เงื่อนงำการสังหารฝ่ายค้านกัมพูชากลางกรุงเทพฯ เกี่ยวอะไรกับเกาะกูดและตระกูลฮุน

เงื่อนงำการสังหารฝ่ายค้านกัมพูชากลางกรุงเทพฯ เกี่ยวอะไรกับเกาะกูดและตระกูลฮุน

ข้อมูลเบื้องหลัง 

  • ลิม กึมยา (លឹម គឹមយ៉ា หรือ Lim Kimya) เป็นนักการเมืองพรรคสงเคราะห์ชาติ  (CNRP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา เป็นชาวกัมพูชาโดยกำเนิด ปัจจุบันถือสัญชาติฝรั่งเศส ลิมเป็นสมาชิกพรรคสังเคราะห์ชาติกัมพูชาโดยได้รับเลือกเป็นสมาชิกรัฐสภาครั้งแรกในปี 2013 และดำรงตำแหน่งจนถึงปี 2018 
  • เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2025 ลิมถูกสังหารในกรุงเทพฯ โดยคนร้ายใช้ยิงปืนเขาที่บริเวณใกล้วัดบวรนิเวศวิหาร โดยที่ลิมเพิ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ โดบรถบัสจากเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา พร้อมกับภรรยาและลุงของเขา 
  • จากการรายงานของสำนักข่าว rfa พากย์ภาษาเขมรระบุว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายค้านกัมพูชาถูกยิงเสียชีวิตบนแผ่นดินไทย ขณะที่ในอดีตมีเพียงกรณีการโจมตีและการบาดเจ็บของนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้าน รวมถึงการจับกุมและส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชาจากประเทศไทยมายังกัมพูชาเท่านั้น"
  • rfa  ยังรายงานว่า ลิม กึมยา ใช้ Facebook วิจารณ์รัฐบาลฮุน เซน (และฮุน มาเนต) เกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยมาโดยตลอด เรื่องของเกาะกูดก็เช่นกัน สี่วันก่อนการลอบสังหาร ลิม กึมยา เขียนบนหน้า Facebook ของเขาเมื่อวันที่ 3 มกราคม ว่าเกิดไฟไหม้ที่พระฉายาลักษณ์ของกษัตริย์กัมพูชา ซึ่งจัดโดย ฮุน มานี บุตรชายคนเล็กของ ฮุน เซน 
  • กรณีนี้ ลิม กึมยา กล่าวว่างานเฉลิมฉลองที่กัมพูชาจัดขึ้นจนกระทั่งพระฉายาลักษณ์ของกษัตริย์เกิดไฟไหม้นั้น ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชน เขากล่าวว่าประชาชนกัมพูชาเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพสิทธิมนุษยชนและให้ความยุติธรรมเพียงพอแล้ว และไม่จำเป็นต้องใช้เงินเหมือนงานที่จัดโดย ฮุน มานี โน รัฐบาลไม่สามารถทำตามที่ประชาชนคาดหวังได้


โปรดทราบว่า ลิม กึมยา นักการเมืองพรรคสงเคราะห์ชาติฝ่ายค้านกัมพูชา ที่ถูกยิงเสียชีวิตแถววัดบวรฯ เมื่อวานนี้ เป็นคนโจมตี "รัฐบาลตระกูลฮุน" เรื่องเกาะกูดอย่างหนักในระยะหลัง 

เช่นเดียวกับสมาชิกพรรคนี้ที่นำโดย สม รังสี ที่หยิบประเด็นเรื่อง "รัฐบาลตระกูลฮุน" จะยกเกาะกูดซึ่งเขมรเรียกเกาะกจ (កោះគជ់) ให้กับไทย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ผ่าน MOU44

ในเฟซบุ๊คของ ลิม กึมยา ที่เขียนไว้ไม่กี่วันก่อนตายโจมตีรัฐบาลและเอ่ยถึงทักษิณในโพสต์เรื่องเกาะกูดเอาไว้

ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ลิม กึมยา โพสต์ไว้ว่า 

"ในช่วงต้นปี 2551 ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 3 (ในกัมพูชา) กองทัพไทยได้ประจำการอยู่รอบปราสาทพระวิหาร จู่ๆ ก็มีประเด็นเรื่องเกาะกูดเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ประชาชนประหลาดใจที่ไทยเข้ายึดเกาะนี้ แต่รัฐบาลกัมพูชาไม่มีท่าทีตอบสนองที่ชัดเจนเพื่อยืนยัน (ความเป็นจเจ้าของ) เกาะนี้ และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต อ้างว่า “เกาะนี้เสียไปที่ไหน! ถ้าเจรจากัน!” แต่ดูเหมือนจะไม่ยืนยันว่าเกาะนี้เป็นเกาะของเขมร ความจริงแล้ว ทางการและประชาชนไทยเข้ามาตั้งรกรากบนเกาะนี้หลังจากที่กัมพูชาและไทยลงนามใน “บันทึกความเข้าใจ (2001) (MOU44)” เกาะนี้ไม่ได้เสียไป แต่ประเทศไทยเข้ามาแทน"

ต่อมาวันที่ 30 พฤศจิกายน ลิม กึมยา โพสต์เอาไว้อีกว่า

"ประชาชนและนักการเมืองไทยเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก “MOU44” ที่ทับซ้อนกับกัมพูชา เพราะกลัวว่า “กัมพูชาจะนำคดีเกาะกจ (เกาะกูด) ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ” และพวกเขากล่าวหาว่าบันทึกข้อตกลงดังกล่าวทำขึ้นอย่างผิดกฎหมายและไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาไทย หากพวกเขาทั้งหมดเข้าใจแบบนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาอ้างว่าเกาะกูดเป็นของไทยตั้งแต่แรก หากเป็นเช่นนั้น ทำไมรัฐบาลไทยที่ต่อต้านทักษิณมาเกือบ 20 ปีจึงไม่ดำเนินคดีทักษิณในข้อหากบฏ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยกล่าวว่า “MOU44” ต้องได้รับการเคารพ มิฉะนั้นจะเกิดสงครามขึ้น ในความเห็นของเรา นี่คือกลยุทธ์ของไทยในการควบคุมเกาะนี้เพื่อไม่ให้ชาวกัมพูชาตะโกนโวยวาย ขณะเดียวกัน ฮุนเซนยังเรียกผู้ที่หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาและปกป้องเกาะกูดของกัมพูชาว่าเป็นกลุ่มต่อต้านหัวรุนแรง และเตือนว่าจะมีการตรากฎหมายก่อการร้ายเพื่อรวมบุคคลเหล่านี้ไว้ในรายชื่อผู้ก่อการร้าย ส่วนสภานิติบัญญัติแห่งชาติของเขมรก็ดูเหมือนจะไม่ได้อนุมัติอะไรเลย แม้ว่า "MOU44" จะถูกลบทิ้งไปแล้ว ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศก็ยังสามารถรับคำร้องของกัมพูชาได้ หากกัมพูชายื่นฟ้องคดีเช่นเดียวกับคดีที่ปราสาทพระวิหารในปี 2505"

ทัศนะของ ลิม กึมยา ดูจะจะเป็น "พวกสุดโต่ง" จริงๆ เพราะถึงขั้นเชื่อว่าเกาะกูดเป็นของกัมพูชาและไทยเพิ่งจะเข้ามาครอบครอง ทั้งๆ ที่ไทยครอบครองมาแต่ยุคก่อนสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส 1907 และยังมีการออกโฉนดชัดเจนมาตั้งแต่สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้มีแค่ในหัวของ ลิม กึมยา แต่ดูเหมือนจะมีอยู่ในตัวของสมาชิกพรรคสงเคราะห์ชาติหลายๆ คน 

ควงามเท็จที่มาจากพรรคฝ้ายค้านกัมพูชานี้ ไม่เพียงทำให้รัฐบาลกัมพูชาหงุดหงิด แต่ยังทำให้คนไทยกราดเกรี้ยว เพราะเป็นการตู่เอาดื้อๆ โดยไม่มีหลักฐานอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่ต้องการจะเอาเรื่องนี้มาเป็นธงนำในการกล่าวหาว่ารัฐบาลขายชาติ

พรรคนี้และคนพรรคนี้มักเล่นประเด็นว่า "รัฐบาลตระกูลฮุน" ขายชาติ และเชื่อว่าเกาะกูดเป็นของกัมพูชา พร้อมกดดันให้รัฐบาลฟ้องศาลโลกให้เอาเกาะกูดมาเป็นของคนเขมร 
การโหมประเด็นนี้ทำให้ ฮุน เซน ไม่พอใจมาก เรียกฝ่ายค้านว่าเป็น "พวกสุดโต่ง" และ "พวกก่อการร้าย"

ที่ฮุน เซน หมดความอดทนกับพวกนี้ก็เพราะ ถ้าไม่ยอมฟ้องศาลโลกเอาเกาะกูดคืนมาจากไทย พวกฝ่ายค้านก็จะเรียกเขาและลูกว่า "คนขายชาติ" แต่ถ้า ฮุน เซน ทำแบบนั้น ดีล MOU44 กับรัฐบาลไทยจะพังทันที แถมยังอาจทำให้รัฐบาลไทยพังไปด้วย ดีไม่ดีอาจเกิดสงครามระหว่างสองประเทศด้วยซ้ำ

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 พรรคสงเคราะห์ชาติ โดยเฉพาะพวกที่ลี้ภัยในต่างแดนโจมตีรัฐบาลตระกูลฮุนว่าขายชาติ เพาะยกเกาะกูดให้ไทย มีการรวมตัวการเสวนาและเคลื่อนไหวเพื่อ "ทวงคืนเกาะกูด" ซึ่งแม้จะโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของตน แต่การที่พวกพรรคสงเคราะห์ชาติและฝ่ายค้านกัมพูชาทำแบบนี้ เท่ากับละเมิดอธิปไตยของไทย

โปรดทราบว่า เวลาพวกฝ่ายค้านกัมพูชาหนีตายจากการไล่ล่าของตระกูลฮุน ก็มักจะมาลี้ภัยในไทย แต่เพราะพฤติกรรม "กินบนเรือน ขี้บนหลังคา" แบนี้จึงยากที่ไทยจะเลี้ยงไว้ได้ และอีกสาเหตุเพราะเมืองไทยไม่ปลอดภัยอีก เนื่องจาก "ฝั่งโน้น" ทำการ "ส่งคนมาเก็บในฝั่งไทย" 

การทวงคืนเกาะกูดนั้นเป็นเรื่องที่แปลกที่สุด เพราะฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไทยบอกว่ารัฐบาลตระกูลชินวัตรจะยกเกาะกูดให้กัมพูชา ส่วนฝ่ายค้านกัมพูชาบอกว่ารัฐบาลตระกูลฮุนจะยกเกาะกูดให้ไทย 

วันเดียวกับที่ ลิม กุมยาถูกยิงนั้น ฮุน เซน เรียกร้องให้มีกฎหมายใหม่เพื่อตราหน้าผู้ที่พยายามล้มล้างรัฐบาลของลูกชายของเขาว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย"

และได้ยินข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันมาว่า หนึ่งวันก่อนหน้านั้น ฮุน มาเนต เดินทางมายังไทยเป็นการส่วนตัว

ต่อให้จับคนร้ายได้และให้การว่า "เป็นเรื่องส่วนตัว" แต่ยากที่คนในวงกการเมืองจะเชื่อ และเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องอีรุงตุงนังทางการเมืองระหว่างประเทศ 

เพราะลิมเป็นฝ่ายค้านกัมพูชา ลิมถือสัญชาติฝรั่งเศส (อาจมีการแทรกแซงจากทางยุโรป) ลิมต่อต้านรัฐบาลตระกูลฮุน ลิมไม่ยอมยกเกาะกูดให้ไทย ส่วนคนไทยก็ไม่ยอมยกเกาะกูดให้เขมร ทว่า รัฐบาลตระกูลฮุนและรัฐบาลตระกูลชินวัตรดูเหมือนจะ "เคลียร์กันได้" โดยที่ฝ่ายค้านของแต่ละฝ่ายไม่ยอมให้เคลียร์ 

ไม่ว่าจะอย่างไร นี่เป็นการกระทำที่ทำร้ายเมืองไทยอย่างให้อภัยไม่ได้ เพราะเป็นการลอบสังหารกลางเมือง ในย่านนักท่องเที่ยวหลุดพล่าน และใกล้กับพระอารามหลวงของแผ่นดิน 

พูดง่ายๆ คือ ตบหน้ารัฐบาลไทยเข้าจังๆ ถ้ายังทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว และรัฐบาลคิดว่าเรื่องนี้อาจเป็นแค่เรื่องส่วนตัวของคนเขมรด้วยกัน

แม้แต่นักวิจารณ์การเมือง กึม ซค ( គឹម សុខ) กล่าวในรายงานจากสำนักข่าว rfa ภาษาเขมร โดยแสดงความเชื่อว่าการลอบสังหารลิม กึมยา อาจเกี่ยวข้องกับการเมืองกัมพูชา มากกว่าความขัดแย้งส่วนตัว เขากล่าวว่า ลิม กึมยา วิพากษ์วิจารณ์ฮุน เซน ฮุน มาเนต และฮุน มานี ว่าทำให้ครอบครัวนี้ไม่พอใจ เขากล่าวว่าการยิงลิม กึมยาในใจกลางกรุงเทพฯ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าฆาตกรเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ 

ครับ ถ้าไม่มีอำนาจใครจะกล้าฆ่าคนในสถานที่แบบนั้น!

บทความโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - ในภาพถ่ายเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2017 นี้ ลิม กึมยา สมาชิกรัฐสภาจากพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีในกรุงพนมเปญ ส.ส. ของกัมพูชาหลายสิบคนหลบหนีไปลี้ภัย และนายกรัฐมนตรีได้เตือนว่าพวกเขาจะต้องพบกับ "นรก" แต่บรรดานักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชาจำนวนหนึ่งยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อหน้าคำตัดสินของศาลที่เกือบจะแน่นอนว่าจะยุบพรรคของพวกเขาอย่างถาวร หนึ่งในบรรดานักการเมืองที่ยังคงไม่ยอมแพ้คือ ลิม กึมยา วัย 65 ปี ซึ่งยังคงแสดงตัวเพื่อทำงานอย่างหนักเพื่ออภิปรายงบประมาณปี 2018 ของรัฐบาล (Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP)

TAGS: #เกาะกูด #LimKimya