ข้อมูลเบื้องหลังจีนกับว้า
ระดับนำของกองทัพว้า (UWSA) มีความสัมพันธ์กับจีนมาตั้งแต่พวกเขาร่วมพรรคคอมมิวนิสต์พม่า (CPB) และต่อมาเมื่อแยกออกมาเป็นกองทัพว้าและรัฐว้า พวกเขาก็ยังมีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับจีน เบอร์ทิล ลินทเนอร์ (Bertil Lintner) นักข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านกองกำลังชนกลุ่มน้อยในเมียนมากล่าวว่า รัฐบาลจีนใช้กองกำลัง CPB ในอดีต เช่น UWSA เป็นตัวแทนของจีนในเมียนมา และพยายามให้แน่ใจว่ายาเสพติดที่ผลิตขึ้นมาในเมียนมาจะไม่ถูกลักลอบนำเข้าจีน
ลินทเนอร์ ชี้ว่าเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากมายของยาเสพติดในพื้นที่ว้าได้ลามมายังประเทศจีนด้วย และเป็นที่ทราบกันว่าผู้นำของรัฐว้า คือ เป้าโหย่วเสียงถูกเรียกตัวไปที่คุนหมิง เมืองเอกของมณฑลหยุนหนานหลายครั้ง โดยเขาได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายาเสพติดจะไม่เข้าสู่ประเทศจีน แต่รัฐว้ายังเป็นหมากตัวสำคัญในการต่อรองผลประโยชน์ของจีนกับรัฐบาล-กองทัพเมียนมาด้วย เช่น การก่อสร้างท่อส่งก๊าซจีน-เมียนมา และการสร้างท่าเรือเจาะพยู อันจะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของจีนในมหาสมุทรอินเดีย
ในเดือนเมษายน 2017 จีนช่วยให้ UWSA จัดตั้งพันธมิตร 7 ฝ่ายที่เรียกว่าคณะกรรมการเจรจาและปรึกษาทางการเมืองระดับสหพันธ์ (FPNCC) โดยรัฐบาลจีนมีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการกับ FPNCC ซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐบาลจีนให้เป็นหน่วยงานเจรจาขององค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์ (EAO) ในเมียนมากับรัฐบาลกลางพม่า โดยที่จีนมีส่วนหนุนให้ว้ามีฐานะนำใน FPNCC และจีนยังจัดหาอุปกรณ์ทางทหาร อาวุธ และการฝึกอบรมให้กับ UWSA อีกด้วยจากการรายงานของสำนักข่าว Asia Times
อิทธิพลของจีนนั้นมีสูงมากดังจะเห็นได้จาก FPNCC (หรือนัยหนึ่งคือการนำของกองทัพว้า) ได้เรียกร้องให้จีนกำกับดูแลกระบวนการสันติภาพ ซึ่งรวมถึงการเจรจากับรัฐบาลทั้งหมดด้วย โดยคณะกรรมการ FPNCC ระบุในแถลงการณ์ว่า “การมีส่วนร่วมเชิงบวกของจีนในกระบวนการสันติภาพของเมียนมามีความสำคัญมากขึ้น และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้”
จากรายงานของสถาบัน Stimson ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมาผู้แทนพิเศษของจีนว่าด้วยกิจการเอเชีย คือ ซุนกั๋วเสียง (Sun Guoxiang) ได้เดินทางไปเยือนปางซาง เมืองหลวงของรัฐว้า เมืองหลวงของรัฐว้าด้วยตนเอง ก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนทุกเดือนมกราคม เพื่อมอบคำอวยพรและของขวัญให้แก่กองว้าและผู้นำ และ "พื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองกำลังว้าที่ชายแดนมณฑลหยุนหนาน และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างชาวว้าและจีนทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"
จากการวิเคราะห์ของ เบอร์ทิล ลินทเนอร์ ชี้ว่า ซุนกั๋วเสียง ผู้แทนพิเศษของจีนว่าด้วยกิจการเอเชีย เป็นระดับความสัมพันธ์กับกองทัพว้าและกองทัพชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในระดับชั้นแรกที่นำโดยกระทรวงการต่างประเทศจีน เพราะในทางฉากหน้า ซุนกั๋วเสียง "แสดงการสนับสนุนกระบวนการสันติภาพของพม่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ซุนมีบทบาทเพียงบทบาทเดียวในนโยบายต่างประเทศหลายชั้นของจีน" และ "เป็นเพียงชั้นผิวเผินของนโยบายนั้นเท่านั้น"
ชั้นที่สอง คือ แผนกประสานงานระหว่างประเทศของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์อื่น ๆ และสนับสนุนการเคลื่อนไหวปฏิวัติทั่วโลก ลินเนอร์ ชี้ว่า "อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ตัวแทนของหน่วยงานนี้มักจะปรากฏตัวในการประชุมกับพรรคการเมืองทุกกลุ่ม ตามแหล่งข้อมูลในท้องถิ่นหลายแห่งที่ใกล้ชิดกับกองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต หน่วยงานนี้ยังมีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกลุ่มต่าง ๆ เช่น กองกำลังสหรัฐว้า ... เพื่อรักษาและเสริมสร้างผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ระยะยาวของจีนในพม่า"
ชั้นที่สาม กองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) เป็นผู้จัดหาอาวุธหลากหลายประเภทให้กับผู้รับประโยชน์ เช่น กองทัพสหรัฐว้า อาวุธบางส่วนเหล่านี้ยังถูกแบ่งปันให้กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆ ในพม่าอีกด้วย โดยการขนส่งอาวุธจากจีนไปยังกองทัพสหรัฐว้ามีทั้งปืนกลหนัก ระบบป้องกันภัยทางอากาศพกพา HN-5A (MANPADS) ปืนใหญ่ รถรบหุ้มเกราะ และอุปกรณ์ทางทหารที่ซับซ้อนอื่นๆ และการส่งอาวุธหนักบางประเภทให้ว้าแสดงให้เห็นว่า "แทบจะแน่นอนว่าได้รับการกำกับจากระดับสูงสุดในปักกิ่ง"
อย่างไรก็ตาม ลินทเนอร์ ตั้งข้อสังเกตว่า "แต่กองกำลังป้องกันตนเองของว้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งบางครั้งแบ่งปันอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จีนจัดหาให้ร่วมกับกลุ่มอื่นๆ ทำหน้าที่เป็นไม้แข็งในความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับพม่า (การทูตและคำมั่นสัญญาในการช่วยเหลือและการลงทุนถือเป็นไม้นวม) ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจีนต้องการเห็นการสู้รบตามแนวชายแดนมากขึ้น แต่จีนสามารถแสดงให้เห็นว่าจีน—และเฉพาะจีนเท่านั้น—ที่สามารถช่วยรัฐบาลเมียนมาแก้ปัญหาชาติพันธุ์ภายในได้"
อิทธิพลจีนต่อว้ามองข้ามไม่ได้
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 สำนักข่าว rfa รายงานว่ากองกำลังที่เป็นสมาชิกของ FPNCC พยายามระวังไม่ให้การสู้รบกับกองทัพเมียนมากระทบไปถึงผลประโยชน์และชีวิตของคนจีนในพื้นที่สู้รบ ในขณะที่ SpecialEurasia รายงานว่า "UWSA ยังควบคุมตัวแทนในความขัดแย้งปัจจุบัน (อาจหมายถึง FPNCC) โดยสนับสนุน EAO ที่ส่งเสริมผลประโยชน์ของว้าหรือจีน เครือข่ายที่ซับซ้อนของการพึ่งพาและการอุปถัมภ์นี้ช่วยรักษาเสถียรภาพในพื้นที่ที่ว้าควบคุมบนชายแดนจีน ทำให้ทรัพยากรไหลไปยังปักกิ่ง"
จากการรายงานของ SpecialEurasia ยังพบว่า นอกจาก UWSA แล้ว จีนยังจัดหาเงินทุนและการค้าในระดับต่างๆ ให้กับกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) ของชาวโกก้าง กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) กองทัพรัฐฉานเหนือ (SSPP) และกองทัพอาระกัน (AA) โดยเฉพาะว้ามีดินแดนติดกับจีนและไทย ส่วน AA มีฐานที่มั่นที่เป็นที่ตั้งของท่าเรือเจาะพยู อันป็นท่าเรือยุทธศาสตร์ของจีน
เมื่อเดือนตุลาคม 2024 สื่อเมียนมา คือ Eleven Media เปิดเผยข้อมูลลับ เป็นบันทึกการประชุมลับระหว่าง เติ้งซีจวิน (Deng Xijun) ผู้แทนพิเศษของจีนด้านกิจการเอเชีย กับบรรดาผู้นำพรรคสหรัฐว้า (UWSP) ที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เพื่อควบคุมการรุกคืบของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) หรือกองทัพโกกั้งที่กำลังรบกับกองทัพเมียนมา แต่กำลังทำให้ความรุนแรงขยายวงเกินกว่าที่จีนต้องการ
จีนพยายามควบคุมการขยายตัวของโกกั้งด้วยการตัดน้ำและไฟและควบคุมการเข้าถึงสินค้าจำเป็น แต่เพราะโกกั้งยังค้าขายกับว้าอยุ่ จีนจึงต้องเรียกว้ามาให้ความร่วมมือเพื่อให้การปิดกั้นโกกั้งมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ จีนยังได้กดดันกลุ่มว้าไม่ให้ขายอาวุธและกระสุนให้กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆ รวมถึง MNDAA และ TNLA ด้วย
รายงานการประชุมระบุว่า การที่ MNDAA ของโกกั้งรุกไปถึงเมืองล่าเสี้ยวของกองทัพเมียนมา ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเมียนมาอย่างมาก (หมายถึงการสร้างดุลยภาพระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลังชนกลุ่มน้อย) โดยส่งผลกระทบต่อการค้าข้ามพรมแดนและโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ระหว่างจีนและเมียนมา ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียเตือนผู้นำว้าว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ และชาติตะวันตกแทรกแซงกิจการของเมียนมาต่อไป
หากกลุ่มว้ายังคงสนับสนุน MNDAA แม้จะมีคำสั่งเหล่านี้ รัฐบาลจีนจะระงับการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและการดำรงชีพทั้งหมดแก่ภูมิภาคว้า หยุดการค้าทั้งหมดกับว้า และหยุดความร่วมมือในโครงการขุดเหมือง พัฒนาอุตสาหกรรม และไฟฟ้าพลังน้ำ เรื่องนี้ได้รับการถ่ายทอดโดยทูตพิเศษระหว่างการพบปะกับผู้นำว้าตามที่บันทึกไว้ในเอกสารการประชุม
รายงานการประชุมลับนี้เป็นหลักฐานอย่างชัดเจนว่าจีนใช้งานว้าอย่างไร และมีอิทธิพลแค่ไหนในความเป็นไปของสงครามกลางเมืองในเมียนมา
ทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - ผู้นำกองทัพรัฐว้า (UWSA) เป้าโหย่วเสียง (ซ้าย) และ ซุนกั๋วเสียง ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงต่างประเทศจีน (กลาง) ชมขบวนพาเหรดทางทหารเพื่อรำลึกถึงการหยุดยิงที่ลงนามกับกองทัพเมียนมาร์ในรัฐว้า 30 ปี ที่เมืองปางซาง เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 (Photo by AFP / Ye Aung THU)