ผู้นำยูกันดาเซ็นกฎหมายใหม่ ‘ต่อต้าน LGBTQ’ ไม่สนนานาชาติวิจารณ์ ไบเดนนำตะวันตกคว่ำบาตร

อัลจาซีราห์รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ประธานาธิบดีโยเวรี มูเซเวนี ผู้นำยูกันดา ลงนามใช้ฎหมายต่อต้านกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ที่มีความรุนแรงที่สุดฉบับหนึ่งของโลก โดยไม่สนเสียงวิจารณ์จากนานาชาติ ตลอดจนนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษย์

นายโยเวรี มูเซเวนี ประธานาธิบดีของยูกันดา ได้ลงนามรับรองกฎหมายต่อต้านความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ที่รุนแรงที่สุดฉบับหนึ่งของโลก ตามรายงานจากโฆษกของประธานาธิบดีมูเซเวนีเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ไม่สนใจเสียงประณามจากนานาชาติ บริษัทต่างๆ และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน

ภายใต้กฎหมายใหม่ของยูกันดา มุ่งเป้าไปที่กลุ่ม LGBTQ โดยการกำหนดโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรม ‘รักร่วมเพศ’ และกำหนดโทษจำคุก 20 ปี แก่ผู้ที่สนับสนุนกลุ่มรักร่วมเพศ หากมีการหาคน โปรโมต และจัดหาทุนยสนับสนุนกิจกรรมของเพศเดียวกัน และใครก็ตามที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐาน พยายามทำให้ปัญหาการรักร่วมเพศรุนแรงขึ้น จะต้องเผชิญกับโทษจำคุก 14 ปี 

 “ประธานาธิบดีได้ยอมรับพระราชบัญญัติต่อต้านการรักร่วมเพศแล้ว ในฐานะรัฐสภายูกันดา เราได้ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของประชาชน เราได้ออกกฎหมายเพื่อปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ของครอบครัว ... เรายืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องวัฒนธรรมของเรา” ประธานรัฐสภายูกันดาประกาศหลังได้รับการอนุมัติกฎหมายดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ ช่วงที่รัฐสภายูกันดากำลังพิจารณากฎหมายดังกล่าว บรรดาประชาคมโลกทั้งสหภาพยุโรป สหประชาชาติ และภาคเอกชน ได้ออกมาประณามกฎหมายดังกล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศยูกันดาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและทำให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบ

เช่นเดียวกับผู้นำสหรัฐ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกแถลงการณ์ต่อต้านกฎหมายเกย์ของยูกันดาว่า สหรัฐอาจคว่ำบาตรยูกันดา เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวสะท้อนถึงทิศทางของสิทธิมนุษยชนที่แย่ลงอย่างมากในยูกันดา ซึ่งสหรัฐจะต้องประเมินผลกระทบจากกฎหมายดังกล่าวต่อการมีส่วนร่วมของสหรัฐในยูกันดาในทุกมิติ ซึ่งรวมถึง การลงทุน และการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ของสหรัฐ

สำหรับยูกันดา เป็นประเทศที่พลเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ซึ่งมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่งในประเด็นความหลากหลายทางเพศหากเทียบกับชาติอื่นในแถบแอฟริกาด้วยกัน