บางท่านคงจะจำกันได้ว่า The Better เคยมีรายงานเชิงลึกเรื่อง "การกวาดล้างคาสิโนมาเก๊าโดยรัฐบาลจีน ทำให้‘พวกสีเทา’หนีมาหากินใกล้ๆ ประเทศไทย"
รายงานนี้มีแก่นหลักอยู่ที่ 1. จีนกวาดล้างพวกสีเทาที่หากินกับช่องโหว่ในคาสอโนถูกกฎหมายของมาเก๊า และ 2. หลังจากจีนทำความสะอาดมาเก๊าพวกสีเทาก็เผ่นมาทำมาหากินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตัวอย่างเช่น อิ่นกั๋วจวี หรือ 'เค็ยฟันฟัก' เจ้าพ่อมาเก๊าที่นายใหญ่แห่งธุรกิจคาสิโนที่นั่นยังต้องยอมศิโรราบ
มีอำนาจบาตรใหญ่ขนาดเคยเอาปืนจ่อหัว สแตนลีย์ โฮ ผู้เป็นนัมเบอร์วันแห่งอุตสาหกรมคาสิโนมาเก๊ามาแล้ว
แต่หลังจากนอนคุกไปหลายปี และหลังจากหมดทางหากินกับมาเก๊าเพราะทางการจีนปราบใหญ่ อิ่นกั๋วจวี จึงย้ายมาหากินที่กัมพูชาจากนั้นก็มาเป็น 'เดอะ ลาสต์ บอส' ที่เมียวดี
เรื่องนี้อ่านต่อกันมันๆ ได้ที่รายงานเรื่อง "'อิ่นกั๋วจวี' เจ้าพ่อแก๊ง 14K มาเก๊า เจ้าของฉายา 'เค็ยฟันหัก' บิ๊กบอสตัวจริงแห่งเมียวดี"
โดยสรุปก็คือ จีนลงแรงไปมากกับการกวาดล้างพวกสีเทาให้หมดไปจากมาเก๊า เพราะมาเก๊าเปฺ็นแหล่งฟอกเงินของพวกสีเทาและข้าราชการฉ้อราษฎร์บังหลวง
แต่แล้วพวกนี้ก็หนีมาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านของไทยที่ชอบเลี้ยงจีนเทากันเหลือเกิน ส่วนบ้านเราก็ทำตัวลับๆ ล่อๆ แต่จีนก็รู้ดีว่ามีบางคนคอยอุ้มชูพวกสีเทาจากจีนอยู่ลับๆ
การพนันนั้นเป็นแหล่งทุนใหญ่ของพวกสีเทา พวกนี้จึงเริ่มหากินกับการตั้งคาสิโนรอบๆ บ้านเราก่อน จากนั้นก็ทำพนันออนไลน์ จากนั้นก็แตกไลน์ธุริจมาทำการหลอกลวงออนไลน์ นั่นคือ สแกมเมอร์รูปแบบต่างๆ
แต่โดยแก่นแท้แล้ว การพนันคือหัวใจของพวกจีนเทา และพวกนี้เมื่อรู้ว่ารัฐบาลไทยดันเรื่องคาสิโนกับพนันออนไลน์ ก็เริ่มเดินสายเพื่อจะล็อบบี้ตัดตวงผลประโยชน์ในทันที
หากรัฐบาลไทยคิดแต่จะหาเงินโดยไม่ทันระวังว่ามีพวกสีเทาอำพรางตัวมาเป็น "นักลงทุน" ผมเกรงว่าประเทศไทยจะวิบัติเหมือนเพื่อนบ้านแน่นอน
วิบัติแบบไหนจินตนาการกันไม่ยาก เพราะการพนันเป็นปากทางไปสู่หายนะอย่างหนึ่ง ยิ่งไปตกอยู่ในกำมือของพวกสีเทาด้วยแล้ว ให้คูณร้อยไปเลยครับ
แต่หายนะอีกเรื่องคือมันจะมีปัญหากับจีนขึ้นมา
การไปเยือนจีนของทีมรัฐบาลไทยที่นำโดย นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรเลย เพราะทำให้ต่างชาติมองว่าไทยได้ประโยชน์มากกว่าเสีในการร่วมมือจีนด้านเทคโนโลยีและคมนาคมขนส่ง
ในทัศนะของผมแล้ว ถือเป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะในเวลานี้จีนเป็นมหาอำนาจด้านเทคโนโลยี เมือไทยไปผูกมัตรในด้านนี้กับจีน อนาคตของไทยก็ไม่มืดมนแล้ว
แต่มันติดอยู่เรื่องเดียวก็คือปัญหาจีนเทา
นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เปิดเผยว่า สีจิ้นผิงได้เสนอแนะและแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการสร้างคาสิโน โดยบอกว่า สีจิ้นผิงมีประสบการณ์มากกว่าในด้านนี้ เพราะมาเก๊าเป็นเขตปกครองพิเศษที่มีคาสิโนถูกกฎหมาย
แม้จะบอกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จากรานงายข่าวนั้นบ่งชี้สีจิ้นผิงนั้นแสดงความกังวลเลยมีเดียวกับแผนการของรัฐบาลไทย เพราะสีจิ้นผิงกังวลว่าแผนการนี้จะนำไปสู่ปัญหานานาประการ และอาจทำให้อาชญากรรมพุ่งสูงขึ้น
ความกังวลของ สีจิ้นผิง นั้นมีเหตุผลมาจากอะไร หากจำไม่ได้ ก็สามารถอ่านย้อนกลับไปข้างต้นของบทความนี้ หรืออ่านในรายงานพิเศษที่ผมได้แปะลิ้งค์เอาไว้
หากจะให้วิเคราะห์โดยสรุปก็อ สีจิ้นผิง เกรงว่าคาสิโนถูกกฎหมายของไทยจะกลายเป็นแหล่งฟอกเงินและฟอกตัวของพวกสีเทา เหมือนที่เกิดขึ้นกับมาเก๊า และหากไทยไม่ระวังให้ดี พวกสีเทาก็จะใช้ไทยเป็นฐานที่มั่นในการฟอกตัวเองเหมือนที่เคยทำกับมาเก๊า แบบนี้ก็ไม่เท่ากับความพยายามของสีจิ้นผิงที่จะปราบคอร์รัปชั่นและปราบพวกสีเทาล้มเหลวหรอกหรือ?
โปรดทราบว่าปฏิบัติการกวาดชำระล้างมาเก๊านั้นเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการใหญ่ในการกวาดล้างคอร์รัปชั่นทั่วประเทศ อันเป็นผลงานชิ้นโแดงของสีจิ้นผิง ก่อนหน้านั้น พวกอันธพาลในจีนมีทั้งทุนและมีทั้งอำนาจ เพราะอาศัยเครือข่ายแก๊งและพวกฟอกเงินในมาเก๊านั่นเอง สีจินผิง จึงต้องทำการตัดท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ มาเก๊าจึงสงบราบแต่บัดนั้น
แต่คงเพราะความไม่ทันโลกมืดของไทย จึงทำให้ สีจิ้นผิง ต้องกังวลใจกับแผนการของไทย
การที่นายกฯ แพทองธารเขาใจว่าสีจิ้นผิงมีประสบการณ์มากกว่าในด้านนี้นั้นถูกแล้ว แต่ผมยังสงสัยว่า "เพราะมาเก๊าเป็นเขตปกครองพิเศษที่มีคาสิโนถูกกฎหมาย" นั้นเป็นข้อความที่ท่านนายกฯ เข้าใจถ่องแท้หรือไม่? เพราะแม้มาเก๊ามีคาสิโนถูกกฎหมาย แต่มันเป็นดงของพวกอั้งยี่มาก่อน และคาสิโนที่ว่าถูกกฎหมายนั้นถูกแต่ชื่อแต่สาระและการปฏิบัตินั้นมีความผิดกฎหมายไปเกี่ยวข้องอย่างมาก
ดังนั้น หากคิดจะเอาอย่างมาเก๊า ท่านนายกฯ และรัฐบาลต้องตระหนักว่าจะต้องไม่เอาอย่างมาเก๊าในยุคเป็นอาณานิคมโปรตุเกส แต่ต้องเอาอย่างมาเก๊าในยุคของสีจิ้นผิง
ปกติ สีจิ้นผิง จะไม่ออกตัวอะไรขนาดนี้ แม้จะไม่ถึงขั้นแทรกแซง แต่ "ความกังวล" ของผู้นำจีนก็สะท้อนได้ว่าฝ่ายจีนไม่ค่อยจะสบายใจกับวิธีหาเงินของรัฐบาลไทยแบบนี้
เขามีสิทธิที่จะกังวล เพราะเมืองไทยเรามีทั้งปัญหาเรื่องหละหลวมเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย และผู้บังคับใช้กฎหมายก็ไว้วางใจไม่ได้ เช่น กรณีหวางซิง หรือ "ซิงซิง" นั้นแม้ตำรวจไทยจะหาตัวเขากลับมาได้ในไม่กี่วัน แต่คนจีนกลับคิดว่า "ที่หาตัวได้เร็วเพราะมีนอกมีในกับพวกจีนเทาใช่ไหมล่ะ?"
คนจีนจำนวนไม่น้อยในโลกโซเชียลคิดกันแบบนี้แล้ว ยังไม่นับคนจีนอีกมากที่มองไทยว่าเป็น "หวงตู่ตู๋" (黄赌毒) ซึ่งหมายถึงเป็นดินแดนแห่ง "เรื่องอนาจาร การพนัน และยาเสพติด"
ทั้งสามอย่างนี้ใกล้จะเป็นเรื่องถูกกฎหมายอย่างครบครันหากรัฐบาลไม่รู้ว่าคนจีนเขามองบ้านเมืองเราด้วยความระอาใจถึงเพียงนั้น
แต่คนจีนอีกมากมายเขาไว้ใจเรื่องความปลอดภัยของไทยมาก ดังนั้นต่อให้มีกรณีซิงซิงเขาก็ยังมาเที่ยวไทย เพราะรู้ว่าอย่างน้อยรัฐบาลไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับจีนเทา ทั้งยังพยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้
สีจิ้นผิงก็ชื่อชมความพยายามของไทยในการปราบจีนเทา แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่า "ประสบการณ์อันอ่อนด้อย" ของไทยเรื่องโลกมืดแบบมาเก๊า จะทำให้ไทยเจอปัญหาอาชากรรมหนักหน่วงหากคิดจะทำตัวเป็นแบบมาเก๊า
ผมคิดความกังวลของสีจิ้นผิงมีค่ามาก เพราะมีไม่กี่ครั้งที่ผู้นำระดับเขาจะแสดงท่าทีแบบนี้ ด้วยความเห็นห่วงที่แท้จริงต่อทั้งไทยและจีน รัฐบาลไทยจึงควรฟังไว้ให้ดี
และก่อนจะเดินหน้าเรื่องคาสิโน-พนันออนไลน์ อย่าเอาแต่ฝันเฟื่องว่าอยากจเป็นแบบสิงคโปร์ เพราะเรามีศักยภาพสูงมากที่จะสร้างโลกมืดแบบมาเก๊า เพราะเจ้าของมาเก๊าเขาเอ่ยปากเตือนมาแล้ว
ดังนั้น โปรดศึกษาปฏิบัติการของสีจิ้นผิงต่อมาเก๊าให้ดี และศึกษาให้ดีว่ามาเก๊าเคยเป็นเมืองหลวงของแก๊งอาชญากรรมมานานแค่ไหน ก่อนที่สีจิ้นผิงจะใช้กำปั้นเหล็กทำลายมันจะหนีเตลิดเปิดเปิงมาอยู่อยู่รอบๆ บ้านเรา
บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better