Sex Worker หวังรัฐบาลใหม่ ผลักดันค้าประเวณีถูกกฎหมาย

Sex Worker หวังรัฐบาลใหม่ ผลักดันค้าประเวณีถูกกฎหมาย
Sex Worker ไทยคุยสื่อนอก หวังรัฐบาลใหม่หนุน "เศรษฐกิจสีเทา" สร้างสวัสดิการ-ลบสังคมตีตรา

เว็บไซต์นิเกอิ เอเชีย รายงานว่า ท่ามกลางบรรยากาศโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปของไทยในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ นอกจากประเด็นปัญหาปากท้องที่บรรดาพรรคการเมืองหาเสียง ช่วงชิงคะแนนกันอย่างดุเดือดแล้ว อีกหนึ่งภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยไม่แพ้กันคือ "เศรษฐกิจสีเทา" โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าบริการ (Sex Worker) ที่หวังให้พรรคการเมืองช่วยผลักดันสิทธิและสวัสดิการแก่ผู้ค้าบริการในไทย ซึ่งถือว่ามีส่วนในการสร้างเศรษฐกิจไทยอยู่ไม่น้อย

กลุ่มผู้ค้าบริการทางเพศจำนวนมาก อาทิ Empower Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในท้องถิ่นที่รณรงค์เพื่อสิทธิของผู้ให้บริการทางเพศ เผยกับสื่อญี่ปุ่นว่า พวกเขาคาดหวังให้พรรคการเมืองที่มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลใหม่ ผลักดันกฎหมายเพื่อรับรองให้บรรดาผู้ค้าบริการสามารถมีสิทธิและผลัดดันให้การค้าบริการถูกกฎหมายภายใต้กฎหมายที่มีการควบคุม ลบการถูกตีตราจากสังคม

ที่ผ่านมามีการร่างกฎหมายหลังจากการหารือมายาวนาน เพื่อผลักดันให้การค้าประเวณีหรือที่รู้จักกันว่าเป็น "เศรษฐกิจสีเทา" เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ พร้อมให้สิทธิสวัสดิการเท่าเทียมสำหรับผู้ให้บริการทางเพศทั้งหญิง ชาย และคนข้ามเพศ ซึ่งกฎหมายนี้มีเป้าหมายเข้ามาแทนที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีที่มีอยู่ซึ่งประกาศใช้ในปี 2539 และมองว่าการค้าประเวณีที่เป็นอาชญากร

หนึ่งในผู้ทำอาชีพขายบริการทางเพศมากว่า 20 ปี ทั้งเป็นหัวคะแนนให้พรรคการเมืองแห่งหนึ่ง เผยต่อสื่อญี่ปุ่นว่า เธอมีความหวังว่ากระแสการเมืองจะเปลี่ยนไป พรรคการเมืองทุกพรรคที่สามารถ Empower ผลักดันที่จะยกเลิกกฎหมายตีตราอาชีพค้าประเวณี เธอกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คือความหวังของคนที่ทำอาชีพค้าบริการ ในการยุติการถูกตีตราในธุรกิจ 'มืด' และผู้ขายบริการทางเพศจะได้ไม่ต้องหนีการถูกจับจากตำรวจเสียที

นิเกอิ ระบุว่า นอกจากภาคประชาสังคมที่ผลักดันให้มีการยกเลิกกฎหมายดังกล่าวแล้ว หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็มีแนวโน้มสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเช่นกัน สะท้อนถึงความรู้สึกนึกคิดในระบบราชการอนุรักษ์นิยมของไทยที่เริ่มเปิดกว้างและเปลี่ยนแปลง

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยให้การสนับสนุนในการยอมรับของอุตสาหกรรมทางเพศมากกว่าครั้งไหนๆ สะท้อนถึงแนวคิดแบบเสรีนิยมที่มีมากขึ้นในสังคมซึ่งก็สะท้อนในรูปแบบคะแนนนิยมของบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่กำลังมาแรงในช่วงโค้งสุดท้ายเช่นกัน 

“ในกฎหมายปี 2539 การให้บริการขายบริการทางเพศเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่กฎหมายใหม่ยอมรับบริการเหล่านี้และความจำเป็นของสถานที่ที่ให้บริการขายบริการทางเพศที่ต้องจดทะเบียน” ณรงค์ ใจหาญ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวต่อนิเกอิ 

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมค้าบริการในไทยถูกมองว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของผู้มีอิทธิพลและอาชญากร แต่แม้จะถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมใต้ดิน แต่ธุรกิจรูปแบบนี้กลับพบอยู่เกลื่อนกลาดและเป็นที่รู้จักอย่างดีในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งนั่นหมายถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลที่ยังไม่ถูกนำขึ้นมาอยู่บนดินอย่างถูกกฎหมาย

งานวิจัยในปี  2558 โดย Havocscope ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตลาดมืดทั่วโลก ประเมินว่าอุตสาหกรรมทางเพศของไทยมีมูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งในขณะนั้นคิดเป็นประมาณ 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ขณะที่นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (Thailand Development Research Institute) ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังความคิดด้านนโยบายสาธารณะ ตั้งข้อสังเกตเมื่อปีที่แล้วว่า "อุตสาหกรรม Sex Worker นับว่ามีส่วนร่วมอย่างมากต่อภาคการท่องเที่ยวและบริการ แต่ยังไม่ได้รับการยอมรับในระบบเศรษฐกิจไทย" นักวิจัยไทยและต่างประเทศหลายคนประเมินว่ามีผู้ให้บริการทางเพศระหว่าง 250,000 ถึง 300,000 คนในประเทศ ซึ่งจัดอยู่ในอันดับ 8 ของโลก

แม้บรรดาผู้ค้าบริการและหน่วยงานของรัฐจะให้กระแสตอบรับเชิงบวก แต่ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของอาบอบนวดชื่อดัง กล่าวกับ Nikkei Asia สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น โดยเขามองว่า "สถานการณ์ตอนนี้มีช่องว่างให้คอร์รัปชัน – ให้เจ้าหน้าที่ทำเงิน พวกเขาต้องการแบบนั้น ปิดตาหนึ่งข้างแล้วเปิดอีกตาหนึ่งเพื่อหาเงินและเพื่อให้ระบบดำเนินต่อไป"

ผู้ให้บริการทางเพศอย่าง ใหม่ (นามสมมติ) หวังว่าคนอื่นๆ ในสังคมไทยจะเห็นอกเห็นใจต่อชะตากรรมของคนเช่นเธอมากขึ้น ปัจจุบันเธออายุ 30 ปีและทำงานในอุตสาหกรรมนี้มานานนับสิบปี และสนับสนุนอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาเรียกร้อง “ฉันต้องการให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้ให้บริการทางเพศ” เธอกล่าว "เราควรได้รับการยอมรับในฐานะคนงานทั่วไปและสามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย"

TAGS: #ค้าบริการทางเพศ #Sex #Worker #ค้าประเวณี #เลือกตั้ง2566