วันนี้ รัฐสภาอินโดนีเซียได้แก้ไขกฎหมายที่อนุญาตให้ทหารดำรงตำแหน่งในรัฐบาลได้มากขึ้น แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ากฎหมายฉบับนี้จะทำให้บทบาทของกองทัพในกิจการพลเรือนเพิ่มมากขึ้นก็ตาม

การแก้ไขกฎหมายกองทัพ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต เป็นหลัก มีเป้าหมายเพื่อขยายบทบาทของกองทัพให้เกินขอบเขตของการป้องกันประเทศ จากเดิมที่กองทัพก็มีอิทธิพลในด้านต่างๆ ของประเทศอย่างทรงพลังมายาวนาน

การแก้ไขดังกล่าวก่อให้เกิดความกลัวว่าอินโดนีเซียอาจจะกลับไปสู่ยุคของอดีตเผด็จการซูฮาร์โต ซึ่งเคยใช้บุคลากรทางทหารปราบปรามผู้เห็นต่าง และ ปราโบโว ประธานาธิบดีคนปัจจุบันซึ่งเป็นอดีตนายพลเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

“ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องขอให้กลุ่มต่างๆ อนุมัติการแก้ไขกฎหมาย... เราจะตกลงกันได้หรือไม่ว่าจะทำให้มันกลายเป็นกฎหมาย” ปูอัน มหารานี ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในการประชุมใหญ่

สมาชิกรัฐสภาตะโกนว่า “เห็นด้วย” และปูอันก็เคาะค้อนเพื่อแสดงว่าการแก้ไขผ่านแล้ว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พลเอกอากุส สุบิยันโต ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวต่อรัฐสภาว่า กฎหมายทหารซึ่งผ่านเมื่อปี 2547 นั้นล้าสมัยและไม่มีบทบาทอะไรต่อประเทศอีกต่อไป

ภายใต้กฎหมายฉบับก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทหารสามารถรับราชการในหน่วยงานของรัฐได้ 10 แห่ง รวมถึงกระทรวงกลาโหมด้วย

หากจะดำรงตำแหน่งพลเรือนในหน่วยงานของรัฐอื่น ทหารจะต้องลาออกหรือเกษียณจากราชการทหาร

กฎหมายที่แก้ไขใหม่นี้ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทหารรับราชการในหน่วยงานของรัฐได้ 14 แห่ง รวมถึงสำนักงานอัยการสูงสุดและหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถบรรจุทหารประจำการในตำแหน่งพลเรือนได้มากขึ้น และทำให้การตรวจสอบทางกฎหมายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ที่ละเมิดกฎหมายลดน้อยลง

“ประธานาธิบดีปราโบโวดูเหมือนจะตั้งใจที่จะฟื้นฟูบทบาทของกองทหารอินโดนีเซียในกิจการพลเรือน ซึ่งเคยมีลักษณะการละเมิดและการละเว้นโทษอย่างแพร่หลายมาช้านาน” อันเดรียส ฮาร์โซโน นักวิจัยอาวุโสของ Human Rights Watch ในอินโดนีเซียกล่าวในแถลงการณ์

“การรีบเร่งของรัฐบาลในการนำการแก้ไขเหล่านี้มาใช้นั้นขัดต่อพันธสัญญาที่รัฐบาลแสดงออกต่อสิทธิมนุษยชนและความรับผิดชอบ” เขากล่าว

Agence France-Presse

Photo - ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโตแห่งอินโดนีเซียยกนิ้วขึ้นทางหลังจากเข้าร่วมการเปิดตัวระบบใหม่สำหรับการโอนเงินเบี้ยเลี้ยงโดยตรงไปยังบัญชีธนาคารของครูในโรงเรียนรัฐบาลในภูมิภาค ณ กระทรวงการประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025 (ภาพถ่ายโดย Yasuyoshi CHIBA / AFP)