Honda กับ Nissan ควบรวมกิจการ เพื่อสู้กับ Tesla และ EV จีน

Honda กับ Nissan ควบรวมกิจการ เพื่อสู้กับ Tesla และ EV จีน

ตามรายงานของสื่อเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระบุว่า บริษัทฮอนด้า (Honda) และนิสสัน (Nissan) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของญี่ปุ่นกำลังเจรจาการควบรวมกิจการเบื้องต้น โดยเสริมว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถแข่งขันกับเทสลา (Tesla) และผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของจีนได้ดีขึ้น

ราคาหุ้นของนิสสันพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 20%  หลังจากมีรายงานข่าวเรื่องนี้ในหนังสือพิมพ์ Nikkei และ Financial Times และหนังสือพิมพ์อื่นๆ ขณะที่ฮอนด้าร่วงลงมากกว่า 2% ส่วนมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors) ซึ่งนิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดนั้น พุ่งขึ้น 13% 

ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองและสามของญี่ปุ่นซึ่งรองจากโตโยต้า ได้ตกลงกันไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่าจะร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้า

โฆษกของฮอนด้ากล่าวกับ AFP เมื่อวันพุธว่า "เรากำลังหารือถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันระหว่างฮอนด้าและนิสสันในอนาคต ในหลากหลายสาขาและหลายพื้นที่ ซึ่งความเป็นไปได้เหล่านี้รวมถึงรายงานล่าสุดด้วย แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ"

นิสสันกล่าวว่า "เนื้อหาของรายงานไม่ใช่สิ่งที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งประกาศออกมา ตามที่ประกาศไปเมื่อเดือนมีนาคมของปีนี้ ฮอนด้าและนิสสันกำลังสำรวจความเป็นไปได้ต่างๆ สำหรับความร่วมมือในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของกันและกัน

"หากมีการอัปเดตใดๆ เราจะแจ้งให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราทราบในเวลาที่เหมาะสม"

ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรงในรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคู่แข่งจากจีนอย่าง BYD

โฟล์คสวาเกน (Volkswagen ) กำลังพิจารณาปิดโรงงานในเยอรมนีเป็นครั้งแรก ขณะที่เจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) กล่าวในเดือนนี้ว่าจะบันทึกการตัดหนี้สูญมูลค่ากว่า 5,000  ล้านดอลลาร์จากบริษัทร่วมทุนในจีน

เมื่อเดือนที่แล้ว นิสสันได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คน ปรับลดการคาดการณ์ยอดขาย และระบุว่าจะลดกำลังการผลิตทั่วโลกลง 20%

มาโกโตะ อูชิดะ (Makoto Uchida) ซีอีโอของบริษัทเตือนว่า "สถานการณ์เลวร้าย" และเขาจะสละเงินเดือนครึ่งหนึ่ง

นิสสันเผชิญกับทศวรรษที่วุ่นวาย ซึ่งรวมถึงการจับกุมอดีตซีอีโอ คือ คาร์ลอส โกส์น(Carlos Ghosn) ในปี 2018 ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก  ซึ่งต่อมาเขาหนัการประกันตัวและหลบหนีออกจากญี่ปุ่นโดยซ่อนตัวในกล่องอุปกรณ์ดนตรี 

ความร่วมมือครั้งสำคัญกับเรโนลต์ (Renault ) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส กลายเป็นอุปสรรคสำหรับทั้งคู่ และตอนนี้ทั้งสองบริษัทกำลัง "ปรับสมดุล" ความสัมพันธ์ระหว่างกัน

การแข่งขันด้านรถยนต์ไฟฟ้า
หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานว่า ฮอนด้าและนิสสันกำลังพิจารณาที่จะดำเนินงานภายใต้บริษัทโฮลดิ้ง (holding company) และจะลงนามในบันทึกความเข้าใจในเร็วๆ นี้

การถือหุ้นของทั้งสองบริษัทในบริษัทใหม่ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ จะมีการตัดสินใจในภายหลัง และทั้งสองบริษัทยังตั้งเป้าที่จะนำมิตซูบิชิ มอเตอร์สเข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งในที่สุด หนังสือพิมพ์ดังกล่าวระบุ

หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า การเจรจาเบื้องต้นเกี่ยวกับการควบรวมกิจการยังอยู่ในระยะเริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการควบรวมกิจการอาจส่งผลให้มีการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์รายงาน

จีนแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2566 โดยได้รับความช่วยเหลือจากความโดดเด่นของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นภาคส่วนที่บริษัทญี่ปุ่นสูญเสียพื้นที่ไปเนื่องจากมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ไฮบริด

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ประกาศแผนการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าเป็นสองเท่าเป็น 65,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายอันทะเยอทะยานที่ตั้งไว้เมื่อ 3 ปีก่อนในการบรรลุเป้าหมายยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2040

นิสสันได้ส่งสัญญาณถึงความทะเยอทะยานที่คล้ายคลึงกัน

เมื่อเดือนมีนาคม บริษัทได้กล่าวว่ารถยนต์รุ่นใหม่ 16 รุ่นจาก 30 รุ่นที่วางแผนจะเปิดตัวภายใน 3 ปีข้างหน้าจะเป็น "รถยนต์ไฟฟ้า"

ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของโลกให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยความต้องการรถยนต์รุ่นที่ก่อมลพิษน้อยลงเพิ่มขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากลับชะลอตัวลงเนื่องจากผู้บริโภคกังวลเรื่องราคาที่สูง ความน่าเชื่อถือ ระยะทาง และการขาดจุดชาร์จ

รถยนต์ไฮบริดที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และเครื่องยนต์สันดาปภายในได้รับความนิยมอย่างยาวนานในญี่ปุ่น โดยคิดเป็นยอดขาย 40 เปอร์เซ็นต์ในปี 2022

รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในญี่ปุ่นในปี 2022 เพียง 1.7% เท่านั้น เมื่อเทียบกับ 15% ในยุโรปตะวันตก และ 5.3% ในสหรัฐอเมริกา

Agence France-Presse

Photo - ทาคุยะ สึมูระ (Takuya Tsumura) ประธานและซีอีโอของฮอนด้าคาร์สอินเดีย โพสท่าถ่ายรูประหว่างงานเปิดตัวรถยนต์ฮอนด้า อเมซ 2024 เจเนอเรชั่นที่ 3 ในนิวเดลี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2024 (ภาพถ่ายโดย Money SHARMA / AFP)
 

TAGS: #Honda #Nissan