อีลอน มัสก์ ผู้เป็นเสมือนมือขวาของโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มโจมตีรัฐราชการสหรัฐฯ อย่างรุนแรง พร้อมๆ กับการยกเลิกหน่วยงานที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง จนเกิดความกังวลเกี่ยวกับอำนาจที่ไม่เคยมีมาก่อนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
มัสก์ มหาเศรษฐีชาวแอฟริกาใต้รายนี้เข้าควบคุมระบบการจ่ายเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งบริหารจัดการเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ เขาประกาศยุบหน่วยงานด้านมนุษยธรรม USAID และยังช่วยขับไล่เจ้าหน้าที่ระดับสูงออกไปจากระบบราชการของประเทศ
มัสก์ เป็นชายที่ชอบโจมตีข้าราชการที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาโดยตลอด ตอนนี้เขามีอำจาจมหาศาลโดยมีกระบวนการตรวจสอบเขาได้เพียงเล็กน้อย ขณะที่เขาผลักดันให้ทรัมป์ลดขนาดรัฐบาลสหรัฐฯ ลง
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่นสหรัญฯ ทรัมป์พยายามลดความสำคัญของประเด็นนี้ลง เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ที่ห้องโอวัลออฟฟิศที่ทำเนียบขาว โดยเขาตอบว่า "อีลอนทำไม่ได้และจะไม่ทำอะไรเลยหากไม่ได้รับอนุมัติจากเรา"
"เราจะให้การอนุมัติเขาเมื่อเหมาะสม หากไม่เหมาะสม เราจะไม่ทำ แต่เขารายงานเข้ามา" ทรัมป์ยืนกราน “มันเป็นสิ่งที่เขารู้สึกอย่างแรงกล้าและผมประทับใจ”
อำนาจของมัสก์ดูเหมือนจะไร้ขอบเขต นำไปสู่การกล่าวหาจากพรรคเดโมแครตว่าทั้งเขาและทรัมป์ ทำการช่วงชิงอำนาจมาอยู่ในมือตนโดยขัดต่อรัฐธรรมนูญ
จนถึงขณะนี้ มัสก์ยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นทั้งพนักงานของรัฐบาลกลางและเจ้าหน้าที่ของรัฐ แม้ว่าสื่อของสหรัฐฯ จะรายงานเมื่อวันจันทร์ว่าตอนนี้เขาลงทะเบียนเป็น “พนักงานพิเศษของรัฐบาล” แล้วก็ตาม
นักวิจารณ์ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่ว่ามัสก์เป็นผู้บริจาคเงินรายใหญ่ที่สุดให้กับแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งที่ชนะของทรัมป์ เป็นจำนวนเงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัทของเขายังมีสัญญากับรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่ามหาศาลอีกด้วย
เมื่อ'DOGE kids'มาแทนที่
และในขณะที่สุนัขการ์ตูนน่ารักประดับเว็บไซต์ของ "Department of Government Efficiency" (DOGE) ของมัสก์ในตอนแรก แต่ต่อมามีการแทนที่ด้วยสัญลักษณ์ดอลลาร์ในวงกลมสีทองซึ่งเน้นย้ำถึงสิ่งที่จะต้องการจะเน้นหนัก
ทีมงานคนหนุ่มส่าวของเขาที่เรียกตัวเองว่า "Doge Kids" ได้ยึดครองระบบการจ่ายเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้อย่างน่าทึ่ง และเข้ารับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล
คนเหล่านี้กดดันให้พนักงานของรัฐบาลกลางยอมรับเงินชดเชยเลิกจ้างและลาออก โดยส่งอีเมลที่คล้ายกับข้อความที่ส่งถึงพนักงานทวิตเตอร์ตอนที่มัสก์เข้าควบคุมและเปลี่ยนชื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์ X ในภายหลัง
มัสก์ประกาศด้วยตัวเองระหว่างการแชทสดบน X ว่าหน่วยงานด้านมนุษยธรรมขนาดใหญ่ของรัฐบาล นั่นคือ USAID จะ "ปิดตัวลง" และประณามว่าเป็น "องค์กรอาชญากรรม"
สไตล์การไม่ยอมประนีประนอมของพวกเขาทำให้หลายคนจับตามอง
เกิดการเผชิญหน้าอย่างดุเดือดเมื่อผู้ช่วยของมัสก์ขอเข้าไปในห้องนิรภัยที่ USAID ซึ่งใช้จัดเก็บข้อมูลลับ
มีสถานการณ์ที่คล้ายกันเมื่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังที่ทำงานมาอย่างโชกโชน กลับถูกพักงาน หลังจากปฏิเสธไม่ให้ผู้ช่วยของมัสก์เข้าถึงระบบการทำงานได้
และหัวหน้าสำนักงานการบินแห่งสหรัฐฯ ลาออกในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง หลังจากมัสก์วิจารณ์การกำกับดูแลการยิงจรวดของหน่วยงาน ไม่กี่วันต่อมา ทรัมป์ต้องรีบแต่งตั้งหัวหน้าคนใหม่หลังจากเครื่องบินโดยสารตกในกรุงวอชิงตัน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต
กับการชูมือของมัสก์ในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ ซึ่งเหมือนกับการแสดงอกของพวกฟาสซิสต์ ยิ่งทำให้กรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับเขายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
เหมือนกับ'เสือในสวนสัตว์เลี้ยง'
ทรัมป์ยืนกรานเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ว่า "หากมีความขัดแย้ง เราจะไม่ปล่อยให้เขา (มัสก์) เข้าใกล้" แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรดาผู้วิจารณ์ในตัวมัสก์สงบลง
พรรคเดโมแครตซึ่งนิ่งเงียบมาโดยตลอดในช่วงสองสัปดาห์แรกที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง ซึ่งสร้างความตกตะลึงและสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนจำนวนมาก เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการเคลื่อนไหวล่าสุดของมัสก์
"ไม่มีใครเลือกอีลอน มัสก์เข้ามา" วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วาร์เรนกล่าว
สมาชิกพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการวิธีการและมาตรการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กำลังจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือในประเด็นนี้
พวกเขาวิพากษ์วิจารณ์ DOGE อย่างรุนแรงว่าเป็นความพยายามที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญในการใช้พลังอำนาจของประธานาธิบดีเหนืองบประมาณที่รัฐสภาอนุมัติแล้ว
ชัค ชูเมอร์ หัวหน้าพรรคเดโมแครตจากกลุ่มเสียงข้างน้อยในวุฒิสภากล่าวเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ว่า "มันเหมือนกับการปล่อยเสือเข้าไปในสวนสัตว์เลี้ยงและหวังว่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น"
คริส แวน โฮลเลน วุฒิสมาชิกสหรัฐกล่าวในการประท้วงของพนักงาน USAID ว่า "อีลอน มัสก์พยายามเข้ายึดครอง... จะไม่ยอมทน"
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลวอชิงตันกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าอีโก้ของจอมคุยโวที่เก่งกาจสองคนอย่างทรัมป์และมัสก์จะอยู่รอดในที่เดียวกันอย่างทำเนียบขาวได้นานแค่ไหน
รายงานระบุว่ามัสก์ไม่ได้อยู่ตึกเดียวกันกับทรัมป์ หลังจากถูกปฏิเสธไม่ให้พนักงานของเขาได้ใช้สำนักงานในพื้นที่เวสต์วิง (พื้นที่ทำงานของประธานาธิบดีในทำเนียบข่ว) แต่ได้สถานที่ในตึกไอเซนฮาวร์ซึ่งเป็นส่วนแยกของอาคารทำเนียบขาวแทน
Agence France-Presse
Photo by ANGELA WEISS / AFP