การประชุม BRICS คุกรุ่นไปด้วยถ้อยแถลงต่อต้านชาติตะวันตก
บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ใช้โอกาสในการประชุมสุดยอดที่ประเทศแอฟริกาใต้ ประกาศจุดยืนต่อต้านชาติ "นักล่าอาณานิคมยุคใหม่" (Modern colonialits หรือ Neo-colonialist) ซึ่งหมายถึงประเทศตะวันตก ในระหว่างที่ BRICS กำลังผลักดันการปลดแอกจากการใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ประเทศทั่วโลก ต้องอยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเงินของสหรัฐและชาติตะวันตก
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวว่า “นักล่าอาณานิคมสมัยใหม่ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสโลแกนดีๆ ของประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนพยายามแก้ไขปัญหาของพวกเขาโดยทำให้ผู้อื่นต้องเสียหาย และยังคงสูบทรัพยากรออกจากประเทศกำลังพัฒนาอย่างไร้ยางอาย”
ปูติน ยังกล่าวว่า “นักล่าอาณานิคมสมัยใหม่” เหฃ่านี้ ยังปล่อยเเงินกู้ให้กับประเทศกำลังพัฒนา แต่มาพร้อมด้วยเงื่อนไขที่เอาเปรียบอย่างมากจน ทำให้ผู้กู้ยืมแทบจะจะชำระหนี้ของตน ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่า "มันดูไม่เหมือนภาระผูกพันในการกู้ยืมอีกต่อไป แต่เหมือนเป็นการจ่ายสินไหมทดแทน"
ในขณะที่ ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา แห่งบราซิล กล่าวว่า “เราไม่สามารถยอมรับลัทธิล่าอาณานิคมสีเขียวที่สร้างอุปสรรคทางการค้าและมาตรการเลือกปฏิบัติภายใต้ข้ออ้างในการปกป้องสิ่งแวดล้อม” และย้ำว่า “ในระดับพหุภาคี BRICS มีความโดดเด่นในฐานะพลังที่ทำงานเพื่อการค้าโลกที่ยุติธรรมยิ่งขึ้น คาดการณ์ได้มากขึ้น และเท่าเทียมกัน”
ส่งที่ ลูลา เรียกว่า ลัทธิล่าอาณานิคมสีเขียว หรือ Green colonialism หมายถึง การใช้ข้ออ้างเรื่อง "ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ในการกดไม่ให้ประเทศกำลังพัฒนาลืมตาอ้างปากได้ และยังทำลายคนท้องถิ่นโดยนายทุนใหญ่ที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐทุนนิยม การทำแบบนี้เรียกอีกอย่างว่า ‘green grabbing’ หรือการฉกฉวยเอาไปโดยอ้างเรื่องสีเขียว เช่น การอ้างว่าจะต้องสร้างเขตอนุรักษ์ แล้วไล่คนท้องถิ่นออกไป จากนั้นให้อนุญาตบริษัทใหญ่ๆ ใช้ที่ดินที่อนุรักษ์นั้นผลิตพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานชีวภาพ
สิ่งที่ ปูติน และ ลูลา เอ่ยถึง คือความไม่ไว้ใจชาติตะวันตก ซึ่งมักใช้ค่านิยมเรื่องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชาติ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาเป้นข้ออ้างในการเข้ายึดครองประเทศอื่นโดยแนบเนียน ผ่านการปล่อยเงินกู้เพื่อโครงการที่อิงกับค่านิยมเหล่านั้น จนกระทั่งประเทศกำลังพัฒนาชดใช้ไม่ไหว
Photo by Mikhail KLIMENTYEV / POOL / AFP