ประโยคที่ว่า "มีแต่พรรคฝ่ายขวาที่จะช่วยเราได้" ผมล้อมาจากโพสต์ของ อีลอน มัสก์ ใน X ของเขาซึ่งเขียนไว้ว่า "Only AfD can save Germany"
AfD คือชื่อย่อของพรรค "ทางเลือกเพื่อเยอรมนี" (Alternative für Deutschland) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวา ต่อต้านคนต่างด้าว ต่อต้านผู้อพยพ สนับสนุนค่านิยมคริสเตียนและไม่เอาชาวมุสลิม
พรรค AfD ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในชบ่วงเวลาที่เยอรมนีมีรัฐบาล "ใจกว้าง" หรือพวกโว๊ค (Wokeness) ที่สนับสนุนความหลากหลายทางเชื้อชาติและทางเพศ ทำให้เยอรมนีมีผู้อพยพเต็มไปหมด และก่อปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ
คนเยอรมนีเริ่มทนไม่ไหว จนกระทั่งพวกเขาเทใจให้ AfD กลายเป็นพรรคฝ่ายพรรคแรกที่ชนะการเลือกตั้งระดับรัฐได้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แถมยังเกือบชนะอีกรัฐหนึ่งด้วย
ครั้งสุดท้ายที่ฝ่ายขวาจัดชนะ คือเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 พรรคขวาที่ว่านั้นคือ "นาซี"
AfD ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มรัฐอดีตเยอรมันตะวันออก ซึ่งแต่เดิมเป็นสังคมนิยม (ฝ่ายซ้าย) แต่นับวันเศรษฐกิจยิ่งแย่ลงทุกที ประชาชนจึงไม่เอาซ้ายที่เปิดประเทศรับคนอพยเข้ามา เพราะคิดว่าพวกนี้มาแย่งงาน และที่สำคัญคนนอกพวกนี้เข้ามาทำลาย "ความเป็นเยอรมัน"
แนวคิดของ AfD ก็คือ การปกป้องอำนาจอธิปไตยของชาติ ปกป้องเอกลักษณ์ตะวันตก และปกป้องวัฒนธรรมเยอรมันในสิ่งที่เรียกว่า ต่อต้านผู้อพยพ ต่อต้านคนมุสลิม ต่อต้านการรวมตัวเป็นสหภาพยุโรป (เพราะเท่ากับเสียอธิปไตยไปส่วนหนึ่ง)
ความเป็นชาตินิยมนั้นรุนแรงมาก AfD เรียกร้องอำองการนาจอธิปไตยและความภาคภูมิใจในชาติของเยอรมนีคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิเสธ "ความผิดร่วมของเยอรมนี" (Kollektivschuld) คือความรู้สึกผิดของเยอรมนีที่เคยสนับสนุนฝ่ายขวาอยางพรรคนาซีมาก่อน แต่ AfD บอกว่าให้สลักความรู้สึกผิดๆ นี้ไปซะ แล้วควรรื้อฟื้นแนวคิด Völkisch (ชนชาติ เชื้อชาติ วัฒนธรรมประชาชนเยอรมันแท้ๆ) กลับมาอีกครั้งโดยสลัดความเกี่ยวข้องกับนาซีออกไป ให้เหลือแต่ชาตินิยมเพรียวๆ
ในความคิดของฝ่ายขวาเยอรมนีตอนนี้ "ไม่บริสุทธิ์" เพราะคนต่างด้าวเข้ามาทำตัวเป็นเหมือนเจ้าของประเทศ ถึงเวลาที่จะกวาดล้างแล้ว
กระแสชาตินิยมที่ถูกจุดติดไปทั่วยุโรปตอนนี้ มีสาเหตุสองอย่างคือ ต่างด้าวเข้ามาเยอะเกิน และรัฐบาลเป็นพวกโว๊ค ซึ่งชอบทำลายชาตินิยม เพื่อที่จะได้รับผู้อพยพชาติอื่นๆ เข้ามามากๆ
แต่การทำแบบนี้ทำให้เจ้าของประเทศเดิมรู้สึกว่า พวกเขากำลังถูกทำให้เป็น "พลเมืองชั้นสองในบ้านของตัวเอง" และตัวตนของพวกเขาถูกทำลายด้วยนโยบายโว๊คๆ
ล่าสุด เมื่อเย็นวันศุกร์ ชายคนหนึ่งได้ขับรถพุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่เดินจับจ่ายซื้อของในตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดบูร์ก ประเทศเยอรมนี
การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย รวมถึงเด็กชายวัย 9 ขวบ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 ราย โดยหลายรายอาการสาหัส
ปรากฎว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนต่างด้าวจากตะวันออกกลาง เข้ามาในเยอรมนีในฐานะผู้ลี้ภัย
หลังจากเกิดเหตุนี้ AfD ไม่รอช้า กลายเป็นแกนหลักในการระดมผู้คนอกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านผู้อพยพ
สเวน ทริตชเลอร์ (Sven Tritschler) รองประธานพรรค AfD ในรัฐสภาแห่งรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า "มีเพียง AfD เท่านั้นที่จะเนรเทศชายคนนี้ไปนานแล้ว"
ส่วน ดอมินิก เคาฟนาร์ (Dominik Kaufner) สมาชิก AfD ของรัฐสภาบรันเดินบวร์ก โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า "การเอาผู้อพยพมาเป็นล้านคือตัวปัญหา การส่งตัวผู้อพยพนับล้านกลับไปคือทางออก"
แต่ท่าทีของครในเยอรมนียังไท่น่าสนใจเท่ากับคนนอกอย่าง อีลอน มัสก์ ที่บอกว่า "มีแต่ AfD เท่านั้นที่จะช่วยเยอรมนีให้นรอดได้"
นี่ไม่ใช่การโพสต์พล่อยๆ แต่เป็นการแสดงตัวตนของมัสก์ ซึ่งในระยะหลังเขาแสดงตนว่าเป็าพวกขวาจัดมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังแสดงออกด้วยการช่วยเหลือทางการเงินกับพรรคฝ่ายขวาในสหรัฐ (รีพับลิกัน) และอยู้เคียงข้าง โดนัลด์ ทรัมป์
ต่อมาเขายังไม่หยุดแค่ในสหรัฐฯ มัสก์ประกาศจะหนุนทุนให้กับพรรค Reform UK ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของสหราชอาณาจักร ต่อต้านผู้อพยพ และสนับสนุนชาตินิยมอังกฤษ
พรรคนี้มีแนวคิดที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งคือ การนำ "หลักสูตรรักชาติ" มาใช้ในโรงเรียน และต่อต้านแนวคิดโว๊ค คือห้ามสั่งสอนเรื่อง "อุดมการณ์ข้ามเพศ" ไม่อนุญาตให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับเพศ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม หรือการเปลี่ยนคำสรรพนามทางเพศในโรงเรียน (เรื่องนี้มัสก์สนับสนุนอย่างหนัก รวมถึงทรัมป์ด้วย)
เรื่องนี้ชัดเจนขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน มัสก์ปรากฏตัวพร้อมกับ ไนเจล ฟาราจ (Nigel Farage) ผู้นำขวาจัดของ Reform UK ที่คฤหาสน์ Mar-a-Lago ของทรัมป์ในฟลอริดา เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว โดยฟาราจบอกว่า “มีการหารือเรื่องเงิน” ซึ่งต่อมามีสื่อรายงานว่ายอดบริจาคช่วยพรรคฝ่ายขวานี้อาจสูงถึง 100 บ้านดอลลาร์
พรรคนี้ชนะ 5 ที่นั่งในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2024 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พรรค Reform UK มีสมาชิกรัฐสภาได้รับเลือกเข้าสู่สภาสามัญ นั่นหมายคความว่าพรรคและหัวหน้าพรรคที่เคยถูกมองเป็นตัวตลก ตอนนี้เริ่มมีคนนิยมชมชอบมากขึ้น
การที่มัสก์สนับสนุนพรรคฝ่ายขวาทั้งในสหราชอาณาจักรและในเยอรมนี อาจจะไม่ความกระหายที่จะครองโลกด้วยฝ่ายขวา แต่อาจเป็นเพราะวาระส่วนตัวของเขาที่ต้องการทำลายฝ่ายซ้าย ทำลายฝ่ายโว๊ค และช่วยสร้างระเบียบโลกใหม่ ซึ่งที่จริงเป็นของเดิม นั่นคือระเบียบโลกที่เน้นชาตินิยม ยุติระเบียบโลกแบบ Globalist หรือพวกโลกาภิวัฒน์อำพราง (โดยที่จริงแล้วใช้โลกาภิวัฒน์ทำลายชาตินิยมที่อื่นๆ)
การที่มัสก์โพสต์เกี่ยวกับ AfD จึงเข้าใจได้ไม่ยากว่าเขาเห็นว่า "ฝ่ายขวาเป็นผู้ช่วยให้ประเทศชาติรอดพ้น"
กระแสชาตินิยมใหม่ (Neo-nationalism) และขวาใหม่ (New right) กำลังเริ่มเติบโตในยุโรป มันโตวันโตคืนในโปแลนด์ ฮังการี ฝรั่งเศส ออสเตรีย อิตาลี และรัสเซีย
แม้ประเทศพวกนี้บางประเทศจเป็นศัตรูกัน แต่กลับมีอุดมการณ์ร่วมกัน เช่น โปแลนด์แม้จะเกลียดและกลัวรัสเซีย แต่ก็เหมือนรัสเซียตรงที่ปลุกชาตินิยมอย่างหนัก ต่อต้านผู้อพยพแบบที่ไม่ยอมเข้าประเทศแม้แต่คนเดียว และต่อต้านพวกโว๊คอย่างเลวร้าย คือไม่อยู่ร่วมโลก LGBT เอาเลย
แนวร่วมนี้เป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับพวก Globalist และ Wokeness เพราะมันกำลังเชื่อมต่อยุโรปและแอตแลนติกเข้าเป็นแนวร่วมเดียวกัน หากวันใดวันหนึ่งพวก New right เช่น ทรัมป์และฝ่ายขวาอื่นๆ ประสบความสำเร็จในการหยุดสงครามระหว่างยูเครน-รัสเซียลงได้ วันนั้น แนวร่วมอุดมกาณณ์นี้จะก่อตัวขึ้นมาชัดขึ้นเพื่อทำลาย "ค่านิยมเสรีนิยม" ที่ปักหลักในโลกตะวันตกมานาน
นี่คือการลงทุนในระยะใกล้และระยะกลางของ อีลอน มัสก์
ดูเหมือนตอนนี้กายเป็น "พ่อมดฝ่ายขวา" ผู้ร่ายมนตร์ (ด้วนเงิน) เพื่อปลุกยักษ์ขวาจัดขึ้นมาช่วย "กู้ขาติ" จากการถูกรุกรานโดยคนต่างด้าวและค่านิยมต่างแดน
บทความโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - ผู้คนจุดพลุสัญญาณระหว่างการเดินขบวนที่จัดโดยกลุ่มชาตินิยมในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งเป็นวันประกาศอิสรภาพของโปแลนด์ (ภาพโดย Wojtek RADWANSKI / AFP)