"ด้วยวิธีการใดที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกใช้เงินดอลลาร์ควบคุมโลกไว้ในกำมือ? แต่จากวันนี้ต่อไปในอนาคตอีกไม่นาน เงินดอลลาร์จะไม่ใช่เจ้าโลกอีกต่อไป"
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเป้าหมายหลักของกลุ่ม BRICS คือการทำลายอิทธิพลทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตกที่ครอบงำของโลกของเราอยู่ และอาวุธสำคัญของตะวันตกคือ "เงินดอลลาร์" (หรือเงินเหรียญสหรัฐฯ)
การประชุมกลุ่มสุดยอดกลุ่ม BRICS ที่ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ จะจัดขึ้นที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคมนี้
แต่ก่อนที่จะเริ่มการประชุมก็มีปัญหาเสียแล้ว เพราะ วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเจอหมายจับจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในข้อหามีความรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน
เรื่องนี้กลายเป็นเผือกร้อนสำหรับเจ้าภาพการประชุมในทันที ทำให้แอฟริกาใต้เปลี่ยนท่าทีอยู่บ่อยๆ
เมื่อกลางเดือน ก.ค. ประธานาธิบดี ซีริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ กล่าวว่า การจับกุมวลาดิมีร์ ปูตินในแอฟริกาใต้จะถือเป็น "การประกาศสงคราม" กับรัสเซีย และตัวเขาจะพยายามโน้มน้าวไม่ให้ ปูติน มาร่วมประชุมด้วยตัวเอง
หลังจากโน้มน้าวกันอยู่พักหนึ่ง มีสัญญาณชัดเจนขึ้นว่า ปูติน จะไม่ไปร่วมประชุมด้วยตัวเอง แต่จะมีตัวแทนไปประชุม ซึ่งน่าจะเป็น เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย
นี่เป็นการรักษาหน้าด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะรัสเซียรู้ว่าแอฟริกาใต้เข้าข้างตน และแอฟริกาใต้ก็เห็นใจรัสเซีย ที่ผ่านมา แอฟริกาใต้ไม่เคยประณามรัสเซียเลย แต่กลับโทษชาติตะวันตกว่าเป็นตัวการทำให้คนแอฟริกาต้องอดๆ อยากๆ เพราะอาหารแพง
คนแอฟริกาเริ่มตระหนักว่า ที่ผ่านมาชาติตะวันตกบีบบังคับให้พวกเขาต้องนำเข้าอาหารจากตะวันตก ทั้งๆ ที่คนแอฟริกาปลูกอาหารเองได้ ทำแบบนี้ก็เพื่อหาตลาดรองรับให้กับบริษัทอาหารของตะวันตกเอง
พอชาติตะวันตกทำสงครามตัวแทนกับรัสเซียที่ยูเครน ทำให้อาหารและพลังงานแพงขึ้นแบบฉุดไม่อยุ่ คนแอฟริกาพลอยรับเคราะห์ไปด้วย ทั้งๆ คนที่นี่ไม่ต้องซื้ออาหารจากฝรั่งก็ได้ แถมยังอยู่ไกลจากยุโรป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่นั่นแย่งชิงอำนาจกัน
แอฟริกาใต้ไม่ใช่แค่ต้องซื้ออาหารจากข้างนอก (ผ่านบริษัทตะวันตก) แต่ยังต้องทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินของตะวันตก คือเงินดอลลาร์ เมื่อข้าวของแพง กำลังซื้อของพวกเขาก็ลดลง และเงินดอลลาร์ที่ถืออยู่ก็มีไม่มาก ค้าขายอะไรก็ไม่ได้ เพราะถูกตะวันตกผูกขาดไปหมด สถานการณ์แบบนี้ยิ่งทำให้แอฟริกายิ่งจนลงเรื่อยๆ และตกเป็น "ทาส" ของชาติตะวันตกมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือสาเหตุหนึ่งที่แอฟริกาใต้ประณามตะวันตก และไม่ยอมโจมตีรัสเซีย เอาเข้าจริง ผู้นำแอฟริกาใต้แสดงท่าทีค่อนข้างชัดเรื่องจะเชิญ ปูติน มาด้วยตัวเองให้ได้ แต่ไม่อาจท่ำแบบนั้นได้ในทางปฏิบัติ เพราะแอฟริกาใต้ต้องเคารพสัตยาบันต่อ ICC
ไม่ใช่แค่แอฟริกาใต้ที่เห็นใจรัสเซีย แต่แอฟริกาเกือบทั้งทวีปเทใจไปทางรัสเซีย เชียร์จีน เห้นอินเดียเป็นเพื่อน และชื่นชอบบราซิล
ความนิยมในตัว BRICS จงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อบวกกับความต้องการจะปลดแอกตัวเองจากความเป็นทาสของเงินดอลลาร์และเศรษฐกิจตะวันตก ชาติแอฟริกันและประเทศที่มีใฝ่หาอิสรภาพอื่นๆ (ที่ถูกพวกพัฒนาแล้วมองว่าเป็นประเทศโลกที่สาม) จึงอยากจะมารวมกลุ่มกับ BRICS
เพราะอะไร? เพราะ BRICS ไม่แทรกแซงกิจการภายใน แสวงหาแต่โอกาสลงทุนด้วยกัน และที่สำคัญคือ ต้องการกำจัดอิทธิพลของเงินดอลลาร์
ทำไมต้องเล่นงานดอลลาร์ คำตอบอยู่ในสถานการณ์ข้างต้นนั่นเอง เพราะประเทศกำลังพัฒนาหรือตลาดเกิดใหม่มีเงินดอลลาร์ในมือน้อย เวลาจะซื้อขายกับประเทศอื่น โดยเฉพาะตะวันตก ก็จะมีกำลังซื้อน้อย ผลก็คือจะต้องกู้หนี้ยืมสินมา แล้วคนที่ไปกู้มาก็คือสถาบันการเงินที่คุมโดยตะวันตกทั้งสิ้น
คนที่คุมสถาบันการเงินเหล่านั้นมักจะเป็นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเจ้าของสกุลเงินดอลลาร์ และมีความสามารถพิเศษตรงที่ "พิมพ์ธนบัตรได้ไม่จำกัด" ในฐานะที่มันมีความน่าเชื่อถือสูง
ดังนั้น ในขณะที่ประเทศเล็กประเทศน้อยต้องใช้ดอลลาร์ที่มีอยู่อย่างจำกัดจนต้องกู้เงินมาใช้ สหรัฐฯ กลับปั๊มมันออกมาให้ประเทศพวกนี้กู้ได้เรื่อยๆ และเงินที่ปล่อยกู้นั้นต้องชำระด้วยดอลลลาร์เท่านั้น
นี่คือวงจรของการเป็นทาสเงินดอลลาร์
และเป็นสาเหตุว่าทำไมประเทศเล็กๆ ถึงอยากร่วมกับ BRICS เพราะโต้โผของกลุ่มนี้ คือ จีนกับรัสเซียคิดเรื่องการปการปลดแอกจากดอลลาร์มานานหลายปีแล้ว และเริ่มทดลองค้าขายโดยใช้เงินของตัวเอง (รูเบิลและเงินหยวน) โดยตรงโดยไม่ผ่านดอลลาร์
ดังนั้น เมื่อชาติตะวันตกเล่นงานรัสเซียในทางการเงิน เช่นการขับออกจากระบบ Swift การเงินของรัสเซียกลับไม่พังทลายในทันทีอย่างที่คาดกันไว้ แถมชาวโลบกยังตาสว่างกันมากเข้าไปอีกว่า หากไปมีเรื่องกับชาติตะวันตก พวกนั้นจะใช้ระบบการเงินที่อิงกับดอลลาร์เล่นงานเรา
อินเดียจึงร่วมวงค้าขายโดยไม่ใช้ดอลลาร์ด้วย รวมถึงบราซิล
อินเดียนั้นปกครองโดยพรรคชาตินิยมจัดๆ ซึ่งรังเกียจพวกฝรั่งที่เคยมาล่าอินเดียเป็นอาณานิคม จึงออกนโยบายกำจัดอิทธิพลตะวันตกหลายๆ อย่าง แม้แต่ลดการใช้ภาษาอังกฤษ แน่นอนว่า อินเดียมองเห็นดอลลาร์เป็นอาวุธในการล่าอาณานิคมใหม่ด้วย พวกเขาจึงหาทางสลัดจากมัน
บราซิล เพิ่งจะได้ประธานาธิบดีเอียงซ้ายฝ่ายสังคมนิยม จึงมีแนวคิดต่อต้าน "จักรพรรดินิยม" อย่างเข้มข้น ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล ตั้งคำถามว่า "ทำไมเราถึงค้าขายด้วยสกุลเงินของเราไม่ได้?" ระหว่างอภิปรายกับผู้นำแอฟริกา และก่อนหน้านี้เขายังไปหารือกับ สีจิ้นผิง ผู้นำจีนในเรื่องเลิกใช้เงินดอลลาร์ด้วย
"จักรพรรดินิยม" ในที่นี้คือการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจครอบงำประเทศที่จนกว่า (เพราะขาดดอลลาร์) แต่มีทรัพยากรเป็นกอบเป็นกำ พวกตะวันตกในเวลานี้กำลัวทำตัวเป็นจักรรรดินิยมด้วยการขยายตลาดในประเทศกำลังพัฒนา/ตลาดเกิดใหม่ ล่อให้ติดกับดักดอลลาร์ แล้วจะเป็นหนี้ดอลลาร์วนเวียนอยู่แบบนี้ ในขณะเดียวกันเจ้าหนี้ก็จะดูดทั้งทรัพยากรออกไป ได้ตลาดปล่อยสินค้าของตัวเอง และยังได้เงินกู้คืนมาอีก
นี่คือความเลวร้ายที่ผู้นำประเทศต่างๆ มองเห็น
ดังนั้น วาระสำคัญของการประชุม BRICS ในปี 2023 ก็คือ เรื่องสกุลเงินใหม่ๆ ในการค้าขาย (เรื่องนี้เจ้าภาพ คือแอฟริกาใต้จะผลักดันเอง) และอีกสาระคือการขยายจำนวนประเทศสมาชิก (เรื่องนี้รัสเซียเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงผลักดัน)
การมีสมาชิกมากๆ ทำให้ BRICS มีพลังต่อรองมาก แต่เงื่อนการเข้าร่วมกลุ่มนี้ที่สำคัญที่สุดคงจะเป็นการเลิกใช้เงินดอลลาร์ และหันมาใช้เงินของประเทศตัวเอง หรืออาจจะใช้เงินหยวนของจีนแทน ซึ่งเริ่มมีพลังทางเศรษฐกิจมากขึ้น
หากทั้ง 2 วาระเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น BRICS จะทรงอิทธิพลมากขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐจะทรุด ดอลลาร์จะอ่อนแอลง ตะวันตกจะต่อรองกับใครได้ยากขึ้น จีนจะแข็งแกร่ง และรัสเซียจะไม่ถูกโดเดี่ยวอย่างที่ชาติตะวันตกพยายามทำ
ทั้งหมดนี้ ลองคิดอยู่ว่าชาติตะวันตกจะยอมให้เกิดขึ้นไหม แล้วพวกเขาจะต้องใช้วิธีรุนแรงในการโค่นล้มแผนการนี้เป็นแน่
กรกิจ ดิษฐาน