สื่อต่างประเทศจับตาทิศทางการเมืองไทยอย่างใกล้ชิดตลอดสัปดาห์นี้ มอง ‘พิธา’ เจอสารพัดสกัดขาสู่เก้าอี้นายก

ใกล้ถึงวันที่ประชุมร่วมรัฐสภาใกล้เลือกนายก สื่อต่างประเทศต่างจับตามองในกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะได้เป็นนายกฯ จริง ๆ หรือไม่ โดยสำนักข่าวต่างประเทศต่างชูประเด็นเกี่ยวกับการเอาชนะเสียงส.ว. 250 เสียงในสภา รวมถึงประเด็นความขัดแย้งระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยในการแย่งชิงที่นั่งประธานสภา

สำนักข่าว AP รายงานว่า ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าพิธา จะได้เป็นนายกฯ และยุติรัฐบาลทหารที่มีมากว่า 9 ปี เนื่องจากพรรคต้องได้รับการสนับสนุนจากเสียงข้างมากของส.ส. และส.ว. 250 ตำแหน่งที่มาจากการเลือกของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในยุครัฐบาลทหาร 

ด้าน Aljazeera นำเสนอความแคลงใจระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลก่อนการเลือกตำแหน่งประธานสภาเป็นหนึ่งในความท้าทายของพิธา 

ขณะที่สำนักข่าว TIME (ไทม์) ได้วิเคราะห์ออกเป็นหลายกรณี เช่นอ้างถึงการถือหุ้น ITV ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับคดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ จากแนวร่วมต่อต้านรัฐบาลทหารในปี 2019 และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากการถือหุ้นในบริษัทสื่อ และบทบาทของประธานสภาซึ่งถูกมองว่ามีบทบาทสำคัญต่อการแต่งตั้งนายกฯ เนื่องจากเป็นผู้ควบคุมวาระของการประชุมส.ส. ซึ่งหมายความว่าจะมีอิทธิพลต่อไทม์ไลน์การการลงคะแนนเสียง เป็นต้น 

มาร์ค เอส. โคแกน อาจารย์จาก Kansai Gaidai University ของญี่ปุ่น กล่าวกับไทม์ว่า “ประวัติศาสตร์การเมืองที่ผ่านมา ชี้ว่าพรรคฝ่ายค้านที่ได้คะแนนนำโด่ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทยหรือพรรคอนาคตใหม่ ... ต่างถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอย่างรวดเร็วทั้งสิ้น และว่าพรรคก้าวไกลมีความเสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคเหมือนกันกับพรรคก่อนหน้านี้เช่นกัน

โดยคัตซึยูกิ ทาคาฮาชิ อาจารย์ด้านอาเซียนศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยนเรศวร ให้มุมมองกับไทม์เช่นกันว่า สถานการณ์นี้จะเป็นโอกาสสำหรับพรรคเพื่อไทย “หากพิธาถูกตัดสิทธิ์ ก็จะไม่มีแคนดิเดต (นายกฯ) เหลืออยู่สำหรับพรรคก้าวไกล ตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทยยังมีแคนดิเดตถึง 3 คน

รอยเตอร์มองว่า พรรคก้าวไกลอาจ “คำนวณผิดพลาด”ในการเสนอชื่อพิธาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว แม้ว่าเขาจะได้รับการเสนอชื่ออีกครั้ง แต่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำพรรคร่วมที่ได้จำนวนส.ส.ในสภามาเป็นอันดับสอง รองจากพรรคก้าวไกล ก็อาจใช้โอกาสนี้ในการเสนอหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของทางพรรคซึ่งอาจสั่นคลอนพลวัตของพรรคร่วมได้