชทูตยูเครนประจำออสเตรีย พูดคุยกับชาวต่างชาติและผู้สนับสนุนอื่นๆ ที่มารวมตัวกันที่จัตุรัสสเตฟาน เพื่อแสดงความสามัคคีกับยูเครน เนื่องในโอกาสครบรอบ 1,000 วันของการเริ่มต้นสงครามในยูเครน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2024 (ภาพโดย JOE KLAMAR / AFP)
