หลายชาติทั่วเอเชียเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนหนักสุดขั้ว เจอทั้งไต้ฝุ่น ฮีทเวฟ ถึงฝนตกหนัก สะท้อนเอลนีโญรุนแรง

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน รายงานว่าพายุไต้ฝุ่นตาลิม (Typhoon Talim) ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 4 ของปีนี้ ได้เคลื่อนตัวสู่พื้นที่ชายฝั่งของมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน เมื่อคืนวันจันทร์ (17 ก.ค.) ที่ผ่านมาแล้ว ด้วยความเร็วลมสูงสุด 136.8 กิโลเมตร 

ประชาชนในมลฑลกว่างตุ้งเกือบ 230,000 คนถูกอพยพไปยังที่ปลอดภัย เมื่อนับถึงตอน 17.00 น. ของวันจันทร์ (17 ก.ค.) ขณะทางมณฑลเตรียมพร้อมรับมือพายุไต้ฝุ่น โดยทางการท้องถิ่นได้สั่งปิดจุดท่องเที่ยวตามชายฝั่ง 68 แห่ง เรียกเรือประมงกลับเข้าฝั่ง 2,702 ลำ และสั่งอพยพคนงานเลี้ยงปลาขึ้นฝั่ง 8,262 คน

อุตุฯจีนคาดการณ์ว่าไต้ฝุ่นลูกนี้จะเคลื่อนตัวไปยังอ่าวเป่ยปู้ในทะเลจีนใต้ และอาจขึ้นฝั่งครั้งที่สองในพื้นที่ชายฝั่งของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงช่วงเช้าวันอังคาร (18 ก.ค.)

โดยเมื่อวันจันทร์ (17 ก.ค.) หน่วยงานขนส่งของจีนได้จัดส่งกองกำลังกู้ภัยเพื่อรับมือพายุไต้ฝุ่นตาลิม โดยสำนักกู้ภัยและการเก็บกู้ สังกัดกระทรวงคมนาคมของจีน เปิดเผยว่ามีเรือกู้ภัย 11 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 5 ลำ เรือเก็บกู้ 46 ลำ และทีมกู้ภัยฉุกเฉิน 8 ทีม เตรียมพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ  สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีนคาดว่าจะมีพายุฝนในเมืองฉินโจว, ฟางเฉิงกัง และจงฉั่ว โดยมีลมกระโชกแรงสูงถึง 33 เมตรต่อวินาทีในตอนใต้และตอนกลางของภูมิภาคกว่างซี

ผลพวงจากพายุไต้ฝุ่นตาลิม ยังส่งผลกระทบถึงประชาชนกว่า 200,000 คนทางตอนเหนือของเวียดนาม ต้องอพยพเป็นการด่วน โดยทางการท้องถิ่นสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวชายฝั่งหลายสิบแห่ง

ญี่ปุ่นร้อนจัด

อีกฝากฝั่งหนึ่งที่ญี่ปุ่น มีรายงานคลื่นความร้อนเข้าปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ประกาศเตือนระชาชนให้ระวังโรคลมแดด เนื่องจากหลายพื้นที่มีสภาพอากาศร้อนจัดทะลุ 39 องศาเซลเซียส

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลให้ สถานที่ท่องเที่ยวดังอย่างโตเกียวดิสนีย์แลนด์ และดิสนีย์ซี ต้องปิดทำการกิจกรรมเอาท์ดอร์ชั่วคราวเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ขณะเดียวกันบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ยังคงเผชิญฝนหนักต่อเนื่องจนส่งผลให้มีมีน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ทางการต้องต้องแจ้งเตือนเหตุดินถล่มที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน

เกาหลีใต้-อินเดียฝนหนักเจอน้ำท่วม

ขณะเดียวกันเหตุฝนตกหนักในเกาหลีใต้ ได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนหลายพื้นที่ หลังจากเมื่อช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และไฟฟ้าดับ โดยที่เหตุน้ำท่วมอุโมงค์ในจังหวัดชุงชองเหนือ ล่าสุดท้ายเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาหลีใต้ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตคนสุดท้ายออกมาแล้ว ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยเกาหลีใต้ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 41 คนทั่วประเทศเนื่องจากน้ำท่วมและดินถล่ม ขณะที่อีก 9 คนยังคงสูญหาย

สภาพอากาศสุดขั้วดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วเอเชีย ตั้งแต่ฟิลิปปินส์และกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ โดยเหตุน้ำท่วมในวงกว้างทำให้การขนส่งกลายเป็นอัมพาตในเมืองใหญ่ต่าง ๆ เช่น กรุงมะนิลาและกรุงพนมเปญ ไปจนถึงอินเดีย โดยเจ้าหน้าที่อินเดียเปิดเผยว่า ฝนตกมากเป็นประวัติการณ์ทำให้หลายรัฐต้องตกอยู่ในภาวะเกือบชะงักงันและทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย 

ที่เมืองอักรา อันเป็นที่ตั้งของทัชมาฮัล พบว่าแม่น้ำยมุนา (Yamuna) ที่ไหลผ่านกลางเมือง ได้มีปริมาณน้ำสูงขึ้นจนเออล้นเข้าท่วมพื้นที่บางส่วน เช่นเดียวกับกรุงนิวเดลี พบว่ามีน้ำท่วมจนเอ่อล้นแม่น้ำยมุนา หลังมีมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่กรุงนิวเดลี จนทให้บริมาณน้ำเกือบล้นเขื่อนหลายแห่ง โดยระดับน้ำในแม่น้ำยมุนาสูงกว่าปกติมากถึง 91%  เพิ่มสูงสุดในรอบ 45 ปี  

ที่เมืองมุมไบ ทางการต้องออกคำเตือนระวังภัยฝนตกหนักระดับสีเหลือง หลังมีรายงานฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงคืนวันอาทิตย์ทีผ่านมา  จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย (IMD) หอดูดาวซานตาครูซบันทึกปริมาณฝนจนถึงเย็นวันจันทร์ได้ 36.9 มม. ขณะที่หอสังเกตการณ์ชายฝั่งที่โคลาบาบันทึกปริมาณฝนได้ 50.8 มม. IMD คาดการณ์ว่าภายใน 5 วันข้าหน้าหลายเมืองโดยรอบนครมุมไบจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมทั้งแจ้งเตือนภัยระดับสีส้มในบางแห่ง โดยเฉพาะแถบพื้นที่ลุ่ม เช่น สถานีรถไฟใต้ดิน Andheri มีน้ำท่วมขังเนื่องจากฝนตกต่อเนื่องในวันจันทร์ และต้องปิดไม่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นเวลาสองสามชั่วโมง

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ความถี่และความรุนแรงของเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากสภาวะเอลนีโญ โดยรายงานล่าสุดจาก องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่า ทั่วทั้งโลกมีค่าเฉลี่ยสภาพอากาศที่สูงขึ้น