การศึกษาไทยไม่ได้แย่กว่าเพื่อนบ้าน แต่การ'ตระหนักรู้'ของคนไทยยังด้อยพัฒนา

การศึกษาไทยไม่ได้แย่กว่าเพื่อนบ้าน แต่การ'ตระหนักรู้'ของคนไทยยังด้อยพัฒนา

เป็นอีกครั้งที่สื่อไทยและคนไทยหลงไปตามการจัดอันดับ หรือ Ranking ที่ต่างประเทศทำโดยไม่ได้ตั้งคำถามถึงความถูกต้องด้านวิชาการ ด้านวิธีวิทยา และเบื้องหลังของการจัดอันดับ
 
ในฐานะที่ผมทำงานทั้งข่าวและก็อ่านงานวิชาการด้วย การทำ Ranking ต่างๆ ในเวลานี้หากไม่ได้มาจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ ผมจะไม่เสียเวลามาอ่านหรือแม้แต่เอามาทำข่าว

เพราะมีโอกาสสูงที่จะเป็นการทำ Ranking แบบมั่วๆ หรือถ้าไม่มั่วก็อ้างนักวิชาการที่มีปัญหาเรื่องวิธีวิทยา

ผมจะยกตัวอย่างเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีการจัดอันดับโดยเพจบางเพจที่อ้างว่า IQ ของคนกัมพูชานั่นสูงกว่าคนไทย

ผมไม่มีปัญหาถ้าคนเขมรจะฉลาดกว่าไทย แต่ผมไม่เชื่อว่าเขาทำการสำรวจโดยเป็นวิทยาศาสตร์ 

แล้วก็ทราบว่า การสำรวจที่เพจต่างๆ นั้นอ้าง มาจาก "งานวิจัย" ของคนที่ชื่อว่า ริชาร์ด ลินน์ (Richard Lynn) ซึ่งถูกตำหนิจากนักวิทยาศาสตร์ต่างๆ ว่าตีความข้อมูลผิดพลาด มีวาระแอบแฝงในทางการเมืองและเชื้อชาติ โดยรวมแล้วเขาถูกกล่าวหาว่า "เหยียดเชื้อชาติ" และไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากพอ

แต่งานของคนปบบนี้ก็ยังถูกหยิบมาจัดทำ Ranking เพราะมันคอนเทนต์ที่หากินง่ายและหลอกคนง่าย สื่อไม่มีคุณภาพในต่างประเทศจึงมักหยิบเอางานวิจัยที่ไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์เหล่านี้มาหากิน และในท้ายที่สุดมันสื่อในประเทศเราก็กลายเป็นปลาที่ "กินเหยื่อปลอม" ประเภทนี้ ไม่ใช่ครั้งเเดียว แต่หลายครั้งแล้ว

นี่คือปัญหาของสื่อในไทย ซึ่งมักจะไม่ตรวจสอบข้อมูลก่อน ดังนั้นสื่อไทยจึงถูกคนธรรมดาแย่งงาน เพราะทำแค่ copy and paste และไมได้ทำหน้าที่ "ตรวจสอบ" อันเป็นแก่นสารของความเป็นสื่อ

กรณีล่าสุดก็เหมือนกัน ที่เว็บไซต์ World Population Review จัดทำอันดับการศึกษาแต่ละประเทศ (Education Rankings by Country 2025) ซึ่งอันดับการศึกษาไทยอยู่ที่ 107 ของโลก ตามหลังลาวด้วยซ้ำที่ 102 และเวียดนามที่ 53

แม้อันดับ 1 ก็น่ากังขา คือ เกาหลีใต้ ซึ่งถ้าจะเอาการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในเอเชียมาวัด (ซึ่งผมไม่อยากจะทำแบบนี้เลย) ของ QS World University Rankings: Asia 2025 มีเกาหลีใต้ติดท็อป 10 แค่แห่งเดียวที่เหลือส่วนใหญ่เป็นจีน 

หากจะวัดกันแบบนี้ มหาวิทยาลัยลาวยิ่งไร้อันดับท็อป เวียดนามเองก็เช่นกัน และเกาหลีใต้ไม่ควรเป็นที่ 1

แต่การทำ Ranking ของสถาบันไหนๆ ก็มีข้อสงสัยเรื่องความถูกต้อง ที่ผมยก QS ขึ้นมาก็เพราะต้องการจะตอบโต้แบบ "เกลือจิ้มเกลือ" เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า Ranking ของที่นี่ดีกว่า

ปกติแล้ว ถ้าเห็นการทำ Ranking เรื่องใหญ่แบบนี้มันต้องมีวิธีวิทยาการทำวิจัยที่เป็นระบบ แต่นี่ไม่มีเลย เจ้าของเว็บไซต์ทำการจัดแบบลอยๆ ขึ้นมาโดยอ้างสถาบันโน้นสถาบันนี้ แต่ก็ไมได้อ้างอิงวิธีการของเขา

เช่นอ้างว่าการจัดอันดับการศึกษานี้อ้างอิงจาก US News and World Report ซึ่งเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน โดยที่ US News and World Report นั้นเขาทำงานเป็นรบบกับสถาบันชั้นนำเช่น Wharton School  เพื่อทำการจัดอันดับเรื่อง "ประเทศที่ดีที่สุด" 

แม้จะมีการจัดอันดับ "การศึกษาที่ดีที่สุด" แต่เขาให้สหรัฐฯ เป็นอันดับ 1  ส่วนเกาหลีใต้เป็นอันดับที่ 18 จึงไม่รู้สักทีว่า World Population Review ไปเอาข้อมูลจากไหนถึงให้เกาหลีใต้เป็นที่ 1

และในเวลาเดียวกันเขายังให้ไทยมีการศึกษาอันดับที่ 48 ของโลก มาเลเซียที่ 37 สิงคโปร์ 22

อินโดนีเซีย 54 ฟิลิปปินส์  56 เวียดนาม 61 เมียนมา 84 กัมพูชา 85 หมดเท่านี้ไม่มีลาว 

ผมเชื่อถือ US News and World Report มากกว่า เพราะมีวิธีวิทยาที่ชัดเจนและทำงานกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก ไม่เหมือน World Population Review ที่มั่ว และอ้างผลงานคนอื่นแบบไม่มีที่มาที่ไป

พูดง่ายๆ คืออ้างชื่อสถาบันดังเอามาเป็น "ไม้กันหมา" เวลาคนสงสัย เผอิญว่าคนที่เข้าเว็บไซต์และเชื่อข้อมูลพวกนี้ไม่ค่อยสงสัยเสียด้วย

แต่ผมสงสัย และพบว่ามันไม่มีรากฐานความน่าเชื่อถือใดๆ เลย

World Population Review ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และคนที่มีความสงสัยก็ชี้ให้เห็นถึงความทะแม่งๆ ของมันทุกครั้งไป 

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ มันไม่ได้อธิบาย Methodology หรือวิธีวิทยาในการจัดอันดับ พูดง่ายๆ ก็คือ นี่เป็นการ "นั่งเทียนเขียนเอง" เอาง่ายๆ 

ในเว็บไซต์มีหน้าสำหรับ Methodology เอาไว้รวมๆ แต่ก็เป็นการพรรณนาแบบน้ำท่วมทุ่งโดยไม่ได้บอกวิธีการอะไรเลย และใช้วิธีอ้างสถาบันดังๆ มาสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง แต่ก็ไม่ได้บอกว่าหยิบข้อมูลอะไรของเขามาแล้วทำอย่างไรกับข้อมูลนั้น

พูดสั้นๆ ก็คือ ใครที่รู้วิธีการแบบวิชาการ เห็นการทำงานแบบ World Population Review แล้วคงได้แต่ร้องว่า "เด็กมัธยมปลายเมืองไทยยังทำได้ดีกว่านี้เป็นพันเท่า"

ไม่เชื่อลองไปตรวจสอบดูได้ครับ แล้วจะทราบว่าที่เล่นๆ ข่าว "การศึกษาไทยตกต่ำ" กันอยู่นี้เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ

ผมอยากจะพูดเรื่องวิธีวิทยาใจจะขาด แต่ผมหากระบวนการของเขาไม่เจอ ไม่อย่างงั้นคงไม่ต้องเสียเวลามา "บ่น" แบบนี้  

เหมือนกับการทำ Ranking ของสื่อนอกระดับล่างๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่ได้อ้างอิงอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เอาแต่อารมณ์ความชอบเป็นหลัก แต่คนชอบดูและไลค์ เพราะมันช่วยย่อยคอนเทนต์ให้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นคอนเทนต์ที่ไร้สาระก็ตาม

แต่เรื่องการศึกษามาทำเป็นเล่นๆ ไม่ได้การจัดอันดับมันจะต้องมีวิธีที่แม่นยำอย่างมาก เพราะกระทบต่อการพัฒนาของประเทศนั้นๆ 

เช่นกัน สื่อที่ "งับ" เรื่องนี้ก็ไม่ควรงับแล้วงับเลย ถ้าสื่อไทยสนใจที่จะขุดคุ้ยสักหน่อยก็คงจะไม่เอาข้อมูลที่เลื่อนลอยของเว็บไซต์นี้มาเผยแพร่ เพราะมันบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อมวลชน และทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของ "การปฏิเสธการวิจารณ์" ว่าการศึกษาของไทยไม่ได้ แต่ปัญหาคือ  "มันไม่ดีตรงไหน?" ซึ่ง Ranking นี้ไม่ได้ชี้ไว้ และยังไม่บอกกระบวนการเก็บข้อมูลด้วยซ้ำ ดังนั้นในเมื่อมันเป็นความเท็จ ก็ไม่ควรจะยกขึ้นมาอภิปราย เพราะการอภิปรายควรตั้งอยู่บนดาต้าและความจริง

แน่นอนว่า "เรารู้สึก" ว่าการศึกษาไทยไม่ได้ก้าวหน้าไปไหนได้ แต่เราจะเอาความรู้สึกมาเป็นธงนำในการเลือกข้อมูลไม่ได้ เพราะหากเราคิดว่าประเทศเราแย่โดยไมีข้อมูลมารองรับ ผลที่จะตามมาคือเราจะ "กระโดดงับ" ความเท็จเอาง่ายๆ 

เช่นเดียวกับกรณีความมโนเรื่อง "การศึกษาไทยแย่กว่าลาว" 

บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better

TAGS: #การศึกษาไทย #ลาว #Ranking