เอลนีโญทำโลกอากาศแปรปรวนสุดขั้วตลอดปีนี้ เสี่ยงทำสินค้าเกษตรทั่วอาเซียนได้รับผลกระทบ
รอยเตอร์รายงานว่า องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ (NOAA) เปิดเผยรายงานว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังจะกลับมาอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งมีแนวโน้มทำให้เกิดสภาพอาการแปรปรวนสุดขั้วตลอดทั้งปี ตั้งแต่พายุไซโคลนเขตร้อนที่จะพัดเข้าหมู่เกาะแปซิฟิก ไปจนถึงฝนตกหนักในอเมริกาใต้ ตลอดจนภัยแล้งในออสเตรเลียและบางพื้นที่ในเอเชีย
NOAA ระบุในรายงานว่า หลังจากที่โลกเผชิญภาวะลานีญามา 3 ปี ซึ่งทำให้อุณหภูมิโลกเย็นลงเล็กน้อย ขณะนี้โลกกำลังจะเผชิญสภาวะเอลนีโญแทนที่แล้ว ซึ่งทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น สำหรับสภาวะเอลนีโญเกิดจากน่านน้ำที่อุ่นผิดปกติในแปซิฟิกตะวันออกใกล้ชายฝั่งอเมริกาใต้ และมักจะตามมาด้วยการชะลอตัวหรือการผกผันของอุณหภูมิแถบลมค้า (trade wind) ที่พัดมาจากทางตะวันออก
"ช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เรากำลังเจอภาวะเอลนีโญอ่อนๆ เริ่มปรากฏให้เห็นเนื่องจากอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วบริเวณเส้นศูนย์สูตรของมหาสมุทรแปซิฟิก" NOAA ระบุในรายงาน
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ปรากฎการณ์เอลนีโญรุนแรง อาจกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะน้ำตาลในอินเดียและไทย และอาจกระทบต่อการเก็บเกี่ยวอ้อยในบราซิล เนื่องจากพื้นที่ปลูกพืชอยู่ในแถบศูนย์สูตรซึ่งเป็นส่วนที่จะได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศแปรปรวนมากที่สุด
นอกจากนี้ เวียดนามซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่อันดับสองของโลก อาจได้รับความเสี่ยงจากเอลนีโญด้วย เช่นเดียวกับการผลิตน้ำมันปาล์มและข้าวในอินโดนีเซีย, มาเลเซีย และในประเทศไทย เนื่องจากภาวะฝนที่ตกหนักและลมกรรโชกแรงผิดปกติ ทำให้พืชผลปาล์มน้ำมันในภูมิภาคดังกล่าวได้รับความเสียหาย