มันแค่จุดเริ่มต้น! เมืองเบอร์มิงแฮมล้มละลาย จุดเริ่มการพังทลายของอังกฤษ?
เบอร์มิงแฮม เมืองใหญ่อันดับสองของสหราชอาณาจักร นี่คือเมืองที่มั่งคั่งและเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศ มีมูลค่า GDP ถึง 121,100 ล้านดอลลาร์ (พ.ศ. 2557) มีมหาวิทยาลัย 5 แห่ง ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนอกลอนดอน
แต่ในเดือนกันยายน 2566 เบอร์มิงแฮมได้ประกาศล้มละลายโดยยุติการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมด และยังเป็นเมืองที่ติดหนี้มากที่สุดอันดับที่ 5 ของยุโรป
นี่เป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย ถ้าทราบสถานะการเงินของเมืองนี้ แต่หลายคนคงจะไม่ทราบว่ามีหลายเมืองที่มีสถานะเหมือนเบอร์มิงแฮม และอาจทำให้สหราชอาณาจักร "พังทลาย" ลงได้
1. สาเหตุมันเริ่มมาจาก ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 พนักงานของรัฐบาลเมืองที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ 5,000 คนชนะคดี หลังจากฟ้องร้องต่อศาลว่าพนักงานผู้หญิงไม่ได้โบนัสเหมือนพนักงานผู้ชาย ตั้งแต่นั้นมา รัฐบาลเมืองต้องจ่ายเงินเกือบ 1,100 ล้านปอนด์เป็นการชดเชย ค่าชดเชยล่าสุดที่ต้องจ่ายคือ 760 ล้านปอนด์ ในประเด็นนี้ คือการปฏิบัติต่อพนักงานไม่เป็นธรรม จนถูกฟ้องย้อนหลัง
2. รัฐบาลเมืองเบอร์มิงแฮมมีโครงการติดตั้งระบบคลาวด์โดยบริษัท Oracle IT แต่ที่ต้นทุนการติดตั้งระบบบานปลายจาก 13 ล้านปอนด์มาเป็น 100 ล้านปอนด์ ยังขาดเงินอีกถึง 87 ล้านปอนด์ ในประเด็นนี้คือการประเมินโครงการผิดพลาด
3. แต่เมืองเบอร์มิงแฮมมีสถานะการเงินที่แย่กว่านั้นมาก แม้ว่าจะมี GDP สูงมาก แต่รายได้เข้าเมืองไม่ได้สูง เคยติดอันดับหน่วยงานท้องถิ่นที่จนที่สุด (most deprived) อันดับที่ 9 ในสหราชอาณาจักรตามดัชนีสถานะที่ถูกริดรอนปี 2010 (Indices of Deprivation) ซึ่งคำนึงถึงจากรายได้, การจ้างงาน, สุขภาพและความพิการ การศึกษา ทักษะ และการฝึกอบรม อุปสรรคต่อที่อยู่อาศัยและบริการ อาชญากรรม, และสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิต เบอร์มิงแฮมถือเป็นเมืองที่มีสถานะแย่ที่สุดในอังกฤษในแง่รายได้ และในแง่การจ้งงาน
4. ภาษีของรัฐบาลเมืองอาจจะเพิ่มขึ้น 10% นั่นหมายความว่าประชาชนอาจจะล้มละลายตามเมืองไปด้วย เพราะเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรก็ย่ำแย่อยู่แล้ว แต่ที่แย่ไปกว่านั้น บริการต่างๆ ที่จัดให้ประชาชนจะต้องถูกตัดทิ้งไปเพื่อประหยัดงบประมาณ ทรัพย์สินของเมืองที่ถือเป็นของประชาชนร่วมกันก็จะถูกนำออกขาย ประเด็นนี้ คือประชาชนต้องมารับเคราะห์ เพราะความผิดพลาดของรัฐบาล
5. ที่น่ากังวลสำหรับคนสหราชอาณาจักรก็คือ เบอร์มิงแฮมไม่ใช่เมืองแรกที่ประกาศล้มลาย และขอรับการคุ้มครองตามมาตรา 114 แต่นี่คือเมืองที่ 7 นับตั้งแต่ปี 2022 นั่นหมายความว่าการบริหารท้องถิ่นของประเทศมีปัญหางบประมาณอย่างหนัก และคนที่ต้องแบกรับคือประชาชน
6. จากข้อมูลจากการวิจัยโดยธนาคารฝรั่งเศส L'Atelier BNP Paribas ระบุว่าสหราชอาณาจักรอยู่ในอันดับที่สองรองสุดท้ายจาก 36 ประเทศในยุโรปในด้านการเคลื่อนไหวทางสังคม และมีความสามารถต่ำในการให้ค่าแรงสูงและลดค่าครองชีพให้ต่ำ นั่นหมายความว่าประชาชนสหราชอาณาจักรเสี่ยงที่จะมีรายได้ต่ำ แต่ค่าครองชีพสูง
7. สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เลวร้าย ไซมอน ทิลฟอร์ด (Simon Tilford) ผู้อำนวยการบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ Oracle Partnership กล่าวว่า "ไม่ว่าจะใช้เกณฑ์ใดก็ตาม สหราชอาณาจักรต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมที่ร้ายแรง ซึ่งจะรุนแรงขึ้นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่"
8. ทิลฟอร์ด ชี้ว่า "ประเทศนี้ (สหราชอาณาจักร) มีสถานะสวัสดิการที่จำกัดที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงสหรัฐอเมริกา ด้วยผลที่ตามมาคือครัวเรือนชนชั้นแรงงานมีความเสี่ยงมากกว่าประเทศอื่นๆ" และ "คนหนุ่มสาวชาวอังกฤษในปัจจุบันต้องเผชิญกับการจ่ายภาษีมากกว่าที่พวกเขาจะได้รับคืนในแง่ของเงินบำนาญและผลประโยชน์อื่นๆ"