กองทัพกะเหรี่ยงประชาธิปไตย (DKBA) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ให้ชาวจีนที่ประกอบธุรกิจคาสิโนและร้านอาหารในเมืองพญาตองซู รัฐกะเหรี่ยง (ฝั่งตรงข้ามกับด่านเจดีย์สามองค์ของไทย) ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์

แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลไทยได้ออกคำสั่งตัดไฟฟ้า เชื้อเพลิง และอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชายแดน 5 แห่งของเมียนมาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อปราบปรามกิจกรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ที่คุกคามความมั่นคงของชาติ

ต่อมา DKBA ได้ส่งมอบชาวต่างชาติ 260 คนที่เดินทางมาถึงหมู่บ้านจ๊อกคัตทางใต้ของเมืองเมียวดี ให้แก่ทางการไทยเมื่อค่ำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ในจำนวนนี้ DKBA ได้ส่งชาย 260 คนและหญิง 39 คนจากประเทศต่างๆ ที่ทำงานหรือถูกหลอกลวงในธุรกิจออนไลน์ไปยังประเทศไทย 

ความเคลื่อนไหวของ DKBA เหล่านี้ทำให้ดูเหมือนว่ากองกำลังดังกล่าวต่อต้านการทำธุรกิจฉ้อโกงและไม่รู้ไม่เห็นกับ 'จีนเทา' แต่จากข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่ DKBA รับรู้และเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา

จากการรายงานของ Independent Mon News Agency เมื่อเดือนตุลาคม 2024 ระบุว่า "พลเมืองจีนที่ได้รับอนุญาตจากกองทัพประชาธิปไตยกะเหรี่ยง (DKBA) ให้เปิดคาสิโนและศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในและรอบๆ เมืองพญาตองซูในรัฐกะเหรี่ยง กำลังทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อด้วยการจ่ายสินค้าและบริการในราคาสูงเกินราคาตลาด"

รายงานข่าวนี้ใช้คำว่า DKBA ได้ให้การ authorised (อนุญาตอย่างเป็นทางการ) กับชาวจีนให้เข้ามาทำธุรกิจสีเทาในพื้นที่ที่ควบคุมโดยกองกำลังนี้ 

จากรายงานนี้ยังระบุว่าการเข้ามาของจีนเทาในพื้นที่ทำให้ข้าวของมีราคาแพงขึ้น โดยระบุว่า "ชาวจีนที่อพยพมาใหม่ต่างเปิดธุรกิจและเช่าบ้านในเมืองและบริเวณโดยรอบ แต่พวกเขาต้องจ่ายค่าเช่าและสินค้าและบริการอื่นๆ ในอัตราที่สูงกว่าอัตราตลาด ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นเกินกว่าที่คนในท้องถิ่นจะเอื้อมถึง"

รายงานนี้ระบุที่มาที่ไปของจีนเทาที่เขามายังพญาตองซูว่า "ชาวจีนส่วนใหญ่ที่ย้ายมายังเมืองพญาตองซู เคยเปิดคาสิโนและศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในเมืองเมียวดี ของรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางเหนือประมาณ 100 ไมล์บนชายแดนไทย แต่พวกเขาถูกบังคับให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากการสู้รบ และตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ชาวจีนอย่างน้อย 3,000 คนได้ย้ายไปยังเมืองพญาตองซูและพื้นที่โดยรอบ" 

การเคลื่อนที่ของจีนเทาดังกล่าวเป็นผลมาจากสงครามแย่งยิงเมืองเมียวดีเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ระหวางกองกำลังชนกลุ่มน้อยต่อต้านกองทัพเมียนกับกองทัพเมียนมา แต่ในที่สุดอกงกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (Karen BGF) ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกับกองทัพเมียนมา ก็เข้ายึดครองเมียวดีและหลังจากนั้นธุรกิจจีนเทาก็เฟื่องฟูเหมือนเดิม แต่ก๋ยังมีส่วนหนึ่งที่บ้ายมายังพญาตองซูด้วย 

หลังจากที่มีการย้านมายังพญาตองซูแล้ว ชาวจีนได้สร้างคาสิโนขนาดใหญ่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ห่างจากเมืองพญาตองซู ไปประมาณ 20 ไมล์ (32 กม.) นอกจากนี้ ยังเปิดโชว์รูมรถยนต์และร้านอาหารในเมืองอีกด้วย

รายงานยังเผยว่า ชาวจีนทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ยังต้องจ่ายเงินให้กับ DKBA เดือนละ 10,000 บาท เพื่อได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ที่นั่น ตามคำบอกเล่าของคนในท้องถิ่น เงินจำนวนนี้จะถูกแบ่งให้กับ DKBA กองกำลังทหารที่ประจำการในเมืองพญาตองซู และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ในพื้นที่ 

"นับตั้งแต่ชาวจีนเข้ามาในพื้นที่และเริ่มสร้างคาสิโนและเปิดธุรกิจหลอกลวง พื้นที่บางส่วนของเมืองพญาตองซู ได้รับการยกเว้นเคอร์ฟิว ซึ่งหมายความว่าบางพื้นที่จะพลุกพล่านและเสียงดังจนถึงเที่ยงคืน แม้ว่าคนในพื้นที่จะอยากบ่น แต่พวกเขาก็ไม่กล้าบ่นเกี่ยวกับธุรกิจที่มีเสียงดังเหล่านี้ เพราะได้รับการคุ้มครองจาก DKBA" สำนักข่าว Independent Mon News Agency

นอกจากรายงานข่าวของ Independent Mon News Agency ยังมีรายจากสื่อเมียนมาชั้นนำ คือ Irrawaddy เกี่ยวกับการเกิดขึ้นของธุรกิจจีนเทาในฐานที่มั่นของ DKBA โดยเดือนตุลาคม 2024 มีรายงานว่า ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม กลุ่มอาชญากรฉ้อโกงออนไลน์ได้ย้ายฐานปฏิบัติการไปยังเมืองพญาตองซู, ฟาลู, จ๊อกคัต, มินเลตพาน และวาวลาย 

กลุ่มอาชญากรบางกลุ่มได้เช่าที่ดินจากกลุ่มติดอาวุธใกล้กับภูเขาธรรมะคีรีเหนือเมืองพญาตองวูเพื่อดำเนินการคาสิโน

นอกจาก DKBA แล้วยังมี พรรครัฐมอญใหม่, กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) ที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร  และกองพันทหารราบที่ 97 ของรัฐบาลทหาร มีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองพญาตองซู แต่ชาวเมืองกล่าวกับ Irrawaddy ว่าตั้งแต่ช่วงกลางปี ​​2023  เป็นต้นมา DKBA ทำหน้าที่บริหารและรักษาความปลอดภัยให้กับพญาตองซู เป็นส่วนใหญ่ โดยกองกำลังของคณะรัฐประหารยังคงจำกัดอยู่แต่ภายในฐานทัพของพวกเขา

จากรายงานของ Irrawaddy ระบุว่า พวกจีนเทาเข้ามาในพญาตองซูตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2024 แต่ในเดือนเดียวและปีเดียวกันนั้น  Independent Mon News Agency กลับรายงานว่า ชาวเมืองพญาตองซูรายงานว่ามีชาวจีนเดินทางเข้ามาในเมืองมากขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นหลายพันคน หลังจากที่ BGF สั่งให้จีนเทาออกจากเมืองเมียวดีภายในเดือนตุลาคม (แต่ในความเป็นจริงมีการย้ายเพียงเล็กน้อย และธุรกิจจีนเทายังคงรุ่งเรืองในเมียวดี)  

ในเวลานั้นชาวจีนที่อพยพมาจากเมียวดียังพญาตองซูได้หาเช่าบ้าน หอพัก และเกสต์เฮาส์ในตัวเมืองพญาตองซูในราคาพรีเมี่ยม และยังซื้อที่ดินชั้นดีเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยหรูหราอีกด้วย

รายงานระบุว่า ชาวจีนที่เดินทางมาจากประเทศไทยโดยมีหนังสือเดินทางและเอกสารที่ถูกต้อง รวมถึงผู้ที่เดินทางมาโดยถนนเมียวดี-เมาะละแหม่ง-พญาตองซู ตามข้อตกลงระหว่าง BGF และ DKBA ตอนนี้กำลังอาศัยอยู่ในพญาตองซู และมีรายงานว่า DKBA และ BGF เรียกเก็บเงินค่าบริการขนส่งนี้สูงถึง 100,000 บาทต่อคนจากชาวจีน

ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวกับ Independent Mon News Agency เกี่ยวกับการเปิดคาวิโนในพื้นที่พญาตองซู โดยคนจีนว่า “การเดิมพันขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 100 หรือ 200 บาท ซึ่งดึงดูดคนงานและคนหนุ่มสาวให้เข้ามาเล่นการพนัน เราได้ยินข่าวการโจรกรรมทุกวัน และไม่มีใครควบคุมธุรกิจการพนันที่เปิดดำเนินการอย่างเปิดเผย ในเมืองนี้มีบ่อนการพนันหลายพันแห่ง” 

ทีมขาวต่างประเทศ The Better

Photo - Three Pagodas Pass Myanmar border sign by joaquin uy from Seattle / Wikipedia