"วิธีการเรียนที่ไม่เจ็บปวด" ปรัชญาชีวิตหนุ่มสาวจีนที่เชื่อว่า"สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดมักเกิดขึ้นในสถานที่ที่มีความสุขที่สุด" 

ตอนนี้กำลังเกิดกระแส "วิธีการเรียนที่ไม่เจ็บปวด" (无痛学习法) ในหมู่คนหนุ่มสาวชาวจีน  นั่นคือการหาวิธีหรือสถานที่ที่พวกเขาสามารถทบทวนการเรียนด้วยวิธีที่ไม่ทุกข์ทรมานแต่อยู่ท่ามกลางความสนุก สำนักข่าวซิงต่าว (星岛环球网) ของจีน รายงานว่า ตอนนี้คนหนุ่มสาวในใจชอบใช้สวนสนุกหรือฟิตเนสเป็นห้องเรียน ชาวเน็ตจำนวนมากถึงกับแชร์ว่าพวกเขาซื้อบัตรผ่านประจำปีของดิสนีย์เพื่อทบทวนการเรียนของตนเอง โดยเชื่อว่า "สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดมักเกิดขึ้นในสถานที่ที่มีความสุขที่สุด" 

ตอนนี้ คนหนุ่มสาวจำนวนมากซื้อบัตรผ่านรายปีเพื่อไปสวนสนุกหรือฟิตเนสเซ็นเตอร์เพื่อศึกษาด้วยตนเองและแบ่งปันประสบการณ์ออนไลน์ โดยหนึ่งในนั้น ดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการอ่านหนังสือ โดยชาวเน็ตจำนวนมากในแพลตฟอร์มเสี่ยงหงชู (小红书) แบ่งปันประสบการณ์การเรียนด้วยตนเองที่ดิสนีย์ โดยพวกเขามักจะซื้อบัตรผ่านรายปี หลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน และหาโต๊ะนั่งเพื่ออ่านหนังสือ เมื่อรู้สึกเหนื่อย พวกเขาจะไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ เพื่อคลายความกดดันและความเหนื่อยล้าจากการเรียน

กระแสนี้กำลังเป็นที่นิยมมากถึงขนาดที่มีมีแม้กระทั่ง "รีวิว" ในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับสถานที่เรียนในดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ รีวิวระบุว่าที่นั่งในร้านอาหารมักถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่ดี โดยมีโซฟาที่นั่งสบาย เก้าอี้มีความสูงที่เหมาะสม และมีปลั๊กไฟติดผนังสำหรับชาร์จแล็ปท็อปหรือโทรศัพท์มือถือ ข้อเสียคือบางครั้งแสงสว่างไม่เหมาะสม ไม่สามารถหาที่นั่งได้ง่ายในช่วงเวลาอาหารหลัก และค่อนข้างมีเสียงดัง

รายงานจากสื่ออื่นๆ ระบุว่าผู้ที่เคยไปเรียนที่ดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้จำนวนหนึ่งยอมรับว่าวิธีการเรียนวิธีนี้อาจไม่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และค่าใช้จ่ายโดยรวมซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมบัตรรายปี เวลาเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ก็ไม่ได้ถูกเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จากกรายงานงานของสำนักข่าวกวงหมิง (光明日报) รายงานการวิเคราะห์พบว่าเมื่อเทียบกับราคาบัตรผ่านรายปีของห้องเรียนแบบเสียเงิน (ศูนย์การเรียนแบบ K书) บางแห่งในประเทศจีนแล้ว พบว่า "สวนสนุกยังคุ้มค่ากว่าอีกด้วย เมื่อเทียบกับการนั่งกับนักเรียนที่กังวลใจเป็นเวลานานๆ แล้ว สวนสนุกเป็นสิ่งที่กลุ่ม "นักเรียนที่เรียนในสวนสนุก" เหล่านี้หวงแหนมากกว่า"

บางคนเลือกที่จะรวมการออกกำลังกายและการเรียนในฟิตเนสเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มสมาธิและหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการนั่งเป็นเวลานาน สวนสนุก โรงยิม และธุรกิจอื่นๆ จึงเริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและจัดเตรียมพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเรียนเพื่อดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น

เรื่องนี้เป็นเทรนด์มาระยะหนึ่งแล้ว โดยสำนักข่าวรายสัปดาห์  "ซินโจวคาน" (新周刊) วิเคราะห์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่าการใช้สวนสนุกเป็นห้องเรียนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของคนหนุ่มสาวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับราคาบัตรผ่านรายปีของห้องเรียนแบบเสียเงินบางห้องแล้ว สวนสนุกยังคุ้มค่ากว่าอีกด้วย เมื่อเทียบกับการนั่งเรียนเป็นเวลานานกับนักเรียนที่กังวลใจ คุณค่าทางอารมณ์ที่สวนสนุกมอบให้เป็นสิ่งที่ผู้ที่เรียนในสวนสนุกหวงแหนมากกว่า “คุณสามารถเข้าสู่วังวนแห่งความสุขได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน และเมื่อคุณกลับมาที่คอมพิวเตอร์ คุณอาจพบวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ สำหรับปัญหาต่างๆ ที่คุณกังวล”

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - 小红书