'มาร์โก รูบิโอ'แสดงอาการ "สนใจ"ไทยมาตั้งแต่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฯอเมริกาแล้ว โดยให้การกับสภาคองเกรสก่อนรับตำแหน่งว่า “ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งมากของสหรัฐฯ และเป็นพันธมิตรทางประวัติศาสตร์ที่แข็งแกร่ง นั่นคือพื้นที่ที่ผมคิดว่าการทูตสามารถบรรลุผลได้จริง เนื่องจากความสัมพันธ์นั้นมีความสำคัญและใกล้ชิดกันมาก”
แม้จะจะออกปากชมไทย แต่ก็เป็นการชมแบบลูบหลังแล้วตบหัว เพราะที่รูบิโอยังเห็นไทยเป็น "มหามิตร" ก็เพื่อที่จะใช้การทูตและความเป็นมิตรเก่าแก่บีบให้ไทยอย่าได้ส่งตัวชาวอุยกูร์หลบหนีเข้าเมืองกลับไปยังจีน
แต่รูบิโอและรัฐบาลทรัมป์ทั้งหมดเป็นพวกหัวแข็งและไร้หัวคิด เพราะเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง และพฤติกรรมที่แสดงออกกับประเทศที่เป็นมิตรดั้งเดิมอื่นๆ หาใช้การทูตและการเป็นเพื่อนไม่ ดูเอาเถิดว่าทรัมป์ปฏิบัติต่อมิตรที่ใกล้ชิดกว่าไทยได้เลวร้ายแค่ไหน นั่นคือ ต้องการแคนาดาเป็นดินแดนของตน และละทิ้งยุโรปให้จัดการกับสงครามด้วยตัวเอง มิหนำซ้ำยังต้องการดินแดนของยุโรป คือ กรีนแลนด์ด้วยซ้ำ
แล้วแบบนี้จะให้ "มหามิตรไทยแลนด์" เชื่อถือได้อย่างไร? หากไทยไม่ส่งอุยกูร์ให้จีนแล้วจีนตอบโต้ไทย โดยที่สหรัฐฯ ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หลังจากนั้น? ซึ่งจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้มันมีโอกาสสูงมากที่ไทยจะถูกลอยแพหลังจากถูกใช้เป็นเครื่องมือแบบแคนาดากับยุโรปแล้ว
แคนาดานั้นเคยเป็นประเทศน่ารัก เพราะไม่ยอมตามก้นสหรัฐฯ แต่พอถึงยุคของจัสติน ทรูโด ก็พยายามจะทำตัวให้ดูเท่ดูคูลในสายตาชาติตะวันตกด้วยกัน ด้วยการหันมาเป็นศัตรูกับจีนเสียอย่างนั้น จนกระทั่งจับตัวผู้บริหารของ "หัวเหวย" เอาไว้ และกระทำการต่างๆ เพื่อโจมตีจีน ทำให้จีนเจ็บปวดอย่างมาก เพราะที่ผ่านมามองแคนาดาเป็นเพื่อนที่ดี แต่ตอนนี้แคนานากลายเป็นลูกน้องของสหรัฐฯ ไปเสียแล้ว
จีนจึงเล่นงานแคนาดาอย่างหนัก จนเศรษฐกิจแคนาดาพังพินาศ ด้านสังคมก็ผุกร่อนไปด้วย ทำให้ประเทศที่น่าอยู่เหมือนสวิตเซอร์แลนด์แห่งอเมริกาเหนือ กลายเป็นนรกขั้วโลกเหนือไปแล้ว
แม้แคนาดาจะทุ่มกายใจให้สหรัฐฯ และพันธมิตร แต่แล้วกลับถูกสหรัฐฯ ตอบแทนด้วยการขึ้นภาษีอย่างหนัก และยังถูกทรัมป์ต้องการผนวกเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ในฐานะรัฐที่ 51 อีกด้วย
เอาแค่สิ่งที่เกิดขึ้นกับแคนาดามาเป็นอนุสนธิ เราๆ ท่านๆ ก็ควรจะคิดได้แล้วว่า หากทำตัวเป็น "มหามิตร" ของสหรัฐฯ ต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น?
รูบิโอนั้นไม่ใช่คนที่โดดเด่นอะไร ท่าทีส่วนใหญ่ของเขาก็ล้วนแต่ขยายผลจาก "นาย" ทั้งสิ้น เช่น การที่ทรัมป์ต้องการผนวกแคนาดา เขาก็ได้แต่พูดซ้ำท่าทีของทรัมป์โดยไม่มีทักษะทางการทูตใดๆ ทั้งสิ้น ว่า “รัฐบาลแคนาดาได้แสดงจุดยืนและความรู้สึกของตนเกี่ยวกับเรื่อง [การผนวกดินแดน] อย่างชัดเจน และประธานาธิบดีก็ได้แสดงเหตุผลถึงเหตุผลที่เขาคิดว่าแคนาดาจะดีกว่าหากเข้าร่วมกับสหรัฐอเมริกาเพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจ”
และว่า “ผมจะเล่าให้คุณฟังว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง: [ทรัมป์] อยู่ในที่ประชุมกับทรูโด และทรูโดก็พูดโดยพื้นฐานว่าถ้าสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีจากแคนาดา แคนาดาก็ไม่สามารถอยู่รอดในฐานะรัฐชาติได้ ซึ่งในจุดนั้นประธานาธิบดีก็พูดว่า 'คุณควรจะกลายเป็นรัฐ (หนึ่งของสหรัฐฯ'”
ในเมื่อมิตรทำกับมิตรกันขนาดนี้ ประเทศไทยควรจะเป็นมิตรต่อไปหรือไม่? ยังไม่ต้องนับว่าควรจะฟังคำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ทำงานแบบไม่รักษาหน้าประเทศพันธมิตรเอาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถนอมน้ำใจประเทศที่มีสถานะกลางๆ
รูบิโอนั้นสะท้อนนโยบายต่างประเทศแบบอันธพาลโดยแท้จริง ทั้งกรณีแคนาดา ทั้งการไล่เอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้ออกจากสหรัฐฯ เหตุเพียงเพราะทูตคนนี้ "เกลียดทรัมป์" ซึ่งจะจริงหรือไม่ก็อีกเรื่อง แต่ทรัมป์และอีลอน มัสก์ (ซึ่งมาจากแอฟริกาใต้) มีเหตุให้คนแอฟริกาใต้เกลียดจริงๆ เพราะไปดูถูกบ้านเมืองเขาว่าเหยียดเชื้อชาติกับคนผิวขาว ที่พูดแบบนี้ก็เพื่อสนองท่าทีของตนที่ต้องการให้คนขาวกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งนั่นเอง
แค่สองตัวอย่างนี้ก็คงพอเพียงที่จะยืนยันว่า "การทูตแบบทรัมป์-รูบิโอ" ไร้คุณธรรมแค่ไหนในทางการเมืองระหว่างประเทศ
เมื่อรูบิโอทั้งตบหัวและลูบหลังไทย ไทยที่ไม่ชอบเล่นอะไรแบบนี้ก็เลยตบหน้ารูบิโอเข้าย่างจังด้วยการส่งตัวชาวอุยกูร์ไปให้จีนเสียเลย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แต่ตกใจและออกมา "ประณามไทย" สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ ก็ตื่นตูมด้วย ถึคงขนาด "เตือน" ว่าระวังจะเจอก่อการร้ายเข้าก็แล้วก้น
ล่าสุด รูบิโอ จะเล่นงานเจ้าหน้าที่ไทยที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวอุยกูร์กลับไปยังจีนด้วยการจะไม่ออกวีซ่าไปสหรัฐฯ ให้
เรื่องนี้สำคัญตรงที่ หากเจ้าหน้าที่ไทยที่เป็นเป้าหมายไม่อยากไปเหยียบสหรัฐฯ ก็จริง แต่ถ้าจะไปประชุมที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติที่นิวยอร์ก มันจะเป็นปัญหาเอา
กับอุยกูร์ 40 คนที่จีนยืนยันสวัสดิภาพแล้ว ไม่เห็นประเทศที่เป็นเพื่อนกันมันคงไม่ทำกันถึงขนาดนี้ละมั้ง
นี่แหละคือสิ่งที่ "มหามิตร" เขาทำกับมิตรด้วยกันในยุคที่การทูตของประเทศนั้นไม่มีคุณธรรม
ความไร้คุณธรรมของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อบีบให้พวกที่ยังไม่เลือกข้างจะต้องเลือกข้าง หากใกล้มือใกล้เท้าหน่อยก็ถึงขั้นจะยึกปรเะทศเขา
เราก็เห็นแล้วว่าการปฏิบัติของรูบิโอกับนานาประเทศ มันทำให้สหรัฐฯ น่าคบที่ไหน?
พูดถึงการเลือกข้างแล้วเอาเข้าจริงสหรัฐฯ ละเลยไทยมานานหลายสิบปีแล้ว ไมได้ให้ความสำคัญอย่างที่ควรในฐานะยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาค แต่พอไทยจะแสดงท่าทีเป็นตัวของตัวเองเข้าหน่อยก็เริ่มจะสนใจขึ้นมา เพียงแต่เพราะมันเป็นยุคของทรัมป์-รูบิโอ ทำให้การเรียกร้องจากไทยเต็มไปด้วยถ้อยคำที่ไม่น่าฟัง และการที่จู่ๆ สหรัฐฯ เรียกร้องจากไทยโดยทิ้งไทยไปเสียนาน มันเป็นท่าทีที่ไทยควรสนองตอบแบบเชื่องๆ ด้วยหรือ?
และเรื่องนี้สะท้อนว่าสหรัฐฯ ไม่ได้มองไทยสำคัญเนื่องจากขาดความรู้และไม่สนใจมาหลายปีแล้ว อาจจะคิดด้วยซ้ำว่ายอมเรียกไทยว่าเป็น "มหามิตร" (จอมปลอม) สักหน่อยไทยก็ตัวลอยแล้ว ซึ่งผมว่าเป็นการดูถูกอยู่กลายๆ เหมือนกัน ทั้งที่ไทยสำคัญเอามากๆ ในการเมืองโลก หากวันหนึ่งสหรัฐฯ ต้องการไทยขึ้นมาแล้วจะสายเกินไป
โปรดทราบว่า จีนนั้นเริ่มแนบสนิทกับไทยมากกว่าสหรัฐฯ มานานหลายปีแล้ว แม้ไทยจะไม่ถือเป็นพันธมิตรกับจีน และยังคงถือตัว (หรือคนอื่นถือให้) ว่าเป็นพันธมิตรกับตะวันตก
จีนนั้น "ช่วย" ไทยในหลายๆ ด้าน แม้ว่าจะมีเรื่องไม่เข้าอกเข้าใจกันในระดับประชาชนอยู่บางทีก็ตาม แต่ไม่ว่าจะอย่างไร จีนนั้นเป็น "คนใกล้" กว่าสหรัฐฯ ไปเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น รูบิโอที่ไม่มีเครดิตอะไรในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ จึงสั่งไทยไม่ได้ เพราะไทยคงคิดแล้วว่า "ไม่คุ้ม" ที่จะคบกันแบบพันธมิตร
พูดสั้นๆ ก็คึอ สหรัฐฯ กำลังจะสูญเสียไทยในฐานะมหามิตรไปแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับการเมืองโลกโอกาสทื่สหรัฐฯ จะขอแรงจากไทยและไทยจะสนองตอบนั้น "ยาก"
ไทยนั้นมีภูมิรัฐศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม สหรัฐฯ กลับละเลยไทยไป (ซึ่งเป็นเรื่องจริงหากศึกษาแนวทางการต่างประเทศสหรัฐฯ นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 2000 เป็นต้นมา) ทำให้จีนมองเห็นและเข้ามาเน้นจุดนี้ หากจีนสามารถ "เจียระไน" ไทยที่เปรียบเหมือนเพชรแห่งภูมิรัฐศาสตร์ได้สำเร็จ วันนั้น ไทยก็คงไม่ต้องฟังชาติตะวันตกอีก
แตไทยจะพึ่งพาจีนได้แค่ไหน? เรื่องนี้คงต้องยกให้เวลาเป็นตัวตัดสิน
จีนนั้นแกร่งขึ้นมาก แต่ก่อนไม่ยอมหักกับสหรัฐฯ แต่ตอนนี้สหรัฐฯ แรงมาจีนก็แรงกลับ เช่น หากสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำกับเจ้าหน้าที่จีน จีนก็จะขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บ้าง
เสียดายที่ไทยยัง "อ่อน" และ เล็ก" เกินกว่าจะทำแบบนี้ แต่ถ้าเกิดจีนอยากจะเป็น "มหามิตร" กับไทยขึ้นมาแล้วลองขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่เล่นงานไทยเรื่องอุยกูร์บ้าง
พี่น้องชาวไทยก็จะสะใจไม่น้อย
บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
Photo by SAUL LOEB / POOL / AFP