เขาคือใคร? คำถามนี้สำคัญพอๆ กับคำถามที่ว่า 'เสอจื้อเจียง' คนนี้สำคัญขนาดไหน?

'เสอจื้อเจียง' (She Zhijiang/佘智江) ถูกทางการไทยจับตัวได้ในปฏิบัติการที่บ้าระห่ำที่สุดครั้งหนึ่ง เป็นการร่วมมือระหว่างฝ่ายข่าวกรองของจีนกับตำรวจไทย โดยใช้ผู้หลักผู้ใหญ่ของไทยเป็นนกต่อโดยที่เขาไม่รู้ตัว แต่เมื่อจับตัวเสอจื้อเจียงได้แล้ว ทางการไทยยัดเขาเข้าคุกที่ไทย ยังไม่ยอมส่งตัวให้จีน แม้ว่าจีนจะต้องการตัวชายคนนี้อย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ 

เสอจื้อเจียงสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ? ตอบว่าเขาสำคัญอย่างมากในวงการจีนเทาที่คุมพื้นที่ธุรกิจจีนเทาขนาดใหญ่ที่เมียนมา (ซึ่งเพิ่งถูกจีนกวาดล้างไป) เขารู้จักกับคนใหญ่คนโตในเมืองไทย และเขาเป็นผู้คุมธุรกิจในเขตเกาะกงและกำปงโสม (สีหนุวิลล์) ที่กัมพูชา ซึ่งมีข่าวว่าจีนอาจจะใช้เคลื่อนไหวทางการทหาร นี่คือความสำคัญของเขาแบบสั้นๆ 

ก่อนที่จะรู้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับคนใหญ่โตในไทยและในจีนอย่างไร เราต้องปูพื้นก่อนว่า เสอจื้อเจียง มีความเป็นมาอย่างไร และนี่คือโปร์ไฟล์ของเขา 

1. เสอจื้อเจียง เกิดที่เมืองเส้าตง มณฑลหูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี พ.ศ. 2525  เมื่อเป็นวัยรุ่นลาออกจากโรงเรียน เคยทำงานเป็นเชฟ คนล้างรถ คนขับรถเครื่องจักรการเกษตร เคยซ่อมยานยนต์ เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ทำงานขาย และอาชีพอื่นๆ และเดินทางไปฟิลิปปินส์ในช่วงอายุ 20 

2. ที่ฟิลิปปินส์ เขาสร้างตัวจากธุรกิจการพนัน เหมือนกับจีนเทาคนอื่นๆ ที่ใช้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฐานที่มั่นในการสร้างธุรกิจใต้ดิน พ.ศ. 2557 ศาลเขตพัฒนาเศรษฐกิจเอียนไถ ในมณฑซานตง ประเทศจีน ตัดสินว่าเขาดำเนินธุรกิจลอตเตอรีออนไลน์อย่างผิดกฎหมายในฟิลิปปินส์ การที่ศาลจีนตัดสินเขาเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของเขาส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน เขาทำกำไรรวม 298 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่นั้นมา เสอจื้อเจียง ก็เป็นที่ต้องการของทางการจีน  

3. เสอจื้อเจียง ไม่เพียงยังลอยนวลอยู่ได้ แต่ในปี พ.ศ. 2558 ธุรกิจของเขาขยายไปยังกัมพูชา และธุรกิจของเขาเกี่ยวข้องกับการพนันของจีนในประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ เขายังขยายธุรกิจเดิมในฟิลิปปินส์โดยได้รับกรรมสิทธิ์ในสปาและศูนย์รวมความบันเทิงในกรุงมะนิลา แต่ฐานที่มั่นที่แท้จริงของหลังจากนี้ คือ กัมพูชาและเมียนมา รวมถึงไทย 

4. ในปี พ.ศ. 2560 เขาได้รับสัญชาติกัมพูชาและเปลี่ยนชื่อเป็น "เสอ เกรียง ขาย" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ตัง เกรียง ขาย" ทั้งนี้ในกัมพูชา ตราบใดที่ชาวต่างชาติจ่ายเงิน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลกัมพูชาจะให้สัญชาติกัมพูชาแก่พวกเขา  ในปีเดียวกันนั้น เขาได้จดทะเบียนบริษัท Yatai International Holdings Group (亚太国际控股集团) หรือ Yatai IHG ในฮ่องกง บริษัทไม่มีสำนักงานในฮ่องกง แต่กลับมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทย 

5. ในปี พ.ศ. 2560 เช่นกัน Yatai IHG ได้รับสิทธิในการพัฒนาพื้นที่พักอาศัยขนาดเล็กในเขต "ชเว กก กู" ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองชายแดนเมียนมา-ไทยที่เมืองเมียวดี เขตชเว กก กู ถูกควบคุมโดยกองกำลังพิทักษ์ชายแดนแห่งรัฐกะเหรี่ยง Yatai IHG อ้างว่าพัฒนาเขตเศรษฐกิจที่เรียกว่า Yatai Smart Industrial New City  (หรือที่รู้จักกันในชื่อ KK Park) โดยมีพื้นที่ 120 ตารางกิโลเมตร  แต่มันเกินขอบเขตที่อนุญาตโดยรัฐบาลเมียนมา ทำให้ทางการเมียนมาจับตาที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ 

6. ในปี พ.ศ. 2562 รัฐบาลกัมพูชาประกาศห้ามการพนันออนไลน์ เป็นผลให้คาสิโนจำนวนมากและฐานที่มั่นการฉ้อโกงออนไลน์ที่ผิดกฎหมายอื่นๆ ที่เปิดโดยพวกจีนเทาเริ่มถอนตัวออกจากกัมพูชาและค่อยๆ ย้ายไปเมียนมา อาณาจักรจีนเทาของ เสอจื้อเจียง จึงยิ่งใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะถูกบีบจากกัมพูชา และถูกจับตาจากเมียนมา แต่ เสอจื้อเจียง ดูเหมือนจะมีที่ทางในไทยพอสมควร และน่าจะรู้จักกับคนใหญ่คนโตในไทย 

7. แต่อาณาจักรจีนเทาของ เสอจื้อเจียง เริ่มอยู่ยากเข้าไปทุกที ในปี 2563 คนเมียนมาในพื้นที่เริ่มกังวลกัลการเวนคืนที่ดิน และการค้ามนุษย์ กองกำลังติดอาวุธ ไหนจะเรื่องคนจีนอพยพเข้ามา โดยเฉพาะพวกคนจีนที่มีเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับอาชญากร จนในปีเดียวกันนั้น รัฐบาลเมียนมาได้จัดตั้งศาลเพื่อสอบสวนกิจกรรมที่ผิดกฎหมายใน KK Park เป็นผลให้บางโครงการที่ไม่ได้รับใบอนุญาตการพัฒนาก็หยุดลง ถึงขนาดนี้แล้ว ดวงของเขาก็ยังดีอยู่ เพาะจู่ๆ เมียนมาเกิดรัฐประหาร ทหารเมียนมาวุ่นกับการจัดการบ้านเมืองจนไม่ได้ทำอะไรกับเขา

8. แต่ เสอจื้อเจียง ก็ยังไม่หยุดโหนรัฐบาล คราวนี้เขาถึงกับโหนรัฐบาลจีนโดยกล่าวว่า KK Park ตอบสนองอย่างแข็งขันต่อ "โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative) ที่ริเริ่มโดยรัฐบาลจีน และมีส่วนร่วมในโครงการสำคัญในการก่อสร้าง การพัฒนา และการดำเนินงานของ 'ระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา' อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตจีนในเมียนมาระบุว่าโครงการ KK Park เป็นการลงทุนจากประเทศที่ 3 และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ Belt and Road Initiative

9. การโหนรัฐบาลจีนครั้งนี้มีราคารที่ต้องจ่ายสูงมาก มันไม่เหมือนกับการดีลกับทางการกัมพูชาที่ยอมให้จีนเทา และในเมียนมาที่ชายแดนถูกควบคุมโดยกองกำลังต่างๆ และสามารถ "ใช้เงินคุยได้" แต่ถ้าคิดเล่นกับทางการจีน มันเป็นการเล่นผิดคนชัดๆ มีโอกาสที่จะชะตาขาดเอาง่ายๆ และชะตาของ เสอจื้อเจียง ก็ขาดสะบั้นลงจริงๆ 

10. การอ้างรัฐบาลจีนและการลวงคนจีนไปที่ KK Park ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคด้านการค้ามนุษย์และอาชญากรไซเบอร์ ทำให้ทางการจีนประสานงานกับทางการไทยเพื่อหาทางรวบตัว เสอจื้อเจียง ในประเทศไทย แต่ เสอจื้อเจียง ถูกออกหมายจับโดยตำรวจสากลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 อยู่แล้ว เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 เสอจื้อเจียง ก็ถูกจับกุมที่ประเทศไทยในปฏิบัติการเหนือเมฆสุดๆ 

ทางการจีนช่วยเหลือในแง่ข่าวกรอง แต่ทางการไทยเป็นผู้จับ และควบคุมตัวเขาไว้ โดยที่ทางการจีนต้องการตัวและขอให้ทางการไทยส่งตัวไป แต่จนถึงทุกวันนี้ (ปลายเดือนกันยายน 2566 ที่บทความนี้เขียนขึ้น) เสอจื้อเจียง ก็ยังไม่ถูกส่งตัวไปที่จีน 

มันมีเหตุผลอะไรกันแน่ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยใจระทึก

รายงานพิเศษโดยทีมข่าว The Better