ทางการเวียดนามกล่าวว่ามีแผนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าหลายประเภท เช่น รถยนต์ ก๊าซธรรมชาติเหลว และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบางประเภท ในช่วงเวลาที่ความกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการตอบโต้ด้วยภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้น
มีการประกาศบนเว็บไซต์ของกระทรวงการคลังเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมาเกี่ยวกับการลดภาษีในครั้งนี้ ซึ่งเป็นท่าทีที่เกิดขึ้นไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากที่นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิญ จิ๊ญกล่าวว่าเวียดนามกำลังทบทวนภาษีนำเข้าเพื่อกระตุ้นให้มีการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น
เวียดนามเป็นประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าสูงเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและเม็กซิโก
ดังนั้น มีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าเวียดนามอาจเป็นเป้าหมายต่อไปของภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบสะเทือนตลาดทั่วโลก
ตามแถลงการณ์ของกระทรวงการคลัง ภาษีนำเข้ารถยนต์บางรุ่นจะลดลงครึ่งหนึ่ง และอัตราภาษีสำหรับก๊าซธรรมชาติเหลวจะลดลงจาก 5% เหลือเพียง 2%
นอกจากนี้ภาษีนำเข้าสินค้าอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น น่องไก่แช่แข็ง อัลมอนด์ เชอร์รี่หวาน ลูกเกด และไม้ จะถูกหักลดภาษีออกด้วย
การเปลี่ยนแปลงด้านอัตราภษาที่คาดว่าจะนำไปปฏิบัติจริงภายในเดือนนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ "รับมือกับการพัฒนาที่ซับซ้อนและไม่สามารถคาดเดาได้ของสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงในนโยบายเศรษฐกิจ การค้า และภาษีศุลกากร" แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ
นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้อง "รับรองการปฏิบัติที่เป็นธรรมระหว่างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมของเวียดนาม" แถลงการณ์ดังกล่าวอ้างคำพูดของเหงียน ก๊วก หุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและกำกับดูแลภาษี
เมื่อวันพุธ เวียดนามยังกล่าวอีกว่าจะอนุญาตให้ SpaceX ของอีลอน มัสก์เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องที่จะดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปี 2030
รัฐบาลระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์ว่าไม่มีการจำกัดการเป็นเจ้าของบริการของชาวต่างชาติ
สหรัฐฯ และเวียดนามกลายเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมในปี 2023
ในเดือนนี้ นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิญ จิ๊ญได้กล่าวกับมาร์ก แนปเปอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ว่าเวียดนาม "กำลังดำเนินการแก้ไขข้อกังวลปัจจุบันของสหรัฐฯ ในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนอย่างแข็งขัน" รวมถึงการส่งเจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ
สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับเวียดนามมีมูลค่า 123,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 เพิ่มขึ้นมากกว่า 18% จากปี 2023
เวียดนามเป็นประเทศผู้ผลิตที่พึ่งพาการส่งออกเป็นอย่างมาก และสหรัฐฯ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามในปีที่แล้ว
Agence France-Presse
Photo by Nhac NGUYEN / AFP