ดิสนีย์ปรับโครงสร้าง เลิกจ้าง 7,000 หวังลดต้นทุน 5,500 ล้านเหรียญ มุ่งสร้างสรรค์ออริจินัลคอนเทนต์มากขึ้น หลังยอดสมาชิก Disney+ ลดวูบ
บริษัท วอลต์ ดิสนีย์ ยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลก ประกาศปรับโครงสร้างใหญ่ด้วยการลดจำนวนพนักงานที่มีอยู่ทั่วโลกราว 3% หรือคิดเป็น 7,000 คน ซึ่งเป็นหนึ่งตามแผนการลดต้นทุน 5,500 ล้านเหรียญ หลังธุรกิจสตรีมมิ่ง Disney+ ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2022 ยอดสมาชิกลดลงถึง 2.4 ล้านราย ทำให้ดิสนีย์สูญเสียรายได้กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ และนี่นับเป็นการสูญเสียสมาชิกครั้งแรกของ Disney+ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2019
รายงานระบุว่า ดิสนีย์ภายใต้การกุมบังเหียนของ บ็อบ อิเกอร์ (Bob Iger) ในฐานะซีอีโอ มีแผนที่จะปรับลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นของบริษัทลง เพื่อทำให้ธุรกิจสตรีมมิ่งให้มีกำไรมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ดิสนีย์ถูกตำหนิจากนักลงทุนว่า มุ่งลงทุนในธุรกิจสตรีมมิ่งมากเกินไป โดยในการแถลงข่าวของดิสนีย์ ระบุว่า บริษัทมีแผนแบ่งการลดต้นทุนด้านคอนเทนต์ 3 พันล้านเหรียญ และอีก 2.5 พันล้านเหรียญจากต้นทุนที่ไม่เกี่ยวกับคอนเทนต์
ซีอีโอดิสนีย์ กล่าวในตอนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ต่อวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า บริษัทจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งฝ่ายบริหารเชื่อว่าจะนำไปสู่การสร้างผลกำไรที่ดีขึ้นในธุรกิจสตรีมมิ่ง ขณะเดียวกันดิสนีย์มีแผ่นที่จะมุ่งเป้าต่อยอดแฟรนไชรน์ดังของบริษัทอย่าง Star Wars, Marvel และ Pixar ให้มีความสร้างสรรค์ด้านเนื้อหาและหลากหลายมากขึ้น
ผู้บริหารดีสนิย์ยังประกาศถึงแนวทางการเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารแผนกต่างๆ ย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้บริหารฝ่ายสร้างสรรค์จะรับผิดชอบในการกำหนดภาพยนตร์ ละครทีวี หรือเนื้อหาอื่น ๆ ที่จะผลิต ตลอดจนการตลาดและการจัดจำหน่าย
“โครงสร้างใหม่ของเรามุ่งเป้าไปที่การคืนอำนาจที่มากขึ้นให้กับผู้นำด้านความคิดสร้างสรรค์ของเรา และทำให้พวกเขารับผิดชอบต่อการดำเนินงานของเนื้อหาของมากกว่าด้านการเงิน”
สำหรับไตรมาสแรกปีงบการเงิน 2023 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022 ดิสนีย์มีกำไรสุทธิ (net income) อยู่ที่ 1,279 ล้านเหรียญ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนรายได้อยู่ที่ 23,512 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นอานิสงส์จากหน่วยธุรกิจธุรกิจสวนสนุกดิสนีย์ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกลับมาฟื้นตัวหลังภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักในทั่วโลก
ทั้งนี้ ดิสนีย์มีการปรับโครงสร้างพร้อมปรับลดพนักงานครั้งใหญ่มากแล้ว 3 ครั้ง ในรอบ 5 ปีข โดยก่อนหน้านี้ในปี 2018 ดิสนีย์ปรับโครงสร้างบริษัทใหม่เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจสตรีมมิ่ง และอีกครั้งในปี 2019 เพื่อกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจสตรีมมิ่งเช่นกัน ส่วนครั้งล่าสุดที่ดิสนีย์ลดพนักงานคือในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ด้วยเลิกจ้างพนักงาน 32,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำงานในสวนสนุก