สำหรับการหายตัวไปของดาราจีนในไทยแล้วไปโผล่ที่เมียนมานั้น สำนักข่าวเซียวเซียงเฉินเป้า (潇湘晨报) ได้สรุปเหตุการณ์เอาไว้ว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 มกราคม ผู้ใช้เน็ต @失眠爹地 ได้โพสต์ข้อความที่อ้างว่าเป็นเจียเจีย (嘉嘉) แฟนสาวของนักแสดงหวางซิง (王星) หรือ ซิงซิง (星星) หลังจากที่หวางซิงเดินทางไปประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมทีมงานถ่ายทำ เธอก็ขาดการติดต่อกับเขาที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เมื่อเวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 3 มกราคม ตามเวลาปักกิ่ง และได้ขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จนกระทั่งล่าสุด ได้ตัวซิงซิงกลับคืนมาจากเมืองชเวโกะโก ฝั่งตรงข้ามกับเมืองแม่สอด ประเทศไทยแล้วซึ่งเมืองชเวก๊กโกขึ้นชื่อว่าเป็นฐานที่มั่นของธุรกิจจีนเทา
เหตุเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม หวางซิงได้เห็นข้อความของกลุ่มคัดเลือกนักแสดงที่ส่งต่อโดยเพื่อนจากกลุ่มนักแสดงและผู้ประสานงานนักแสดง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม เจียเจีย แฟนสาวของเขาจึงช่วยเขาอัดวิดีโอออดิชั่น และในวันรุ่งขึ้น เจียเจียก็ได้รับแจ้งว่าออดิชั่นผ่าน แต่เมื่อถึงวันที่ 30 ธันวาคม หวางซิงปฏิเสธเพราะเขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลการถ่ายทำและสถานที่ถ่ายทำ แต่ได้รับคำตอบกลับจากเหยียนสือลิ่ว (颜十六) เพื่อนร่วมงานของทีมงานว่าหาคนมาแทนเขาไม่ทันแล้ว
เวลา 16.00 น. ตามเวลาปักกิ่งของวันที่ 3 มกราคม (เวลา 15.00 น. ตามเวลากรุงเทพฯ) หวางซิงบินจากสนามบินผู่ตงที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ตรงไปยังสนามบินสุวรรณภูมิในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในบันทึกการสนทนาที่เจียเจียเผยแพร่ หลังจากหวางซิงมาถึงกรุงเทพมหานคร เขาก็ได้รับแจ้งจาก "เหยียนสือลิ่ว" ผู้ติดต่อของทีมงานให้ไปที่โรงแรมใกล้สถานที่จัดพิธีเปิดโดยตรง จากนั้นจึงขึ้นรถที่นักแสดงจัดเตรียมไว้ เวลาประมาณ 11.34 น. ตามเวลาปักกิ่งของวันนั้น หวางซิงบอกกับเจียเจียว่าเขาเปลี่ยนรถแล้ว “ผมเพิ่งขึ้นรถ รถคันก่อนออกไปแล้ว” เจียเจียถามว่า “อีก 5 นาทีจะถึงพิธีเปิดหรือเปล่า” หวางซิงยืนยันว่าใช่ อย่างไรก็ตาม หลังจาก 11.45 น. เจียเจียโทรหาหวังซิ่งหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีข่าวคราวจากหวังซิ่งอีกเลย
เจียเจียกล่าวว่าทั้งสองคนคบหากันมานานกว่า 3 ปีแล้ว และหวางซิงเป็นชายหนุ่มที่มีวินัยในตนเอง มีแรงจูงใจ สดใส สะอาด และมีอารมณ์มั่นคง “ในช่วงเวลานี้ ฉันทบทวนตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน ฉันไม่ได้คว้าโอกาสนี้ไว้ และใจของฉันก็ไม่แข็งแกร่งพอ... พวกมิจฉาชีพยังจับได้ถึงจิตวิทยาของซิงซิง และทำให้เธอเสียโอกาสมากมายที่จะหลีกเลี่ยงคนพวกนั้น” ต่อมาเจียเจียเผยว่าเธอจะ “บินไปกรุงเทพฯ ในวันที่ 6 มกราคม และไปที่สถานทูตและสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อแจ้งเรื่อง ฉันขอร้องอย่างสุดใจให้ผู้มีอิทธิพลช่วยป่าวประกาศผ่านเสียงของพวกเขา และขอให้ผู้ที่มีทรัพยากร วิธีการ ข้อเสนอแนะ หรือกรณีการช่วยเหลือ (เหยื่อสแกมเมอร์) ที่ประสบความสำเร็จช่วยติดต่อเธอด้วย”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มกราคม มีการพบตัวหวางซิง หรือซิงซิงแล้วที่ฝั่งเมียนมาแล้ว เมื่อเวลา 12.50 น. โดยมีรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงของไทยว่า "ซิงซิง" อยู่ที่ชเวโกะโก โดยอยู่กับ พันตรี หม่องวิน ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงกับ พันเอก หม่องชิดตู ซึ่ง พันตรี หม่องวิน บอกว่า ทาง ตม. ทั้งเมียนมาและไทย ได้ประสานงานกันเรียบร้อยแล้ว โดยในวันนี้ไม่เกินบ่าย 2 โมง จะปล่อยตัวนายซิงซิงข้ามกลับมาฝั่งไทย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ซิงซิง ให้การกับ พันตรี หม่องวิน ว่า ข้ามมาเยี่ยมญาติที่ชเวโกะโก แต่จากการรายงานของแฟนสาวของเขาและสื่อจีนกลับไปในทางตรงกันข้าม เพราะเห็นได้ชัดว่าเขาถูกชักชวนไปและหายตัวไปจากในไทยแล้วต่อมาไปโผล่ที่ชเวโกะโก ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจสแหมเมอร์ของพวกจีนเทา ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพันเอก หม่องชิดตู หัวหน้ากองกำลัง Border Guard Forces (BGF)
จากการรายงานของสำนักข่าวเซียวเซียงเฉินเป้า (潇湘晨报) ในเวยปั๋วระบุว่า 'สวีต้าจิ่ว' (徐大久) นักแสดงชายชาวจีนได้เปิดเผยในคลิปวิดิโอที่เผยแพร่เวยปั๋วของเขาว่า เคยมีประสบการณ์คล้ายกัน และโดยบอกว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นปลอดภัยมาก แต่ "ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อทำงาน โดยเฉพาะเพื่อถ่ายทำ อย่ามาเลย มันเป็นเรื่องหลอกหลวงทั้งหมด ทั้งหมดจะไปลงเอยที่แม่สอด (หรือที่จริงคือชเวโกะโก)"
เขาเผยว่าเหตุผลในการจองตั๋วไปสนามบินกรุงเทพฯ คือเพื่อให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัย แต่หลังจากนั้นพวกเขาจะถูกนำตัวออกไปด้วยรถยนต์ "มันไม่ปลอดภัยหลังจากขึ้นรถแล้ว เขาจะจองตั๋วกลับให้คุณ... แต่ตั๋วที่แพงที่สุดสามารถขอคืนได้ฟรีโดยไม่คิดค่าธรรมเนียมใดๆ ตั๋วของผมถูกแคนเซิล (หรือคืนตั๋วไป) เมื่อผมผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว"
สวีต้าจิ่ว กล่าวว่าเขาไม่ได้ขึ้นรถหลังจากมาถึงสนามบินกรุงเทพฯ และเอาเงินมัดจำ 1,200 หยวนจากทีมงานคนอื่นแล้ววิ่งหนีไป จากนั้นจึงบันทึกวิดีโอที่สนามบิน
ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น ชาวเน็ตถามว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าจะถูกพาไปที่อำเภอแม่สอดซึ่งอยู่ห่างออกไป 5 ชั่วโมงโดยรถยนต์โดยที่ไม่ได้ขึ้นรถ สวีต้าจิ่วกล่าวว่า "ก่อนออกเดินทาง ผมได้ปรึกษากับเพื่อนชาวไทยของผมและโทรไปที่แผนกต้อนรับเพื่อสอบถามโรงแรมที่จองไว้ ชื่อของเราอยู่ในรายชื่อจริง แต่ว่ามันอยู่ห่างออกไป 5 ชั่วโมง ผมจึงลงจากเครื่องบินและหาโรงแรมที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อพักผ่อน แต่ผมไม่ได้ไป โชคดีที่ผมไม่ได้ไป และทีมงานก็คอยโน้มน้าวให้ผมพักผ่อนระหว่างทาง"
เขาบอกว่า "หากต้องการไปประเทศไทย คุณต้องแสดงข้อมูลโรงแรมและตั๋วขากลับ (ปรากฏว่า) โรงแรมที่คุณจองไว้อยู่ห่างจากสนามบิน 5 ชั่วโมง ใกล้กับเมียนมา" ซึ่งหมายความว่ามันอยู่ใกล้กับถิ่นของพวกจีนเทาอย่างมากนั่นเอง และเรื่องความเลวร้ายของแม่สอดและชเวโกะโกเป็นที่เลื่องลือในหมู่คนจีนอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนจีนมาเที่ยวไทยน้อยลงในช่วงที่เปิดประเทศใหม่ๆ
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - ภาพจากคลิปของ สวีต้าจิ่ว @徐大久