ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาขู่ว่าจะเรียกร้องให้สหรัฐกลับไปควบคุมคลองปานามาอีกครั้ง โดยเขาบ่นว่าเรือของสหรัฐฯ ได้รับการปฏิบัติอย่าง "ไม่ยุติธรรม" และชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของจีน
ต่อไปนี้คือ 5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเส้นทางน้ำที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติก
ปานามาเป็นผู้ดำเนินการ
เส้นทางน้ำระหว่างมหาสมุทรยาว 80 กิโลเมตร (50 ไมล์) นี้ดำเนินการโดยสำนักงานคลองปานามา (Panama Canal Authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระ
รัฐธรรมนูญของปานามา ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคอเมริกากลางระบุว่าคลองนี้เป็น "มรดกของชาติปานามาที่ไม่อาจโอนให้ใครได้" แต่เปิดให้เรือของ "ทุกชาติ" ใช้ได้
สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ใช้หลัก โดยคิดเป็น 74% ของสินค้าทั้งหมด รองลงมาคือจีนที่ 21%
รัฐบาลปานามากำหนดราคาค่าธรรมเนียมโดยพิจารณาจากความสามารถในการรองรับของคลองและความต้องการของประเทศต่างๆ อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับความจุของเรือ
“คลองปานามาไม่มีการควบคุมโดยตรงหรือโดยอ้อมจากจีน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือมหาอำนาจอื่นใด” ประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มูลิโนแห่งปานามากล่าวเมื่อวันอาทิตย์ โดยปฏิเสธคำขู่ของทรัมป์
เรือทุกลำ รวมทั้งเรือรบและเรือดำน้ำ จะต้องมีการนำทางโดยผู้นำทางประจำคลองปานามา (Panama Canal Pilots)
มันคือประวัติศาสตร์แห่งชาติ
ปานามาได้รับเอกราชจากประเทศโคลอมเบียในปี 1903 และเกราชของปานามาก็เชื่อมโยงกับคลองปานามา
ความพยายามแรกๆ ในการขุดคลองอย่างจริงจัง คือความพยายามของเคานต์ เฟอร์ดินานด์ เดอ เลสเซปส์ (Count Ferdinand de Lesseps) แห่งฝรั่งเศส แต่เขาไม่สามารถเปิดช่องทางผ่านคอคอดปานามาได้ สหรัฐฯ จึงได้ส่งเสริมการแยกจังหวัดปานามาจากประเทศโคลอมเบีย และลงนามสนธิสัญญากับประเทศปานานมาที่เพิ่งก่อตั้งนี้ โดยปานามายอมยกดินแดนและน้ำให้ตลอดไปกับสหรัฐฯ เพื่อสร้างคลองนี้
หลังจากก่อสร้างมาเป็นเวลา 10 ปีและลงทุนไป 380 ล้านดอลลาร์ คลองปานามาจึงได้รับการเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1914 โดยมีเรือกลไฟ Ancon แล่นผ่าน
มีผู้เสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บและอุบัติเหตุราว 25,000 รายระหว่างการก่อสร้าง
คลองปานามา “เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของเรา” และเป็น “ความสำเร็จที่ไม่อาจย้อนคืนได้” มูลิโนกล่าว
คือดินแดนของอเมริกา
การจัดตั้ง “เขตคลองปานามา” ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีฐานทัพทหาร ตำรวจ และระบบยุติธรรมของตนเอง ทำให้เกิดข้อเรียกร้องหลายสิบปีในหมู่ชาวปานามาที่ต้องการรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งและควบคุมเส้นทางน้ำด้วยตัวเอง
ในปี 1977 โอมาร์ ตอร์ริโฮส (Omar Torrijos) ผู้นำชาตินิยมของปานามา และจิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามในสนธิสัญญาที่อนุญาตให้โอนอำนาจการครอบครองคลองปานามาไปยังประเทศปานามาในวันที่ 31 ธันวาคม 1999
“ความพยายามใดๆ ที่จะย้อนกลับความสำเร็จทางประวัติศาสตร์นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการดูหมิ่นการต่อสู้ของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูหมิ่นความทรงจำของผู้ที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้” อดีตประธานาธิบดีมาร์ติน ตอร์ริโฮส บุตรชายของนายพลโอมาร์ ตอร์ริโฮส เขียนบนโซเชียลมีเดีย
ภายใต้สนธิสัญญาที่ได้รับการสนับสนุนจากกว่า 40 ประเทศ คลองปานามาถือเป็นกลางและเรือทุกลำสามารถผ่านได้
เงื่อนไขเดียวคือ เรือต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบความปลอดภัย และเรือรบจากประเทศที่อยู่ในภาวะสงครามจะต้องไม่ผ่านในเวลาเดียวกัน
ระบบประตูน้ำที่ไม่เหมือนใคร
ต่างจากคลองสุเอซของอียิปต์ คลองปานามาใช้น้ำจืดที่เก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำสองแห่ง
ภัยแล้งทำให้จำนวนการผ่านคลองของเรือต่างๆ ลดลงในปี 2023 แต่ตั้งแต่นั้นมาสถานการณ์ก็กลับสู่ภาวะปกติ
คลองปานามาซึ่งมีระบบประตูน้ำเพื่อยกและลดเรือได้ช่วยเปลี่ยนโฉมการเดินเรือทั่วโลก
เรือสามารถเดินทางระหว่างสองมหาสมุทร (แอตแลนติกและแปซิฟิก) ได้ในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงโดยไม่ต้องแล่นเรืออ้อมแหลมฮอร์น ซึ่งเป็นปลายสุดของทวีปอเมริกา
คลองนี้ช่วยให้เรือสามารถย่นระยะทางการเดินทางจากนิวยอร์กไปซานฟรานซิสโกได้ 20,300 กิโลเมตร
แหล่งรายได้หลัก
การค้าทางทะเลของโลก 5% ผ่านคลองแห่งนี้ ซึ่งเชื่อมต่อท่าเรือมากกว่า 1,900 แห่งใน 170 ประเทศ
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 คลองนี้เล็กเกินไป จึงต้องมีการขยายคลองระหว่างปี 2009 ถึง 2016
ปัจจุบัน คลองนี้สามารถรองรับเรือที่มีความยาวได้ถึง 366 เมตรและกว้าง 49 เมตร (1,200 ฟุตคูณ 161 ฟุต) ซึ่งเทียบเท่ากับสนามฟุตบอลเกือบ 4 สนาม
คลองนี้สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจของประเทศปานามาในสัดส่วน 6% และตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา คลองนี้มีมูลค่าเข้ารัฐมากกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์
ในปีงบประมาณที่แล้ว เรือมากกว่า 11,200 ลำผ่านคลองนี้ โดยขนส่งสินค้า 423 ล้านตัน
Agence France-Presse
Photo - (แฟ้มภาพ) ภาพเผยแพร่โดยสำนักงานคลองปานามาเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2024 แสดงให้เห็นเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ MSC Marie ยาว 366 เมตร กว้าง 51 เมตร กำลังแล่นผ่านคลองปานามาในปานามา (ภาพโดย Handout / Panama Canal Authority / AFP)