70 ชั่วโมงชีวิต! ระดมกำลังค้นหาเรือดำน้ำสำรวจซากไททานิกสูญหายกลางทะเลแอตแลนติก พร้อม 5 ผู้โดยสาร ‘GPS-วิทยุ’ ไม่ทำงาน ทะเลคลื่นลมแรงอุปสรรคใหญ่
เกิดเหตุเรือดำน้ำท่องเที่ยวเพื่อชมซากเรือไททานิกสูญหายสูญหายกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อ 18 มิ.ย.ผ่านมา โดยหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐยืนยันว่า ฃาเรือดำน้ำดังได้ขาดการติดต่อหลังดำลงไปใต้ทะเลราว ๆ 1.45 ชม. ระหว่างพานักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งดำดิ่งลงไปชมซากเรือไททานิกซึ่งอับปางลงเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ห่างจากทางตอนใต้ของเมือง เซนต์จอห์นส์ รัฐนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดาประมาณ 700 กิโลเมตร
พล.ร.ต.จอห์น มอเกอร์ (Rear Admiral John Mauger) หัวหน้าหน่วยยามฝั่งเขตหนึ่งของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า เบื้องต้นมีการส่งทีมค้นหาทั้งทางทางอากาศ ทางเรือ พร้อมส่งทุ่นโซนาร์ค้นหาบริเวณจุดที่เรือไททานิคอับปางรวมถึงบริเวณใกล้เคียง แต่พื้นที่การค้นหาอยู่ในระยะไกล จึงทำให้การค้นหาเป็นไปได้โดยยาก
ด้านโอเชียนเกต เอ็กส์เพดิชันส์ (OceanGate Expeditions) บริษัทเจ้าของเรือดำน้ำไททันที่สูญหาย ระบุว่าเรือดำน้ำดังกล่าวมีขนาดเท่ากับรถบรรทุก สามารถจุผู้โดยสาร 5 คน และมีออกซิเจนเพียงพอที่จะดำน้ำได้นาน 96 ชั่วโมง (ราว 4 วัน) ซึ่งหากนับจนถึงเวลาที่สูญหาย ขณะนี้คาดว่าเหลือออกซิเจนสำหรับคนบนเรือได้ราว 70 ชั่วโมง
สำหรับความคืบหน้าในการค้นหาเรือดำน้ำไททันที่สัญญาณขาดหายไปนานกว่า 24 ชั่วโมง ล่าสุดการค้นหายังคงดำเนินต่อไปแข่งกับเวลา เร่งช่วยเหลือผู้โดยสาร 5 ชีวิต โดยบริษัทเจ้าของเรือยอมรับว่าอุปสรรคสำคัญของภารกิจนี้คือ ระบบสัญญาณ GPS และวิทยุสื่อสารใต้น้ำไม่ตอบสนอง ขณะที่หน่วยยามฝั่งสหรัฐกับแคนาดายอมรับว่า ปัจจัยด้านคลื่นลมทะเลเป็นอุปสรรคสำคัญของการค้นหา
ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าหนึ่งในผู้โดยสารบนเรือดำน้ำไททันที่สามารถยืนยันได้คือ นายเฮมิช ฮาร์ดิง (Mr.Hamish Harding) มหาเศรษฐีชาวอังฤษ ประธานบริษัทสายการบิน บริษัทแอคชั่น อวิเอชั่น (Action Aviation) เป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สูญหายไปด้วย
ทั้งนี้ บริษัทโอเชียนเกต ให้บริการนำเที่ยวตามโปรแกรม 8 วัน รวมไปถึงนั่งเรือดำน้ำขนาดเล็ก ชมซากเรือไททานิกที่จมอยู่ใต้ทะเล ที่ระดับความลึก 3,800 เมตร สนนราคาตั๋วโดยสารอยู่ที่ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.6 ล้านบาท)