สำนักข่าวไฉซิน (财新传媒) รายงานว่าเมื่อเช้าวันที่ 17 กุมภาพันธ์ตามเวลาประเทศจีน สีจิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง เข้าร่วมการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับวิสาหกิจเอกชนในกรุงปักกิ่ง หลังจากฟังคำปราศรัยของตัวแทนผู้นำวิสาหกิจเอกชนแล้ว สีจิ้นผิงได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญ
วิดีโอจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการเอกชน เช่น เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง Huawei, แจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba, หม่าฮว่าเถิง ประธาน CEO และผู้ก่อตั้งของ Tencent, เหลยจุน ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Xiaomi Group, เจิงอวี้ฉุน ประธานและ CEO ของ CATL, หวังเฉวียนฝู ประธานและประธาน BYD หลิวหย่งห้าว, เหลิ่งโหย่วปิน ประธานและประธาน New Hope Group, หนานฉุนฮุย ผู้ก่อตั้ง China Feihe, อวี๋เหรินหรง ประธาน Chint Group ผู้ก่อตั้งและประธาน Will Semiconductor และ หวังซิ่ง ผู้ก่อตั้งและประธานและ CEO ของ Meituan เข้าร่วมการประชุม
ไฮไลท์ของการประชุมนี้อยู่ที่การปรากฏตัวของ แจ็ก หม่า หรือ หม่าหยุน แห่ง Alibaba ซึ่งอาจเป็นครั้งแรกที่เขาพบกับบุคคลระดับสูงสุดของรัฐบาล หลังจากที่เขาถูกกดดันจากภาครัฐจนต้องหายหน้าหายตาไปจากวงการธุรกิจหลายปี
ย้อนกลับไป ในเดือนตุลาคม 2020 ในงานฟอรัมการเงินจีน 40 (CF40) และสถาบันสมาชิกคณะกรรมการจัดงานได้จัดการประชุมสุดยอดการเงิน Bund Financial Summit ครั้งที่ 2 ในเซี่ยงไฮ้ โดยมีหัวข้อการประชุมคือ "วิกฤตและโอกาส: การเงินใหม่และเศรษฐกิจใหม่ภายใต้รูปแบบใหม่" เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม แจ็ค หม่าได้กล่าวสุนทรพจน์ในฐานะประธานร่วมของคณะกรรมาธิการระดับสูงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยความร่วมมือทางดิจิทัลและผู้สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เขากล่าวว่า "ข้อตกลงบาเซิลเปรียบเสมือนสโมสรของผู้สูงอายุ" "ธนาคารในปัจจุบันยังคงดำเนินตามแนวคิดของร้านรับจำนำ สินเชื่อที่อยู่อาศัยและการค้ำประกันเป็นเหมือนร้านรับจำนำ" "หากคุณกู้เงิน 100,000 หยวน คุณจะกลัวธนาคาร หากคุณกู้เงิน 10 ล้านหยวน คุณและธนาคารจะตื่นตระหนกเล็กน้อย หากคุณกู้เงิน 1 พันล้านหยวน ธนาคารจะกลัวคุณ"
คำพูดเหล่านี้ดึงดูดความสนใจและการอภิปรายอย่างกว้างขวางในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ทางการจีนต้องการควบคุมการปล่อยเงินของสถาบันการเงินอย่งไม่ถี่ถ้วนจนอาจก่อให้เกิดภาวะฟ้องสบู่ในประเทศขึ้นมาได้ แต่ท่าทีของ แจ็ค หม่า กลับทำตรงกันข้ามกับทางการ ด้วยการสนับสนุนให้สถาบันการเงินปล่อยกู้มากขึ้น ซึ่งนัยหนึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการที่เขาต้องการผลักดันสถาบันการเงินของเขาเอง คือ Ant Group
แต่เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน คณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและประกันภัยแห่งประเทศจีน คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน และสำนักงานบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของรัฐ ได้จัดหารือเชิงกฎระเบียบกับ แจ็ค หม่า ผู้ควบคุมจริงของ Ant Group และผู้บริหารของกลุ่มคนอื่นๆ
จากนั้น ในช่วงเย็นของวันที่ 3 พฤศจิกายน ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ได้ออกคำตัดสินใจที่จะระงับการจดทะเบียนของ Ant Technology Group Co., Ltd. ในคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยี ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงยังได้ออกแถลงการณ์ในช่วงเย็นเพื่อระงับการจดทะเบียนหุ้น H ของ Ant Group ด้วย ตามรายงานของ Wall Street Journal ระบุว่า สีจิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่สั่งระงับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) ของ Ant Group ด้วยตนเองหลังจากคำปราศรัยของแจ็ค หม่า
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน คณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารและประกันภัยแห่งประเทศจีน คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน และสำนักงานบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของรัฐ ประกาศว่าพวกเขาจะสอบสวน Ant Group และเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับพฤติกรรมผูกขาดที่ต้องสงสัย ราคาหุ้นของ Alibaba ร่วงลงมากกว่า 15% เมื่อเปิดตลาด และมูลค่าตลาดของหุ้นก็ระเหยไปมากกว่า 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สื่อจีนก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์แจ็ค หม่า เมื่อ Alibaba ถูกปรับ 18,200 ล้านหยวนในข้อหาผูกขาด เขายังประกาศต่อสาธารณะว่าเขา “ยอมรับอย่างจริงใจและปฏิบัติตามอย่างแน่วแน่” และ “รู้สึกขอบคุณและเกรงขามในเวลาเดียวกัน” หลังจากต้นปี 2024 แจ็ค หม่า ก็ได้ยอมสละการควบคุมแอนต์ และลดหุ้นของเขาใน 6 บริษัทลงเหลือศูนย์
หลังจากเหตุการณ์นั้น แจ็ค หม่า ก็ปลีกตัวออกจากวงการธุรกิจและหายหน้าหายตาไปนานหลายปี นานๆ ครั้งเขางจะปรากฏตัว แต่การปรากฏตัวส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้เองกับกิจกรรมส่วนของเขาหรืองานด้านการกุศล
แต่ล่าสุด เขามาปรากฏตัวร่วมกับนักธัรกิจระดับมหาเศรษฐีแห่งชาติอีกครั้ง โดยมี สีจิ้นผิง เป็นประธาน ซึ่งน่าจะสะท้อนว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลน่าจะเปิดโอกาสให้เขาอีกครั้ง โดยเฉพาะยิ่งความพยายามของรัฐบาลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้คึกคักอีกครั้ง และ แจ๊ค หม่า น่าจะมีส่วนสำคัญด้วย
ข้อสังเกตก็คือ เมื่อไม่นานก่อนจะมีการประชุมกับ สีจิ้นผิง สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แจ็ค หม่า ได้ถอนคำมั่นสัญญาที่จะ “จ้างงานคน 1 ล้านคนในสหรัฐฯ” ตอนที่เขาพบกับประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ เมื่อ 2 ปีก่อน โดย แจ็ค หม่า กล่าวว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทำให้เขาไม่สามารถรักษาคำมั่นสัญญาได้
“ผมไม่สามารถคาดการณ์ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ สถานการณ์ปัจจุบันได้ทำลายเงื่อนไขในเวลานั้นไปแล้ว” เขากล่าว
หม่า ยังเตือนด้วยว่าสงครามการค้าอาจกินเวลานานถึง 20 ปี และผู้คนควรเตรียมตัวให้พร้อม
อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่าการถอนคำสัญญา “จ้างงานคน 1 ล้านคนในสหรัฐฯ” ของ แจ็ค หม่า ประจวบเหมาะกับการที่เขามีโอกาสร่วมประชุมกับ สีจิ้นผง ที่ต้องการจะฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนพอดี ซึ่งอาจหมายความว่า แจ็ค หม่า อาจเป็นกำลังสำคัญอีกครั้งของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo
AFP / Anthony Kwan / POOL (Xi jinping)
AFP / Philippe LOPEZ (Jack Ma)
