เบื้องหลังสู่ Phuket Expo 2028 ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพ ลุ้นนานาชาติโหวต 21 มิ.ย.นี้

เบื้องหลังสู่ Phuket Expo 2028 ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพ ลุ้นนานาชาติโหวต  21 มิ.ย.นี้
ไทยโรดโชว์นานาชาติพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก 'Phuket Expo 2028' ลุ้นโค้งสุดท้าย 124 ประเทศสมาชิก BIE โหวตตัดสิน 21 มิ.ย.นี้

นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยต่อทีม The Better ถึงความพร้อมในโค้งสุดท้ายของการเสนอชื่อประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต หรือ Phuket Expo 2028 ซึ่งขณะนี้ไทยอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายในการเสนอความพร้อมต่อต่อคณะกรรมการองค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE) ที่ประกอบด้วยชาติสมาชิก 124 ชาติ ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ณ ประเทศฝรั่งเศส โดยหากภูเก็ตได้รับเลือกจะช่วยยกระดับให้เมืองภูเก็ตกลายเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติและแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก 

 

ทำไมต้องจัด Phuket Expo 

อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อธิบายย้อนหลังถึงที่ความสำคัญของการเป็นเจ้าภาพ Expo ว่า ประเทศไทยเข้าร่วมงาน Expo ตั้งแต่ปี 1862 ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินสยามภายใต้รัชสมัยสมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย กับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของไทยในเวทีโลกที่มีมาอย่างยาวนานที่ไทยเข้าร่วมตลอดทุกปี

ปัจจุบันการจัดงานมหกรรมโลก (International des Expositions) แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ เวิลด์เอ็กซ์โป (World Expo) หรืองานนิทรรศการโลกที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ชาติล่าสุดทีจัดคือ เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซึ่งเป็นระดับใหญ่ที่สุด

ระดับสองคือ เอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialised Expo) หรืองานแสดงสินค้าเฉพาะทาง ซึ่งมีแนวคิดการจัดงานในรูปแบบที่ชัดเจนแตกต่างกันไปในแต่ละเจ้าภาพเช่น งานเอ็กซ์โป 2017 อัสตานา บนแนวคิด'พลังงานแห่งอนาคต', งานเอ็กซ์โป 2012 ยอซู  บนหัวข้อ'มหาสมุทรที่มีชีวิตและชายฝั่ง' เป็นต้น จัดขึ้นทุกๆ 5 ปีระยะเวลางาน 3 เดือน

ระดับสามคืองานเอ็กซ์โประดับท้ายสุด ในด้านพืชและความหลากหลายทางชีวภาพ ( International Horticulture Exposition) ซึ่งไทยเคยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพมาแล้วในงานพืชสวนโลกที่จัดหวัดเชียงใหม่เมื่อปี 2006 

สำหรับ Phuket Expo 2028 ที่ภูเก็ตเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ถือเป็นการจัดงานเอ็กซ์โปในระดับที่ 2 คือ เอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialised Expo) โดยไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานในธีม  "ชีวิตแห่งอนาคต-แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่ง" (Future of Life : Living in Harmony, Sharing Prosperity) ซึ่งหากไทยได้รับเลือกจะถือเป็นชาติในอาเซียนประเทศแรกที่ได้รับเป็นเจ้าภาพเอ็กซ์โประดับนี้

นายเชิดชาย อธิบายว่า เหตุที่ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพพร้อมเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงาน เนื่องจากภูเก็ตมีจุดเด่นสำคัญ 2 ประการคือ ความเป็นเอกลักษณ์ในท้องถิ่นของภูเก็ตที่ทุกอย่างเข้าถึงได้ง่าย และเป็นเมืองสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย จึงทำให้ภูเก็ตมีทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมและมีศักยภาพสูง ประกอบกับเป็นโอกาสชั้นดีในการช่วยฟื้นการท่องเที่ยวเมืองภูเก็ตนับตั้งแต่ได้รับผลกระทบจากโควิดที่ทำให้การท่องเที่ยวเมืองภูเก็ตชะงักลง  โดยหลังจากที่ครม.เห็นชอบเมื่อ 16 พ.ย.2564  ให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด Expo 2028 Phuket  พร้อมอนุมัติงบประมาณสำหรับคณะทำงาน 4,180 ล้านบาท กระทรวงการต่างประเทศในฐานะหนึ่งในผู้มีบาบาทสำคัญในมิติต่างประเทศ ได้ดำเนินการรณรงค์หาเสียงต่อชาติสมาชิก BIE ทั้ง 124 ประเทศในการขอคะแนนเสียงโหวตให้ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัด Expo 2028


เบื้องหลังไทยโร้ดโชว์เวทีโลก

นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เปิดใจถึงความท้าทายของคณะทำงานในกระทรวงต่างประเทศว่า ช่วงเวลาที่ไทยมีแผนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพนั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไทยเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน APEC 2022 ซึ่งเป็นทั้งความท้าทายและเป็นทั้งโอกาสดีทีทำให้ไทยได้ใช้จังหวะการต้อนรับผู้นำชาติเขตเศรษฐกิจทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ที่กรุงเทพฯ ในการรณรงค์หาเสียงแบบปูพรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 

"เราไปที่อินเดีย โตเกียว กัวลาลัมเปอร์ บรัสเซลส์ และจีน เพื่อประสานงานสถานทูตชาติสมาชิก BIE ที่ไม่ได้สถานทูตอยู่ในประเทศไทยเพื่อรณรงค์หาเสียงนำเสนอความพร้อมของไทยในฐานะเจ้าภาพมาอย่างต่อเนื่อง เป็นกระบวนการที่เราทำเต็มทีในการสื่อสารว่าความสำคัญของเมืองภูเก็ตคืออะไร เราพยายามทำอย่างดีที่สุดภายใต้ข้อจำกัดด้านระยะเวลาและงบประมาณ"

"ผมคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้เราก็ทำเต็มที่ แต่มันก็ยากที่จะคาดเดาผลของการโหวต ส่วนหนึ่งเพราะการโหวตแบบนี้เป็นการโหวตแบบลับ โดยธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา ประเทศที่เค้าจะโหวตให้เรา เค้าจะแจ้งยืนยันมาก็ได้ หรือไม่แจ้งก็ได้ ฉะนั้นการจะนับคะแนนจริงๆ เป็นเรื่องลำบาก"

นอกจากประเทศไทยที่เสนอเมืองภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัด Specialised Expo 2028 ไทยยังต้องเจอคู่แข่งสำคัญ 4 ชาติ  ที่ร่วมเสนอชื่อเป็นเจ้าภาพจัด Specialised Expo 2028 เช่นกันคือ สหรัฐอเมริกา เซอร์เบีย สเปน และอาร์เจนตินา (รวมไทยเป็น 5 ชาติ)

ความท้าทายของการสมัครในครั้งนี้คือ ในบรรดา 5 ชาติทีสมัครครั้งนี้ มี 2 ชาติที่เป็นตัวเก็งสำคัญเพราะเคยได้รับเลือกจัดงาน Specialised Expo มาแล้วคือ สหรัฐฯและอาร์เจนตินา ขณะเดียวกันหากดูในรายชื่อทั้ง 5 ชาติ จะมี 2 ชาติที่มีการแชร์อิทธิพลด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภาษาเดียวกันคือ สเปนกับอาร์เจนตินา ขณะที่สหรัฐอเมริกาก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นชาติมหาอำนาจที่สนับสนุนความช่วยเหลือด้านต่างๆ บนเวทีโลกอย่างต่อเนื่อง 

อีกหนึ่งความท้าทายคือรูปแบบการลงคะแนนเป็นลักษณะ Secret Ballot ทำให้คาดการณ์ได้ยากว่าใครจะเลือกไทยบ้าง ขณะที่ชาติสมาชิก BIE ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกา ซึ่งไทยมีข้อจำกัดในการประสานงานและไทยไม่ได้มีสำนักงานสถานทูตในประเทศเหล่านั้นโดยตรง ความท้าทายอีกส่วนคือปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ทำให้บุคลากรไทยดำเนินงานได้น้อยลงเพราะต้องเตรียมส่งต่อรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศในฐานะหนึ่งในคณะทำงานสำคัญ แสดงความมั่นใจว่า ช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลใหม่ไม่มีผลต่อแผนการดำเนินโครงการนี้

"พอเราเห็นรายชื่อประเทศเราก็คงตระหนักได้ว่า แต่ละชาติก็จะมีศักยภาพสูงในแต่ละด้านที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องบังเอิญที่ในปีนี้ มีประเทศคู่แข่งลงชิงหลายชาติ แต่บางปีก็แทบไม่มีคนสมัครเลย แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมขอย้ำประเด็นสำคัญ ไม่ว่าไทยจะได้รับเลือกหรือไม่รับเลือกก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นภูเก็ตก็ได้รับการพัฒนาเมืองไปตามที่เราวางแผนไว้ ไม่ว่าเราจะได้รับเลือกหรือไม่ก็ตาม" 


ไทยจะได้อะไรหากได้รับเลือกจัด Phuket Expo

นายเชิดชาย อธิบายถึงแนวคิดการจัดงาน  Phuket Expo 2028 ว่าหากไทยได้รับคัดเลือก จะใช้พื้นที่บริเวณหาดไม้ขาว ทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ตบนเนื้อที่ 141 ไร่ในโครงการ "ศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจร ของรพ.วิชิระภูเก็ต เป็นสถานที่จัดงาน มีระยะเวลาจัดงานระหว่าง 20 มี.ค.-17 มิ.ย. 2571  โดยแบ่งพื้นที่เป็น  3 ส่วนคือ International Health   & Wellness Center ผลักดันสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของอาเซียน, ส่วนที่ 2 คือ Ecological Park ที่ผลักดันเรื่องการสร้างเศรษฐกิจสีเขียวร่วมกับชุมชน และส่วนที่ 3 คือการสร้าง Convention Center ที่มีพื้นที่รองรับการจัดงานอีเว้นต์กว่า 37,000 ตารางเมตร ซึ่งทั้งหมดจะสร้างบนแนวคิดความยั่งยืนที่ใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 100% 

อธิบดีฯ ย้ำว่าหากไทยได้รับเลือก สิ่งที่คาดว่าได้รับคือเมืองภูเก็ตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ประเมินว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนไม่น้อกว่า 49,000 ล้านบาท และสร้างงานกว่า 110,000 ตำแหน่ง จากผู้เข้าชมงานกว่า 7.2 ล้านครั้ง หรือราว 4.9 ล้านคน มีสมาชิกบีไออีเข้าร่วมมากกว่า 100 ประเทศ

สิ่งที่ไทยลงทุนไปในพื้นที่ดังกล่าวจะยังคงอยู่อย่างยั่งยืนส่งต่อเป็นมรดกสู่ลูกหลานในอนาคต สถานที่หลังจากการจัดงานไม่ศูนย์เปล่า แต่จะถูกต่อยอดเป็นศูนย์การแพทย์ ศูนย์ประชุมและสวนสาธารณะที่ใช้งานได้ต่อไปบนแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อธิบดีฯ ย้ำว่า ท้ายที่สุดในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ไม่ว่าภูเก็ตจะได้รับเลือกหรือไม่ สิ่งที่เราจะได้อย่างแน่นอนคือ การที่ไทยแสดงให้เห็นความสามารถในการผลักดันแนวคิดจาก Local to Global ในกรณีนี้คือการโชว์ศักยภาพของภูเก็ตอย่างมีนัยยะสำคัญ บนวาระเรื่องความยั่งยืน นอกเหนือจากที่นานาชาติรู้จักภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวของไทยขับเคลื่อนสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติและแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก  

TAGS: #Phuket #Expo #ภูเก็ตเอ็กซ์โป #ภูเก็ต #ไทย #เจ้าภาพ #ฝรั่งเศส #กระทรวงการต่างประเทศ