ซีอีโอ Agoda เชื่อมั่นกรุงเทพฯ สามารถผงาดเป็น "ซิลิคอนแวลลีย์" แห่งใหม่ของเอเชียได้ เมืองมีศักยภาพเอื้อคนทำงานสายเทคโนโลยี
ออมรี มอร์เกนชเทิร์น (Omri Morgenshtern) ซีอีโอของ Agoda แพลตฟอร์มจองโรงแรมและการท่องเที่ยว ระดับโลก ได้เขียนบล็อกแสดงมุมมองว่าบนเว็บไซต์ LinkedIn เกี่ยวกับมุมมองการของแรงงานสายเทคโนโลยีในกรุงเทพมหานคร โดยเขามองว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองที่มีศักยสูงสำหรับการพัฒนางานสายเทคโนโลยีจนกล่าวได้ว่า ในอนาตตกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงในการผงาดขึ้นเป็นหนึ่งในซิลิคอนแวลลีย์แห่งใหม่ของเอเชีย
ซีอีโอ Agoda ระบุว่า เมื่อเขาร่วมงานกับ Agoda คราวที่เป็นบริษัทสตาร์ทอัพเมื่อปี 2013 เขาเองก็ตั้งคำถามว่าเหตุใด Agoda จึงตั้งสำนักงานหลักอยู่ในประเทศไทย กระทั่งจนถึงวันนี้ เขาเข้าใจแล้วว่ากรุงเทพเสมือนเพชรเม็ดงามของอุตสาหกรรมสายเทคโนโลยี และก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนความสำเร็จอันน่าทึ่งของอโกด้าตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมา
มอร์เกนชเทิร์น ระบุว่า เมื่อผู้ก่อตั้งดั้งเดิมอย่าง Robert Rosenstein และ Michael Kenny ได้จัดตั้งสำนักงานหลักของ Agoda ในกรุงเทพฯ พวกเขาได้เดิมพันว่าการผสมผสานความสามารถในท้องถิ่นเข้ากับเสน่ห์ทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยจะช่วยให้พวกเขาก้าวไปสู่ความเป็นเลิศได้ อย่างน้อยก็ในช่วงเริ่มต้นของบริษัท ผ่านมาปัจจุบันปี 2566 Agoda มีพนักงานประมาณ 3,000 คนในประเทศไทย จำนวนนี้กว่า 1,500 คน เป็นวิศวกรและบุคลากรด้านผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
สิ่งที่ทำให้ Agoda แตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ คือความมุ่งมั่นของเราที่จะก้าวล้ำในด้านเทคโนโลยี คำพูดที่ว่า "Silicon Valley in Bangkok" ไม่ใช่แค่ฝัน แต่ตอนนี้กรุงเทพฯเต็มไปด้วยนักพัฒนา นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และบุคลากรด้านผลิตภัณฑ์ของเรามาจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุด อาทิ Google, Meta หรือแม้แต่ Open AI นอกจากนี้ การที่กรุงเทพฯ มีที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากเมืองเทคโนโลยีหลักของโลก อย่าง ซานฟรานซิสโก, นิวยอร์ก, ลอนดอน และเทลอาวีฟ ทำให้พนักงานสายเทคโนโลยีในกรุงเทพฯ มีแรงผลักดัน อยากพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เทียบเท่าเมืองเทคโนโลยีหลักของโลก ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เรียกว่า Fear of Missing Out (FOMO) หรือความกลัวการตกขบวน
มอร์เกนชเทิร์น ยังสรุปปัจจัยอื่นๆ ที่กรุงเทพได้สนับสนุนให้ Agoda ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ว่า
1.กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคนเก่ง โดยซีอีโอ Agoda มองว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่ดี เป็นเมืองที่มีคนเก่ง มีความทะเยอะยานและความมุ่งมั่นสูง ซึ่งเป็นทัศนคติที่มีความสำคัญมาก ขณะเดียวกันกรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวบรวมคนที่มีความสามารถ และความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก
2. กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่กลมกลืนระหว่างความเป็นตะวันตกและตะวันออก การที่ Agoda มีพนักงานจากซีกโลกตะวันตก และตะวันออก นั่นคือความหลากหลายที่นำไปสู่ "ไอเดีย" และ "องค์ความรู้" ใหม่ๆ อยู่เสมอ
3. กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ออมรี เผยว่าจากประสบการณ์ของเขาที่ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง ที่มีความพยายามผลักดัน ให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองศูนย์กลางทางเทคโนโลยี ตลอดจนให้การสนับสนุนดึดดูด รักษา เสริมทักษะคนเก่ง รวมถึงการขับเคลื่อนนวัตกรรมภายในกรุงเทพฯ
ซีอีโอ Agoda ทิ้งท้ายว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีการเติบโตของ "ชุมชน" ธุรกิจสตาร์ทอัพในระดับสูง จากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม รวมถึงการดึงดูเม็ดเงินการลงทุนในด้าน R&D จากต่างชาติได้อยู่เสมอ สิ่งนี้ทำให้เขาเชื่อเป็นอย่างยิ่ง ว่า "กรุงเทพฯ จะได้รับการกล่าวถึงในระดับเดียวกับเมืองชั้นนำอย่าง ซานฟรานซิสโก เซี่ยงไฮ้ และเทลอาวีฟ ในอนาคตอันใกล้นี้"