นี่คือเป้าหมายของจีนกับรัสเซีย มหาอำนาจขั้วหลักอีกขั้วของโลกที่กำลังอยู่ในสภาวะเผชิญหน้ากับมหาอำนาจขั้วตะวันตก เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์โลกที่กำลังจะรุนแรงขึ้นในปีต่อๆ ไป นี่คือสิ่งที่อยู่ในความคิดของผู้ของขั้วมหาอำนาจ จีน-รัสเซีย
1. ดูเหมือนว่าเป้าหมายหลักของจีนจะยังคงเป็นการสะสางปัญหาภายในประเทศ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงปราศรัยต่อคณะกรรมการแห่งชาติของการประชุมปรึกษาการเมืองของประชาชนจีนในงานเลี้ยงน้ำชาช่วงปีใหม่เมื่อวันอังคารว่า จีนจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่ "เชิงรุกมากขึ้น" ในปีหน้า หลังจากที่ปีที่ผ่านมาจีนต้องดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำที่เกิดจากวิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์ การบริโภคที่อ่อนแอ และหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงขึ้น
2. คีย์เวิร์ดอยู่ที่คำกล่าวของ สีจิ้นผิง ที่ว่า "เราต้อง... ดำเนินการปฏิรูปอย่างครอบคลุมมากขึ้น ขยายการเปิดกว้างในระดับสูง ประสานงานการพัฒนาและความมั่นคงให้ดีขึ้น (และ) ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่เชิงรุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น" ต่อมา ในสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ที่กล่าวต่อประชาชน สีจิ้นผิงยอมรับว่ายังมีอุปสรรคอยู่ข้างหน้า “การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันต้องเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ๆ ความท้าทายจากความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมภายนอก และแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงจากแรงกระตุ้นการเติบโตแบบเดิมเป็นแรงกระตุ้นแบบใหม่ แต่สิ่งเหล่านี้สามารถเอาชนะได้ด้วยการทำงานหนัก”
3. รัฐบาลจีนใช้มาตรการเชิงรุกมากมายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นการเติบโต รวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ย ยกเลิกข้อจำกัดในการซื้อบ้าน และบรรเทาภาระหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าจำเป็นต้องมีการกระตุ้นทางการคลังโดยตรงมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างการบริโภคภายในประเทศ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพของเศรษฐกิจจีนให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สีจิ้นผิงเชื่อมั่นว่า “คุณภาพผลผลิตใหม่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่า GDP ประจำปีจะเติบโตขึ้นประมาณ 5%” ขณะที่ IMF คาดว่าจีนจะโตที่ 4.5%
4. แม้ว่าจะมีปัญหาเศรษฐกิจที่จะต้องสะสาง (ซึ่งสำหรับจีนแล้วกิจการภายในเป็นเรื่องใหญ่กว่ากิจการภายนอกประเทศ) แต่เพราะสถานการณ์โดยรวมของพันธมิตรจีน-รัสเซียยังต้องอาศัยการร่วมมือที่แข็งแกร่ง สีจิ้นผิง จึงให้คำมั่นที่จะส่งเสริม “สันติภาพโลก” ในสารอวยพรปีใหม่ถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย โดยกล่าวว่า “ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะยังคงยืนหยัดในการปฏิรูปอย่างรอบด้านต่อไป...และส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาโลก” และย้ำว่า "เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่ไม่เคยพบเห็นในรอบศตวรรษ และสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ปั่นป่วน จีนและรัสเซียได้ก้าวเดินเคียงข้างกันมาโดยตลอดบนเส้นทางที่ถูกต้องของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่ตั้งเป้าไปที่บุคคลที่สาม"
5. ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียน่าจะยิ่งแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พิจารณาจากคำกล่าวของสีจิ้นผิงที่กล่าวกับปูตินว่าปี 2024 ที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและรัสเซีย ตามรายงานของซีซีทีวี ซึ่งถือเป็น "ก้าวสำคัญครั้งใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ" และ "หลังจากผ่านช่วงขาขึ้นและขาลงมาสามในสี่ศตวรรษ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียก็มีความเป็นผู้ใหญ่และมั่นคงมากขึ้น" ซึ่งคำกล่าวหลังสะท้อนความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่มีทั้งช่วงที่เป็นมิตรและศัตรู และชาวจีนบางส่วนยังไม่ไว้ใจรัสเซีย แต่สีจิ้นผิงย้ำว่ามัน "มั่นคงมากขึ้น"
6. ในส่วนของปูตินกล่าวเพียงแค่ภาพกว้างๆ ของอนาคตเท่านั้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวสุนทรพจน์ส่งท้ายปีเก่าเมื่อวันอังคารว่าชาวรัสเซียควร "ภูมิใจ" ในสิ่งที่รัสเซียได้ทำตลอดระยะเวลา 25 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศมา โดยกล่าวว่า "ใช่ เรายังต้องตัดสินใจอีกมาก แต่เราสามารถภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำไปแล้วได้อย่างถูกต้อง" ผู้นำเครมลินกล่าวเสริม โดยกล่าวว่า 25 ปีที่ผ่านมาได้ปูทางไปสู่ "การพัฒนาเพิ่มเติม" โดยไม่ได้กล่าวถึงความขัดแย้งในยูเครนที่กินเวลานานเกือบ 3 ปีโดยชัดเจน และเน้นไปที่ความปรารถนาสำหรับปีใหม่ที่จะมาถึงเป็นส่วนใหญ่
7. แต่ส่วนหนึ่งของสุทรพจน์ ปูตินกล่าวว่า รัสเซียสามารถรักษาสถานะ “อิสระ เสรี และเข้มแข็ง” ได้สำเร็จ แม้จะเผชิญกับ “ความท้าทายที่ยากลำบากและยาวนาน” มากมาย โดยต้องขอบคุณความสามัคคีของประชาชน ความศรัทธา และความสามารถที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา พร้อมชื่นชมทหารและเจ้าหน้าที่ที่ยังคงต่อสู้อยู่แนวหน้าของความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยเรียกทหารและเจ้าหน้าที่เหล่านั้นว่า “ฮีโร่” และกล่าวว่า “ปี 2025 ได้รับการประกาศให้เป็นปีแห่งการปกป้องปิตุภูมิแห่งรัสเซีย”
Source - AFP / CCTV / RT
PHOTO - ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ทักทายประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง ในพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการสำหรับหัวหน้าคณะผู้แทนในการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2024 (ภาพถ่ายโดย MAXIM SHIPENKOV / POOL / AFP)
