กรณีการหายตัวไปของหวางซิง หรือ "ซิงซิง" ทำให้เกิดกระแสวาดกลัวการท่องเที่ยวในไทยนัหขึ้นเรื่อยๆ ในเวยปั๋ว (Weibo) ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียยอดนิยมในจีนมีการพูดถึงความปลอดภัยในไทยกันอย่างมากมาย รวมถึงการเปิดเผยเรื่องการหายตัวไปของคนจีนที่เดินทางมาไทยอีกจำนวนหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น สมาชิกเวยปั๋วที่ชื่อ 花叔 แสดงความเห็นว่า "มีคนแบบซิงซิงอีก 174 คนทั่วประเทศติดอยู่ในเมียนมาและกำลังแสวงหาความช่วยเหลือ
"เมื่อวานนี้ฉันเห็นชาวเน็ตคนหนึ่งตอบอย่างเก่งมาก ว่าหากการจะพบหวางซิงหลังจากโทรแจ้งตำรวจเป็นเรื่องยาก ความกลัวต่อประเทศไทยของฉันจะอยู่ที่ 100% หากสามารถพบหวางซิงได้ทันทีหลังจากรัฐบาลไทยเข้าแทรกแซง ดัชนีความกลัวต่อประเทศไทยของฉันจะอยู่ที่ 10000000%
คำกล่าวนี้ถูกต้องตามหลักตรรกะจริงๆ"
โพสต์นี้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นนับร้อยคน เช่นท็อปเมนต์รายหนึ่งบอกว่า "ฉันเพิ่งยกเลิกการเดินทางไปประเทศไทย"
ผู้ใช้เวยปั๋วที่ชื่อ 无边桃炎 แสดงความเห็นว่า "ฉันอ่านคนที่เขียนบอกว่า "ประเทศไทยกลายเป็นแพะรับบาป"? "ประเทศไทยถูกละเมิด"? "คนที่ถูกหลอกก็เต็มใจทั้งนั้น", "คนจีนหลอกคนจีนทั้งนั้น" ฮ่าๆ ตลกดีจริงๆ
"ทำไมคนจีนถึงหลอกคนจีนแล้วหลอกให้ไทยแล้วขายให้เมียนมา อะไรนะ คุณคิดว่าการหลอกคนจีนมันไม่ท้าทายเกินไปเหรอ
นอกจากนี้ ฉันยังโพสต์ Weibo เมื่อวันก่อนเพื่อขอให้ฝ่ายไทยอย่าแค่ทำความสะอาดความยุ่งเหยิง แต่ให้ดูแลต้นตอด้วย ไม่งั้นใครจะกล้าไปที่นั่น นี่เป็นเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือเป็นใครก็ตาม คุณยังต้องดูแลความปลอดภัยส่วนตัวของคุณอยู่ดี
เธอยังบอกว่า "คนไทยจะจัดการมันอย่างไร ไม่ใช่เรื่องของฉันหรือของใคร ตามข้อมูลระบุว่ามีชาวจีน 70,000 รายถูกขายจากประเทศไทยไปยังเมียนมาทุกปี จะเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้หรือไม่ คุณรักแผ่นดินไทยหรือคุณรักรัฐบาลไทยที่ไร้ความสามารถกันแน่"
สำหรับกรณีคนจีนที่เดนทางมาไทยแล้วหายตัวไปนั้นยังมีเพิ่มเติมอีก โดยสำนักข่าวหงซิง (红星新闻) เปิดเผยว่า นายแบบหยางเจ๋อฉี (杨泽琪) เดินทางมาถ่ายทำที่ไทยแล้วขาดการติดต่อไปกว่า 10 วันแล้ว ญาติจะเดินทางไปไทยเพื่อแจ้งความกับตำรวจ และสถานกงสุลใหญ่เชียงใหม่ โดยตำรวจจะเร่งดำเนินการสอบสวนหลังจากแจ้งความ
กรณีนายแบบหยางเจ๋อชี่ วัย 20 ปีที่หายตัวไป ญาติได้ขอความช่วยเหลือผ่านเวยปั๋ว โซเชียลมีเดียของจีน โดยระบุว่าหยางเจ๋อฉีขาดการติดต่อที่ชายแดนไทย-เมียนมาร์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2024 ซึ่งคล้ายกับประสบการณ์ที่นักแสดงหวางซิง หรือ "ซิงซิง" เคยประสบเมื่อขาดการติดต่อหลังจากเดินทางมาไทยแลัวไปพบตัวที่เมียนมา
โดยลูกพี่ลูกน้องของหยางเจ๋อฉี บอกกับนักข่าวว่าพ่อของหยางเจ๋อชี่ก็จะเดินทางไปไทยเพื่อแจ้งความกับตำรวจเช่นกัน เมื่อวันที่ 9 มกราคม ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวหงซิง ได้รับข้อมูลจากสถานกงสุลใหญ่จีนในเชียงใหม่ว่าสมาชิกในครอบครัวควรเดินทางไปประเทศไทยเพื่อแจ้งความกับตำรวจในเวลาที่เหมาะสม และเก็บหลักฐานตำแหน่งที่เกี่ยวข้องไว้เมื่อแจ้งความกับตำรวจ เพื่อพิสูจน์ว่าบุคคลที่สูญหายนั้นขาดการติดต่อหลังจากเข้ามาในประเทศไทย หลังจากที่ตำรวจท้องถิ่นในประเทศไทยรับแจ้งความแล้ว สถานกงสุลใหญ่จะติดตามคดีทันทีและเรียกร้องให้ตำรวจไทยดำเนินการสืบสวนตามกฎหมาย
ขณะเดียวกันเพจซื่อเมี่ยน (世面) ในเวยปั๋วเปิดเผยว่า มีหญิงสาวชาวจีนวัย 21 ปี ขาดการติดต่อ หลังไปเที่ยวไทยกับเพื่อนในโลกออนไลน์ เผยแม่เคยบอกไม่ให้ไปเมียนมา
โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคม ชายชาวจีนรายหนึ่งได้ไปยื่นคำร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย เพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาลูกสาว ชายคนดังกล่าวเปิดเผยว่า ลูกสาวของเขาขาดการติดต่อเมื่อวันที่ 6 มกราคม หลังจากเดินทางมาไทย และกังวลว่าลูกสาวจะประสบชะตากรรมเดียวกับหวางซิง หรือ "ซิงซิง" นักแสดงชาวจีน เป็นที่เข้าใจกันว่าลูกสาวของชายคนดังกล่าวอายุ 21 ปี เธอเดินทางมาไทยกับเพื่อนที่รู้จักในโลกออนไลน์ไม่ถึงเดือน และพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
เธอบอกแม่หลังจากเดินทางมาถึงเท่านั้น แม่บอกเด็กสาวว่าอย่าไปเมียนมา และเด็กสาวตอบว่า “หนูไม่ได้โง่ หนูไม่กล้าไปหรอก” เด็กสาวยังได้บอกที่อยู่ของเธอให้แม่ทราบด้วย หลังจากเวลา 16.00 น. ของวันที่ 6 มีนาคม เด็กสาวไม่ได้ติดต่อแม่อีกเลย ตำรวจกำลังติดตามหาตัวเด็กสาวรายนี้ต่อไป
ด้านสำนักข่าวจงกั๋ว ซินเเหวิน โจวคาน (中国新闻周刊) รายงานว่านักศึกษาวิทยาลัยหูหนานสูญเสียการติดต่อหลังจากไปประเทศไทย สมาชิกในครอบครัวสงสัยว่าเขาถูกหลอกให้เข้าร่วมองค์กรฉ้อโกงในต่างประเทศ โดยข่าวนี้ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ตจำนวนมาก
นักศึกษารายนี้ชื่อว่า เซียวจวิน (小军 เป็นนามแฝง) เกิดเมื่อปี 2003 และเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหูหนาน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2024 คุณแม่ของเขา คือคุณเฉา ได้รับข้อความจากเซียวจวินโดยกะทันหัน โดยบอกว่าเขาจะไปทำงานที่กว่างโจว และขอให้ครอบครัวช่วยดำเนินการตามขั้นตอนการเลื่อนการสอบและลาพักร้อน
คุณเฉาผู้เป็นแม่ยอกว่า “เขายังไม่ได้สอบปลายภาค และถึงแม้เขาต้องการทำงาน เขาก็ควรไปในช่วงวันหยุด ในเวลานั้น โทรศัพท์มือถือของลูกถูกปิด และเขาไม่ได้ตอบกลับ WeChat เรารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ และไปที่โรงเรียนเพื่อตามหาเขา”
คุณเฉาได้ขอภาพวิดีโอสาธารณะที่เกี่ยวข้องออกมา และพบว่าเมื่อเวลา 13.45 น. ของวันที่ 25 ธันวาคม 2024 เสี่ยวจวินออกจากโรงเรียนด้วยรถยนต์พร้อมกับสะพายกระเป๋านักเรียนไว้ด้านหลัง และไม่ได้กลับมาอีกเลย “ฉันโทรหาตำรวจ และพบว่าเขามีบันทึกการออกนอกโรงเรียนเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2024 โดยบินจากสนามบินกว่างโจวไป่หยุนไปยังกรุงเทพฯ ประเทศไทย จากนั้นเขาก็ไม่ได้เข้าโรงเรียนอีกเลย”
นางสาวเฉาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเสี่ยวจวินเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัว ผลการเรียนของเขาค่อนข้างดี และเขากำลังเตรียมตัวสอบเข้าบัณฑิตศึกษา คุณเฉาตัดสินจากสัญญาณต่างๆ ว่าเสี่ยวจุนน่าจะถูกหลอกให้เข้าร่วมองค์กรฉ้อโกงในต่างประเทศ ดังนั้นเธอจึงไปที่สถานีตำรวจท้องถิ่นของโรงเรียนเพื่อแจ้งความ แต่คดีไม่คืบหน้า
ตามความทรงจำของนางเฉา เสี่ยวจุนโทรหาครอบครัวของเขาสองครั้งหลังเกิดเหตุ โดยใช้เสียง WeChat ทั้งสองครั้ง แต่ไม่มีใครรับสายทุกครั้งที่เขาโทรกลับ "ในตอนเย็นของวันที่ 31 ธันวาคม 2024 ฉันกำลังแจ้งความที่สถานีตำรวจ และเขาโทรหาฉันใน WeChat และเรียกฉันว่า 'แม่' และเสียงของเขาสั่นอย่างเห็นได้ชัด เขากล่าวว่าเขาพูดได้แค่ว่าเขาอยู่ที่กว่างโจว ฉันถามคุณว่าทำไมลูกถึงไปกว่างโจว ลูกยังต้องเรียนหนังสืออีกหรือ แต่เขาไม่ได้บอกอะไร"
คุณเฉาบอกกับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเซี่ยนไต้ไคว่เป้า (现代快报) ว่าเสี่ยวจวินเตือนเธอให้สื่อสารด้วยสำเนียงบ้านเกิดของเธอและอย่าพูดมากเกินไป การสนทนาครั้งสุดท้ายระหว่างแม่และลูกชายคือวันที่ 5 มกราคม 2025 "เนื่องจากวันถัดมา (6 มกราคม 2025) เป็นวันเกิดของยายของเขา เขาจึงกล่าวอวยพรวันเกิดยายของเขา ฉันถามเขาว่าเขาทำอะไรอยู่ และเขาก็บอกว่าเขาอยู่ที่ทำงาน"
คุณเฉาเล่าว่าเธอถามเสี่ยวจุนว่าเขาทำงานที่ไหนและไปหาเขา แต่เสียง WeChat ถูกวางสายไป ตามคำบอกเล่าของนางสาวเฉา สถานที่ตั้ง QQIP ของเสี่ยวจุนในปัจจุบันแสดงอยู่ในเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา
Photo - นายแบบหยางเจ๋อชี่ (杨泽琪) เดินทางมาถ่ายทำที่ไทยแล้วขาดการติดต่อไปกว่า 10 วันแล้ว