มุมมองของสื่อต่างประเทศต่อการกลับไทยของอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หลบหนีคดีความมานานนับสิบปี
ทำให้ผู้สนับสนุนแตกแยก
The Guardian สื่ออังกฤษรายงานข่าวการกลับบ้านของทักษิณพร้อมกับบทวิเคราะห์ว่า การที่พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลที่ "เป็นที่อื้อฉาว" กับ "ศัตรูยาวนาน นั่นคือพรรคแนวร่วมทหาร" สิ่งที่เกิดขึ้น "ทำให้ผู้สนับสนุนทักษิณแตกแยก สร้างความไม่พอใจให้กับหลายคนที่กล่าวว่าพรรคได้ละทิ้งหลักประชาธิปไตยของตน อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ ยังคงดีใจมากที่ทักษิณสามารถเดินทางกลับประเทศได้"
The Guardian ได้สัมภาษณ์ สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ "บ.ก.ลายจุด" ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวหลักที่สนับสนุนทักษิณมานานบอกว่า “เราต่อสู้ไปเพื่ออะไร” และบอกว่าการเข้าร่วมกับฝ่ายทหารของพรรคเพื่อไทยกำลังบ่อนทำลายอุดมการณ์และค่านิยมที่ผู้สนับสนุนเชื่อมั่น
ครอบงำการโหวตนายก
พร้อมๆ กับการมาของทักษิณ คือการออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสำนักข่าว Reuters ระบุว่า "การกลับมาของทักษิณผู้ได้รับความรักและความเกลียดชังอย่างเท่าเทียมในประเทศไทย จะบดบังการลงคะแนนเสียงนั้นอย่างค่อนข้างจะแน่นอน"
ในเพื่อไทยก็แตกแยก
Nikkei Asia จับตาการกลับไทยครั้งนี้ด้วยรายงานข่าวและการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญการเมืองไทย คือ ดันแคน แม็กคาร์โก (Duncan McCargo) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยางในสิงคโปร์ และเป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยรายนี้กล่าวว่า “แน่นอนว่ามีองค์ประกอบภายในพรรคเพื่อไทยที่อยากเห็นจุดยืนของพรรคในแบบยุคหลังทักษิณ (post-Thaksin หมายถึงการก้าวข้ามทักษิณ) มากกว่าพรรคที่สนับสนุนทักษิณ (pro-Thaksin)”
การชี้ว่า การที่เพื่อไทยไปดีลกับพรรคฝ่ายทหารนั้น “สำหรับคนเสื้อแดงหัวรุนแรง ... การทำข้อตกลงแบบนี้ถือเป็นการทรยศ”
ประเทศไทยเปลี่ยนไปแล้ว
สำนักข่าว CNN รายงานข่าวการกลับมาของทักษิณอย่างละเอียด พร้อมทั้งสถานการณ์เบื้องหลังของการเมืองไทย นั่นคือการตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่รวมเอาพรรคการเมืองสายทหารเข้ามาด้วย สื่อนอกรายนี้ระบุว่า "ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังล้มล้างเจตจำนงของคนไทยหลายล้านคนที่ลงคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นให้กับพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ถือเป็นการตอบโต้รุนแรงต่อโครงสร้างหลักของประเทศที่ได้รับการสนับสนุนจากทหาร ซึ่งปกครองประเทศไทยนับตั้งแต่รัฐประหาร"
CNN ระบุว่าทักษิณยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างมั่นคงผู้ภักดีอย่างเหนียวแน่นต่อเขา แต่ว่า "ประเทศที่เขาจะกลับไปนั้นแตกต่างไปจากประเทศที่เขาจากไปมาก ความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้เห็นถึงความขัดแย้งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน"
Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP