โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฟ้อง 4 ข้อหา พยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ระหว่างที่เขากำลังรณรงค์หาเสียงเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วานนี้ ( 1 ส.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ถูกฟ้องในข้อหาความผิดทางอาญาของรัฐบาลกลาง 4 ข้อหา จากความพยายามในการล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 ด้วยการโกหกเพื่อสร้างความเคลือบแคลงใจในกระบวนการเลือกตั้ง
คำฟ้องที่ยื่นในศาลแขวงของรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน ได้แก่ ข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงรัฐบาลสหรัฐ สมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางการดำเนินการของทางการ ขัดขวางและพยายามขัดขวางการดำเนินการของทางการ และสมรู้ร่วมคิดเพื่อละเมิดสิทธิ โดยคำฟ้องจำนวน 45 หน้านั้นยื่นโดย แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษ ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจนว่า ทรัมป์และพันธมิตรของเขาได้เผยแพร่ข้อกล่าวหาเท็จเกี่ยวกับการโกงผลการเลือกตั้ง
ในข้อกล่าวหายังระบุว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 6 คนโดยไม่มีการเปิดชื่อ แต่ไม่มีการเปิดเผยตัวตน และมีทรัมป์เพียงคนเดียวที่ถูกระบุในฐานะจำเลย ขณะที่สื่อมวลชนสหรัฐฯ รายนี้ว่า ทรัมป์ มีกำหนดปรากฏตัวต่อหน้าศาลในวันที่ 3 สิงหาคม
ทั้งนี้ ทรัมป์ ตัวเต็งเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในศึกเลือกตั้งปี 2024
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน ทรัมป์ ถูกตั้งข้อหา 37 กระทง ในความเกี่ยวข้องกับกรณีที่เขาไม่ยอมคืนเอกสารลับสุดยอด หลังพ้นจากเก้าอี้ทำเนียบขาว แล้วนำมันไปเก็บไว้ที่ฟลอริดา ข้อกล่าวหาต่างๆ เหล่านั้น ประกอบด้วยการยึดข้อมูลกลาโหมแห่งชาติ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และให้การเท็จ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 20 ปี
ในฐานะประธานาธิบดี ทรัมป์เคยถูกสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมโดยพรรคเดโมแครตถอดถอนมาแล้ว 2 รอบ โทษฐานหาทางเล่นสกปรกทางการเมือง กดดันให้ผู้นำยูเครน ขุดคุ้ยข้อมูลที่สร้างความเสียหายแก่ไบเดน และเกี่ยวกับเหตุการณ์พวกผู้สนับสนุนของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 แต่ทรัมป์รอดพ้นจากการถูกถอดถอนทั้ง 2 รอบ หลังวุฒิสภาลงมติว่าเขาไม่มีความผิด