‘คิม อริส’ ลูกชาย ‘ออง ซาน ซูจี’ เปิดใจสื่อครั้งแรก ‘ไม่อยากให้แม่อิดโรยในคุกแล้ว’ วอนนานาชาติหยุดส่งอาวุธ แต่ให้ความช่วยเหลือประชาชนแทน
สืบเนื่องจากนางออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของเมียนมา และผู้นำพรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) รับโทษจำคุก 33 ปีในการพิจารณาคดีจากหลายคดี หลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของเธอในปี 2021 นางซูจีถูกกักบริเวณในบ้านพักหลังการรัฐประหาร ต่อมาถูกย้ายไปขังเดี่ยวเมื่อปีที่แล้วในเรือนจำกรุงเนปญิดอ และแทบไม่มีข่าวคราวของเธอในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีข่าวลือว่าเธอป่วย แต่กองทัพปฏิเสธรายงานดังกล่าว
ล่าสุด นายคิม อริส สัญชาติอังกฤษ ลูกชายนางออง ซาน ซูจี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี ณ กรุงลอนดอนว่า กองทัพไม่ได้ให้ข้อมูลกับเขาเกี่ยวกับแม่ และเงื่อนไขทางสุขภาพของเธอ นายอริสได้พยายามติดต่อกับสถานทูตเมียนมา สำนักงานการต่างประเทศของอังกฤษ และสภากาชาดสากลแล้ว แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนที่ช่วยเหลือเขาได้เลย
ก่อนหน้านี้ นายอริสไม่อยากให้สัมภาษณ์กับสื่อ หรือแสดงความเห็นใดต่อกรณีผู้เป็นมารดา แต่ตอนนี้เธอโดนคุมขังในรอบสอง และก็เห็นได้ชัดว่าทางการทหารกำลังทำตัวไร้เหตุผล เขาคิดว่าเขาสามารถพูดในสิ่งที่เขาต้องการพูดได้แล้ว นายอริสให้สัมภาษณ์กับทางสื่อต่างชาติเป็นครั้งแรก “ผมไม่สามารถปล่อยให้แม่ของผมอิดโรยอยู่ในคุกได้แล้ว”
นายอริสได้เรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกองทัพใช้อาวุธร้ายแรง และการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มผู้ต่อต้าน แม้จะมีการคว่ำบาตรจากนานาชาติ เมียนมายังคงนำเข้าอาวุธ และวัตถุดิบในการผลิตอาวุธต่าง ๆ เขาจึงเน้นย้ำว่า ประชาคมนานาชาติต้องเริ่ม ‘ทำอะไรสักอย่าง ทั้งห้ามขายอาวุธกับกองทัพ และให้สนับสนุนกลุ่มคนที่พยายามต่อสู้กับทางทหาร’ อีกทั้งทางประชาคมต้อง ‘พยายามมากขึ้น’เพื่อที่จะปล่อยแม่ของเขา นอกจากนี้เขายังขอให้ทั่วโลกให้ความช่วยเหลือกับชาวเมียนมาที่กำลังประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ และตอนนี้ไม่มีใครสนับสนุนพวกเขาเลย นอกจากประชาชนภายในประเทศ
“ทหารจะไม่มีวันชนะสงครามนี้ มันอยู่ที่แค่เหตุการณ์นี้จะดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน ยิ่งพวกเขาคืนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และคืนอำนาจให้แม่ของผมเร็วเท่าไหร่ สิ่งต่าง ๆ จึงจะเริ่มก้าวหน้าในประเทศเขาได้เท่านั้น” อริสกล่าว