จับตาอนาคตเยฟกินี พริโกชิน พร้อมกลุ่มวากเนอร์ จะยังเป็นหอกข้างแคร่เครมลิน หรืออยู่อย่างสงบจบที่เบลารุส
จากกรณีที่การก่อกบฏ เยฟเกนี พริโกชิน หัวหน้าทหารรับจ้างกลุ่มวากเนอร์ (Wagner) ต่อวลาดิเมียร์ ปูติน ปธน.รัสเซียโดยปิดดีลโดย อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ปธน.เบลารุสเป็นตัวกลาง ซึ่งเยฟเกนีจะต้องลี้ภัยไปยังเบลารุส เพื่อจะได้ยกเลิกข้อกล่าวหากบฏ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น
สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหัวหน้าทหารรับจ้างนี้อยู่ที่ไหน มีผู้พบเห็นเขาเป็นครั้งสุดท้ายขณะออกจากเมืองรอสตอฟ ออน ดอน ทางภาคใต้ของรัสเซีย ซึ่งห่างจากชายขอบประเทศยูเครนราว 100 กม. เมื่อวันเสาร์ (24 มิ.ย.) ที่ผ่านมาเพื่อไปงานเลี้ยงสังสรรกับกลุ่มทหารจ้างในสังกัดเขา และยังไม่มีการเคลื่อนไหวของพริโกชินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถือเป็นความผิดปกติเนื่องจากเขาเล่นโซเชียลมีเดียอยู่เป็นประจำ ส่วนคำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคตของเขายังไร้คำตอบ เช่นเดียวกันกับเสรีภาพและความปลอดภัยของเขา ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับการกระทำของเขาในเบลารุส ด้านปูติน และอเล็กซานเดอร์ยังคงยืนยันความปลอดภัยของพริโกชิน
กองกำลังวากเนอร์ที่ไม่ได้เข้าร่วมการจลาจลจะเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหม และเสริมว่ากองกำลังวากเนอร์ที่มีส่วนร่วมในการก่อจลาจลจะไม่ถูกดำเนินคดี โดย “หน่วยอาสาสมัคร” ทั้งหมดควรลงนามในสัญญาภายในวันที่ 1 ก.ค. เพื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของ Sergei Shoigu รัฐมนตรีกลาโหม
อย่างไรก็ตามมีการเชื่อกันว่าทหารหลายนายให้ความจงรักภักดีต่อพริโกชินเป็นการส่วนตัว อดีตผู้บัญชาการกลุ่มวากเนอร์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Guardian ว่า ‘ไม่น่าเป็นไปได้’ ที่ทหารจำนวนมาก จะเข้าร่วมกองทัพประจำการของรัสเซีย อีกทั้ง “กองทหารวากเนอร์จะไม่สู้เพื่อกองทัพ พวกเขาจะเป็นวากเนอร์ หรือไม่เป็นอะไรเลยทั้งนั้น”
พริโกชินรวมกลุ่มวากเนอร์ให้เป็นกองกำลังที่ทรงอิทธิพลในหลายปีมานี้เพื่อการแทรกแซงไปยังแอฟริกา ตะวันออกกลาง และล่าสุดคือ ยูเครน ดังนั้นอนาคตของพริโกชินจะส่งผลกระทบที่สำคัญต่อทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองกำลังวากเนอร์เข้าไปขยายอิทธิพลทางการเมือง การทหาร และทางเศรษฐกิจ โดยวากเนอร์มีกองกำลังโดยประมาณ 5,000 นายทั่วแอฟริกา บริษัทต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับพริโกชิน ได้ลงนามในสัญญาความช่วยเหลือด้านความมั่นคง และการทหารกับรัฐบาลของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง และมาลี (ประเทศที่อยู่ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา) เชื่อว่าทางเครมลินได้ใช้กองกำลังวากเนอร์ในทั้งสองประเทศเพื่อดึงอำนาจเข้าหารัสเซีย และการจากไปของกลุ่มวากเนอร์อาจสร้างความไม่แน่นอนครั้งใหม่ให้กับรัฐบาลในแอฟริกา ที่พึ่งพากลุ่มทหารนี้เพื่อความปลอดภัย และอาจทำให้อิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ของมอสโกในทวีปนี้ซับซ้อนมากขึ้น
