ลาฟรอฟลั่นระเบียบโลกเก่าที่ชี้นำโดยชาติตะวันตกกำลังทุรนทุราย เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เอามันแล้ว
แผนกข่าวของสหประชาชาติรายงานว่า เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวกับสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันเสาร์ว่าระเบียบโลกใหม่กำลังเกิดขึ้นจากการต่อสู้ระหว่างพวกนักล่าอาณานิคมใหม่ที่เป็นชนกลุ่มน้อยและ “คนส่วนใหญ่ทั่วโลก” ที่พยายามยุติการครอบงำของชาติตะวันตกมานานหลายทศวรรษ
เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวว่าอำนาจกำลังหลุดลอยไปอยู่ในมือของระเบียบเก่า ซึ่งถูกครอบงำโดยรัฐบาลสหรัฐที่วอชิงตัน ซึ่งปฏิเสธหลักการแห่งความเสมอภาคมานานแล้ว
ชาวอเมริกันและชาวยุโรป “ทำตามสัญญาทุกประการ…แล้วก็ไม่ปฏิบัติตาม” เขากล่าวกับผู้ร่วมประชุม
แผนกข่าวของสหประชาชาติรายงานว่า ลาฟรอฟ ได้อ้างคำพูดของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่กล่าวว่าชาติตะวันตกคือ "อาณาจักรแห่งความเท็จอย่างแท้จริง" ซึ่งแม้แต่ในระหว่างการต่อสู้กับลัทธินาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังได้วางแผนโจมตีพันธมิตร คือสภาพโซเวียต
ลาฟรอฟ กล่าวว่า ผู้นำโซเวียตและรัสเซียในขณะนั้น “ได้รับคำรับรองทางการเมืองที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการไม่ขยายพันธมิตรทางทหารของ NATO ไปทางทิศตะวันออก” ซึ่งกลายเป็นการหลอกลวงแท้ๆ
ทั้งนี้ การขยายพันธมิตรไปทางตะวันออกในเวลานี้ได้เข้ามาประชิดพื้นที่ที่รัสเซียมองว่าเป็น "เขตอิทธิพล" ของตน นั่นคือยุโรปตะวันออกและล่าสุดประชิดพรมแดนรัสเซีย นั่นคือความพยายามที่จะทำยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของ NATO
ในส่วนของกรณียูเครน ลาฟรอฟ กล่าวว่าชาติตะวันตก “ยังคงเสริมกำลังทหารให้กับระบอบการปกครองของรัฐบาลยูเครนที่เกลียดชังรัสเซียในเคียฟต่อไป” และใช้โอกาสนั้น “ทำสงครามลูกผสมกับประเทศของเรา”
“เราสามารถเรียกสิ่งนี้ว่าสงครามลูกผสมได้ แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนความเป็นจริง” ลาฟรอฟกล่าวกับนักข่าวจากการายงานของ CNN และเสริมว่า “พวกเขามีส่วนร่วมในการสู้รบกับเราอย่างตรงไปตรงมาโดยใช้ชาวยูเครนมาบังหน้า”
แผนกข่าวของสหประชาชาติรายงานต่อไปว่า ลาฟรอฟได้กล่าวว่าเป็นสิ่งที่ “ชัดเจน” ว่าการสร้างพันธมิตรลูกน้อง (หมายถึงยูเครนและชาติพันธมิตรใหม่ขจองชาติตะวันตก) นั้น “มุ่งเป้าไปที่รัสเซียและจีน” เพื่อพยายามบ่อนทำลายความร่วมมมือระดับภูมิภาคที่ “ครอบคลุม” มากขึ้น
แต่เขามองว่ารัสเซียและจีนเป็นผู้ปกป้องระเบียบโลกใหม่ที่มีหลากหลายขั้วอำนาจ หรือ "ระเบียบโลกที่ก้าวหน้า" และตอนนี้ชาติตะวันตกกำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อขัดขวางมัน
Photo credit : Russian Foreign Ministry - МИД России