เขมรไม่ต้องมาอ้าง เปิดหลักฐาน'ศรีเทพ'คือมรดกคนไทยบนแผ่นดินไทย

เขมรไม่ต้องมาอ้าง เปิดหลักฐาน'ศรีเทพ'คือมรดกคนไทยบนแผ่นดินไทย
หลังจากที่คนไทยพากันดีอกดีใจที่เมืองศรีเทพกำลังจะกลายเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ ล่าสุด ศรีเทพเริ่มจะเป็นประเด็นขัดแย้งกับเพื่อนบ้านอีกครั้ง

องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้เผยแพร่วาระการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 45 โดยในวาระการประชุม 8B นอมิเนชั่น (nominations) มีรายชื่อเมืองโบราณศรีเทพ (Thailand The Ancient Town of Si Thep I 45 COM 8B.41) เพื่อพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม

นั่นหมายความว่า เมืองโบราณศรีเทพกำลังจะกลายเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ เป็นความภูมิใจของคนไทยและคนทั้งโลก เพราะเมืองโบราณแห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งอารยธธรรมโบราณในแผ่นดินไทย สันนิษฐานว่ามีความสำคัญมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายและรุ่งเรืองในยุคทวารวดี ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 8 ถึง 18 มีโบราณสถานสำคัญที่ใหญ่โต เช่น "เขาคลังนอก" ซึ่งไม่ใช่ภูเขาแต่เพราะเคยถูกปกคลุมด้วยเนินดินและต้นไม้ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นภูเขา แต่เมื่อทำการขุดค้นแล้วพบว่านี่คือรากฐานของพุทธสถานขนาดมหึมา น่าจะสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 13–14  

เขมรเริ่มเคลิมอีกแล้ว
หลังจากที่มีข่าวว่าเมืองศรีเทพกำลังจะกลายเป็นมรดกโลก โซเชียลมีเดียทั้งในภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะในเพจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของอาเซียนได้มีการนำเสนอเรื่องเมืองโบราณศรีเทพอย่างกว้างขวาง แต่มันได้ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนไทยและกัมพูชาอีกครั้ง 

ตัวอย่างเช่น ในเพจเฟซบุ๊ค Asian Amazing Culture and Community (AACC) มีการโพสต์ข่าวเป็นภาษาอังกฤษเรื่องการเตรียมขึ้นทะเบียนศรีเทพเป็นมรดกโลก มีชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งเข้ามาก่อกวน เช่นบอกว่า "Temple Cambodia" ซึ่งแม้ว่าจะเขียนผิด แต่เข้าใจว่าชาวกัมพูชารายนี้ต้องการบอกว่าโบราณสถานเขาคลังนอกเป็นของกัมพูชา บางคนก็โพสต์ภาพแผนที่จักรวรรดิเขมรโบราณ ที่อ้างดินแดนคลุมประเทศไทยทั้งประเทศ 

บางความเห็นจากกัมพูชาบอกว่า "ทวารวดีคือจักรวรรดิมอญและจักรวรรดิเขมร ได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้น แล้วพวกคุณฉวยเอามาเป็นโบราณสถานของไทย (อ้างว่า) พวกคุณสร้างขึ้นมา แม้ว่าพวกคุณไม่ได้สร้าง ทักษะการโกหกยอดเยี่ยม"

บางความเห็นของคนเขมรบอกเป็นนัยๆ ว่าคนไทยไม่มีส่วนกับศรีเทพ เพราะคนไทยเพิ่งอพยพมาจากที่อื่น เขาอ้างว่า "บรรพบุรุษของไทยมาจากจีน พวกเขาไม่ใช่คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือคนออสโตรเอเชียติก พวกเขาหนีมาจากจีนในฐานะผู้ลี้ภัย เพราะเกิดสงคราม"

เฉพาะในโพสต์เดียวเท่านั้นในเพจนี้จะเห็นชาวกัมพูชาเข้ามาเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมาก ยังไม่ต้องพูดถึงเพจอื่นๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมอาเซียน ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนปัญหาความขัดแย้งเรื่องการอ้างสิทธิ์ (หรือในโลกโซเชียลเรียกว่า "เคลม") ความเป็นเจ้าของวัฒนธรรมและประวัติศาตร์ระหว่างไทยกับเขมร

คำถามก็คือ ศรีเทพเป็นเมืองของเขมรโบราณหรือไม่? 

ศรีเทพคือทวารวดีไม่ใช่ขอม
คำตอบก็คือ เมืองศรีเทพมีประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรหลงเหลืออยู่น้อยมาก แต่มีศิลปะวัตถุและโบราณสถานหลงเหลืออยู่มาก ศิลปะเหล่านี้เป็นศิลปะแบบ "ทวารวดี" ซึ่งเชื่อว่าชาวทวารวดีน่าจะเป็นชนชาติมอญโบราณ ชาวมอญโบราณเคยมีถิ่นฐานในภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือของไทย โดยในภาคกลางมีศูนย์กลางอยู่ที่นครปฐม ที่อีสานและลาวมีการพบจารึกภาษามอญใกล้กับนครเวียงจันทน์ 

และในภาคอีกสานมีโบราณทวารวดีอยู่มากมาย เช่น ใบเสมาหินแกะสลักที่สวยงาม เช่น ที่เมืองฟ้าแดดสงยาง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ สิ่งเหล่านี้มีอายุก่อนการสร้างจักรวรรดิเขมรโบราณเสียอีก และเก่าแก่ว่านครวัดนครธม ทั่วภาคอีสานเต็มไปด้วยเมืองโบราณที่ล้อมรอบด้วยคูน้ำ ซึ่งเป็นลักษณะของเมืองแบบทวารวดี  เมืองเหล่านี้เก่าแก่กว่านครวัดนครธมเช่นกัน 

ในภาคเหนือ ชาวมอญตั้งถิ่นฐานเป็นอาณาจักรชื่อว่า หริภุญไชย ปัจจุบันคือตัวอำเภอเมืองจังหวัดลำพูน ตัวเมืองลำพูนตั้งอยู่ในเมืองโบราณอายุนับพันปี มีคูเมืองล้อมรอบ และมีศูนย์กลางของพระธาตุหริภุญไชยที่สร้างมาตั้งแต่สมัยทวารวดี (หรือสมัยหริภุญไชย) และนอกเมืองยังมีโบราณสถานศิลปะทวารวดี-หริภุญไชย คือวัดจามเทวีหรือวัดกู่กุดที่ใหญ่โตและสวยงามมาก อายุร่วมพันปี 

ในแถบภาคกลาง ศูนย์กลางของทวารวดีอยู่ที่นครชัยศรีหรือนครปฐม ที่ราชบุรี เพชรบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี รวมถึงอยุธยา และที่เมืองศรีเทพ เป็นต้น ในบรรดาเมืองโบราณทวาราวดีเหล่านี้ ต่อมาร้างไปโดยไม่ทราบสาเหตุ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ของเขมรโบราณจึงเข้ามาครอบครอง โดยเฉพาะที่ลพบุรี มีจารึกระบุถึงสภาพเมืองที่ร้างไปและการจัดระเบียบเมืองอีกครั้ง คาดว่า ศรีเทพน่าจะร้างไปในเวลาเดียวกันและอยู่ภายใต้อิทธิพลเขมรอยู่ช่วงหนึ่ง 

อยุธยาและกรุงเทพฯ คือทายาทศรีเทพ
ต่อมาอาณาจักรเขมรโบราณเสื่อมอำนาจลง และอาณาจักรอยุธยาแข็งแกร่งขึ้นมาและขยายอำนาจครอบครองศูนย์กลางเดิมของทวารวดีในภาคกลางของไทย (ในภาคเหนือ อาณาจักรล้านนาครอบงำอาณาจักรหริภุญไชย และในภาคอีสาน อาณาจักรล้านช้าง ครอบงำเมืองโบราณเดิมแห่งต่างๆ) อาณาจักรอยุธยาจึงกลายเป็น" พี่ใหญ่" ของอาณาจักรทั้งหมดในแถบนี้ และตั้งชื่ออาณาจักรอย่างเป็นทางการว่า "กรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา" เพื่ออ้างสิทธิ์ความเป็นผู้สืบทอดของทวารวดี 

พร้อมกันนี้ อาณาจักรอยุธยาได้ตั้งเจ้าเมืองผู้ปกครองศรีเทพขึ้นมา มีตำแหน่งพระศรีถมอรัตน์ (คำว่า ถมอรัตน์ เป็นชื่อภูเขาที่มีความสำคัญทางศาสนาในเขตเมืองโบราณศรีเทพ) และยังมีตำแหน่งที่น่าจะเกี่ยวข้องกับศรีเทพอีกจำนวนหนึ่ง เช่น "พันบุตรศรีเทพ" และ "ออกพระเทพาธิบดีศรีเทพนารายณ์" ตำแหน่งเหล่านี้น่าจะสะท้อนว่าอยุธยาถือตัวเองเป็นทายาทของอาณาจักรทวารวดีต่างๆ รวมถึงเมืองศรีเทพ 

เมื่ออยุธยาล่มลงแล้ว มีการตั้งบางกอกเป็นเมืองหลวง อาณาจักรของคนไทยก็ยังเรียกตัวเองว่า "กรุงศรีอยุธยา" และมีชื่อทางการว่า "กรุงเทพทวารดีศรีอยุธยา" จนกระทั่งมาเปลี่ยนเป็น "ประเทศสยาม" ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 

ดังนั้น คนไทยและประเทศไทยจึงเป็นเจ้าของทวารวดีและศรีเทพอย่างแท้จริง ไม่เกี่ยวอะไรกับคนกัมพูชาเลย 

โดย กรกิจ ดิษฐาน

Photo - Ddalbiez 

TAGS: #ศรีเทพ #เคลมโบเดีย #มรดกโลก